25 กันยายน 2566 เป็นวันแรกที่ประเทศไทยเปิด ‘ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน’ เพื่อยกระดับธุรกิจการท่องเที่ยว ให้เศรษฐกิจในประเทศดีขึ้น หลังยอดนักท่องเที่ยวยังไม่ถึงตัวเลขที่คาดไว้ ซึ่งการฟรีวีซ่านี้คาดว่ามีนัยสำคัญที่เกิดขึ้นมากมาย จากมุมมองนักท่องเที่ยวจีน ที่มองภาพลักษณ์จากประเทศไทยไม่เหมือนเดิม
ฟรีวีซ่าจีนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว จากรัฐบาลที่มีมาตรการฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน จะได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว และให้อยู่ในประเทศไทยได้ไม่เกิน 30 วัน เป็นกรณีพิเศษ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 - กุมภาพันธ์ 2567 เป็นระยะเวลา 5 เดือน ซึ่งจะเป็นช่วงไฮซีซั่นการท่องเที่ยวของไทย อีกทั้งยังรวมถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนในช่วงต้นปี 2567 เพื่อดึงนักท่องเที่ยวชาวจีนให้มาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น
ตลาดนักท่องเที่ยวจีน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 - 17 กันยายน 2566 มีจำนวนสะสม 1,853,430 คน โดยนักท่องเที่ยวมีวันพักเฉลี่ย 4-10 วัน และค่าใช้จ่ายต่อทริปประมาณ 30,000-100,000 บาทต่อคน โดยเป็นเป้าหมายสำคัญจากนโยบายของประเทศไทย ที่คาดว่ามาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) จะช่วยกระตุ้นภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวจีนให้เพิ่มขึ้น และเข้าสู่เป้าหมายรายได้ 2566 นี้ได้
...
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่า มาตรการฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนของรัฐบาล จะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 500,000-700,000 คน โดยจำนวนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นนี้ จะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยปี 2566 รวมกว่า 4.2 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 ล้านคน ส่วนรายได้เพิ่มขึ้นจากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนนี้ จะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูการท่องเที่ยว และภาคเศรษฐกิจของประเทศได้จำนวนมาก “การฟรีวีซ่าถึงมีนัยสำคัญหลายๆ อย่างต่อประเทศไทย”
สาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนน้อยลง
- ความกังวลด้านความปลอดภัย
บทความจาก South China Morning Post กล่าวว่า นักท่องเที่ยวชาวจีน เริ่มหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าประเทศไทย เนื่องจากภาพยนตร์อาชญากรรมเกี่ยวกับการลักพาตัวของประเทศจีน ที่มีการกล่าวอ้างอิง หรือลักษณะต่างๆ ดูเหมือนจะเป็นประเทศไทย ซึ่งกำลังเป็นกระแสบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงข่าวการลักพาตัวชาวจีนในก่อนหน้านี้ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลง เนื่องจากความไม่ไว้ใจในความปลอดภัย ในขณะที่ประเทศไทยต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเดิมทีประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนมากกว่า 10 ล้านคนในแต่ละปี ก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19
- การแข่งขันด้านการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นของประเทศเพื่อนบ้าน
ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีตลาดการท่องเที่ยวที่ได้เปรียบ พร้อมนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวที่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าไทยมีจุดอ่อนเรื่องการบริหารจัดการ ที่เห็นได้ชัด คือ ทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำให้ในประเทศใกล้เคียงในแถบอาเซียนพร้อมที่จะพัฒนา เพื่อที่จะเข้ามาเป็นคู่แข่งคนสำคัญในตลาดท่องเที่ยวในหลากหลายประเทศแล้วเช่นกัน ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนต่างมีทางเลือกใหม่ๆ ที่แตกต่างออกไป และเป็นจุดมุ่งหมายที่ท้าทายไปจากเดิม
- ความวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศไทย
แน่นอนว่าปัจจุบันการเมืองไทย เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน และมีความแน่นอนมากขึ้น แต่การผันผวนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีน รวมถึงประเทศต่างๆ ยังคงไม่ค่อยกล้าตัดสินใจเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากนัก เพราะความไม่แน่นอนนี้ ทำให้เสียโอกาสในการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนที่ได้สูญหายไป ส่งผลให้เป้าหมายเชิงตัวเลข และเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ไว้ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ
...
- เศรษฐกิจในจีนยังชะลอตัว
ข้อมูลของกลุ่มตลาดประเทศจีน จากธนาคาร RHB ที่คาดการณ์ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าจากจีนมายังไทยอาจลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจของจีนเกิดการชะลอตัวในช่วงครึ่งปีหลัง จะทำให้อุปสงค์การท่องเที่ยวในต่างประเทศของคนจีนลดลง และชาวจีนเองเริ่มหันไปกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวในประเทศตนเองให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการปรับตัวหลังจากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาอย่างยาวนาน ทำให้ฐานการเงินในแต่ละบุคคลยังไม่คงที่ และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
- พฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป
ข้อมูลจาก ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีน 'เดินทางมาท่องเที่ยวเอง' เพิ่มขึ้นมากกว่า 'ทัวร์' ซึ่งเป็นตลาดเก่าของประเทศไทย โดยส่วนใหญ่จะใช้ OTA (Online Travel Agency) จากการเก็บสถิติในหลายๆ แพลตฟอร์ม ซึ่งการเดินทางมาท่องเที่ยวเองส่วนใหญ่นั้น อาจจะเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เล็กลงจากเดิม ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวไม่เข้ามาเยอะมาก รวมทั้งพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป จากโลกออนไลน์ที่พัฒนาขึ้น มีความอิสระในการเดินทาง ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนมีโอกาสใช้เวลาในประเทศไทยน้อยลง เพื่อแบ่งเวลาเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศใกล้เคียงได้เช่นกัน
...
ฟรีวีซ่าจีน เป็นอีกทางออก และโอกาสหนึ่งที่สามารถกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีน อยากกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเรายังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ยังสร้างความน่ากังวล และภาพลักษณ์ในแง่ต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนมองกลับมาในแง่ลบ
การฟรีวีซ่า จึงเป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้น และลบภาพลักษณ์ที่เกิดขึ้นได้บ้าง แต่การที่จะรีดศักยภาพให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมายังประเทศไทยดังเดิมอย่างมีศักยภาพนั้น ยังคงต้องมองปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องแก้ปัญหาควบคู่ไปด้วยเช่นกัน
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ แอตต้า (ATTA) ให้ความเห็นว่า มาตรการฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีน ถือเป็นการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางท่องเที่ยวมาไทยได้มากขึ้น แต่โอกาสของประเทศไทยในการดึงนักท่องเที่ยวจีนมาไทยยังมีอีกมาก หากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เร่งหาวิธีการสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง และเล่าภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับชาวจีนได้ทราบว่า ประเทศไทยไม่ได้อันตรายเหมือนกับที่มีการแชร์ในโซเชียลมีเดียในจีน เพราะในช่วงที่ผ่านมา นอกจากมีการแชร์ในโซเชียลมีเดียว่าประเทศไทยน่ากลัวแล้ว ยังมีภาพยนตร์ที่กล่าวไปข้างต้นที่เผยแพร่ในประเทศจีน ทำให้ประเทศไทยดูน่ากลัวมากขึ้น จนชาวจีนหลายคนลังเลที่จะเดินทางมาประเทศไทย แม้จะได้รับฟรีวีซ่าแล้วก็ตาม
ข้อมูล : South China Morning Post, ททท., RHB Bank และ ATTA
ภาพ : istock