5 ปีที่แล้ว Landokmai เป็นที่รู้จักในฐานะดูโอ้หญิงร้องเพลงคัฟเวอร์
4 ปีที่แล้ว Landokmai เป็นที่รู้จักในฐานะดูโอ้หญิงร้องเพลงรักที่ผิดหวัง พาผู้ฟังจมดิ่งไปกับความเศร้าผ่านเนื้อเพลงที่กัดกินหัวใจ
3 ปีที่แล้ว Landokmai เป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินหญิง ก้าวเข้าสู่ค่ายเพลงชื่อดังอย่าง What The Duck ขึ้นโชว์บนเฟสติวัล และมีแฟนเพลงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ปัจจุบัน Landokmai เป็นศิลปินหญิงดูโอ้ที่มีเพลงรักที่สมหวังเป็น “เพลงรักเพลงแรก” แล้ว
สิ่งเหล่านี้เป็นเสมือนเครื่องพิสูจน์ว่า อูปิม-ลานดอกไม้ ศรีป่าซาง และ แอนท์-มนัสนันท์ กิ่งเกษม สมาชิกจาก Landokmai (ลานดอกไม้) เติบโตบนเส้นทางดนตรีได้เป็นอย่างดี
แม้ท่อนหนึ่งในเพลงของทั้งคู่จะเขียนไว้ว่า “…เพลงรัก ช่างยากนักจะเขียนให้งดงามเท่าความจริง สิ่งที่ฉันได้เจอ…” แต่จากยอดผู้เข้าชมมิวสิกวิดีโอ ยอดผู้ฟังทุกช่องทางสตรีมมิง รวมถึงคนดูหน้าเวทีที่นับไม่ถ้วน ก็เป็นเครื่องยืนยันอีกเสียงว่า Landokmai นำเสนอเรื่องราวความรักผ่านบทเพลงได้อย่างน่าประทับใจมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเพลงรักที่สมหวังหรือผิดหวัง
ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Landokmai ถึงเบื้องหลังความสำเร็จ แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน รวมถึงที่มาของ “เพลงรักเพลงแรก” เพลงใหม่ล่าสุด และเป็นเพียงเพลงรักที่สมหวังเพลงแรกตลอดเส้นทางดนตรี 5 ปี ผ่านบทสนทนาต่อไปนี้
สนทนากับ Landokmai (ลานดอกไม้) ดูโอ้หญิง เจ้าของเพลงดังปลอบใจผู้ผิดหวัง
...
Q : พรหมลิขิตหรือความบังเอิญ
แอนท์ : พวกเราเรียนที่เดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยมหิดล คณะดุริยางคศิลป์ค่ะ ตอนเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยมหิดล ไม่มีเพื่อนเลย ไม่มีเพื่อนจากโรงเรียนเก่าด้วย แล้วทางมหาวิทยาลัยเขาส่งอีเมลมาผิด เป็นแบบฟอร์มกรอกข้อมูลส่วนตัวของอูปิม ในนั้นจะมีเบอร์โทรศัพท์ค่ะ เราไม่กล้าไปวันปฐมนิเทศคนเดียว ไม่รู้จักใคร ก็เลยใช้เบอร์อูปิมเสิร์ชเป็นเบอร์ไลน์ แล้วก็ทักไปหาในไลน์
Q : ที่มาของชื่อวงที่หลายคนเข้าใจผิด
อูปิม : ชื่อมาจากชื่อจริงค่ะ แล้วลานดอกไม้ ในที่นี้ไม่ได้แปลว่า “ลาน” หรือ “ทุ่งที่มีดอกไม้” แต่ว่าเป็นภาษาล้านนาค่ะ “ลาน” แปลว่า “ต่างหู” ชื่อปิมก็เลยแปลว่า “ต่างหูรูปดอกไม้”
Q : เรียนคณะดุริยางคศิลป์มีส่วนช่วยในการทำเพลงไหมมากน้อยแค่ไหน
อูปิม : แอนท์จะเรียนเป็นธุรกิจดนตรี ส่วนปิมเรียนเป็นเพอร์ฟอร์แมนซ์ (Performance) ค่ะ คือ เรียนไปเป็นอาร์ติสต์เลย แอนท์ก็จะคอยเตือนว่าให้ทำเพลงที่คนอื่นฟังได้ด้วย
แอนท์ : เหมือนแค่เบลนด์ๆ แอนท์จะเป็นคนฟังอะไรก็ได้ ไม่ยากเท่าอูปิมค่ะ ก็จะคอยเบลนด์ให้ว่าคนทั่วไปเขาฟังแล้วเขาเข้าใจได้
Q : สาขาธุรกิจดนตรีกับการทำมาร์เกตติ้ง
แอนท์ : มันน่าจะเป็นเหมือนตรรกะบางอย่าง ที่ทำให้เข้าใจผู้คนส่วนมากแล้วเอามาปรับใช้ อย่างคนที่ทำเพลงหรืออูปิมเอง อาจจะไม่ได้คิดเลยว่า เพลงนี้อยากจะให้คนกลุ่มไหนฟัง คิดแค่ว่า ฉันอยากทำเพลงนี้ ส่วนแอนท์จะดูในเชิงกลุ่มเป้าหมายแทน เพระว่าอยากให้เพลงไปถึงคนฟังให้ได้เยอะที่สุด
Q : อิทธิพลจาการเติบโตมาในครอบครัวศิลปินของอูปิม
อูปิม : จริงๆ รู้สึกว่าไม่ได้ตั้งใจหยิบความเป็นล้านนามาค่ะ แต่ว่ามันซึมอยู่ในร่างกายเราหมดแล้ว เพราะว่าโตมาท่ามกลางแบบศิลปะที่เป็นวัฒนธรรมแบบล้านนาเลยค่ะ คุณพ่อก็เป็นอาจารย์สอนเกี่ยวกับวรรณกรรมล้านนา คุณแม่ก็ขายผ้าซิ่นขายชุดพื้นเมือง เราวนเวียนเกี่ยวกับอะไรที่เป็นวัฒนธรรมมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เวลาเรามาเขียนเพลง ความเป็นล้านนาก็ออกมาเอง
Q : ส่วนแอนท์เป็นคนกรุงเทพฯ จุดร่วมในการทำงานคืออะไร
แอนท์ : แรกๆ นี่ยากมาก เพราะว่าเราฟังเพลงต่างกันสุดขั้ว แทบจะไม่มีจุดเชื่อม หลังๆ มาก็เริ่มฟังเพลงใกล้ๆ กันมากขึ้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร แต่เหมือนเป็นส่วนผสมสไตล์การฟังเพลงของกันละกัน
Q : ปัญหาที่เจอในช่วงแรกของการทำเพลงเมื่อเทียบกับปัจจุบัน
แอนท์ : แรกๆ เลย น่าจะเป็นเรื่องที่เราทำกันเองไม่ได้ค่ะ เราไม่สามารถแบบใช้โปรแกรมหรือถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในหัวลงไปในโปรแกรมได้ เพราะฉะนั้นเราต้องมีคนที่คอยเป็นคนเรียบเรียง (Arrange) กับโปรดิวเซอร์
การทำงานกับโปรดิวเซอร์แต่ละคนก็ต่างกันนะคะ เพื่อนเราแต่ละคนที่เป็นโปรดิวเซอร์ ก็จะมีสิ่งที่อยากใส่ของตัวเองลงไปด้วยเหมือนกัน ก็ต้องบาลานซ์ ยากกว่าการทำกันเอง แต่ว่าพอปัจจุบันทำเพลงกันเองได้ก็ง่ายขึ้น
เมื่อก่อนพออูปิมแต่งเพลงเสร็จ เราก็จะไปหาคนคนหนึ่ง เพื่อให้เขาขึ้นเพลงมาให้เรา แต่ว่าปัจจุบันคือ พอแต่งเพลงปุ๊บ เราสองคนก็จะมานั่งหน้าคอมพิวเตอร์ ขึ้นเดโม่ (Demo) ขึ้นมา จนเป็นรูปเป็นร่าง แต่ถ้าเราทำเพลงในแต่ละเครื่องดนตรีที่เราไม่ได้มีทักษะเรื่องนั้น อาจจะให้เพื่อนมาช่วยคิด เช่น เบส กลอง แล้วพอเสร็จปุ๊บ ก็จะไปเข้าห้องอัดแล้ว ส่งให้คนมิกซ์มาสเตอร์ต่อ
Q : มีปัญหาการทำเพลงที่ไม่ลงตัวไหม แก้ไขอย่างไร
...
อูปิม : โอ๊ย ตลอดเลย (หัวเราะ)
แอนท์ : จะใช้วิธีสร้างบุคคลที่ 3 ขึ้นมา ถามเอาเสียงส่วนมากค่ะ ไม่ก็เราเป็นฝ่ายยอม
อูปิม : เพราะปกติปิมจะไม่ยอมค่ะ
แอนท์ : อูปิมไม่เคยยอมอยู่แล้ว ซึ่งเราก็ไม่ใช่คนไม่ยอมคน แต่เชื่อว่ามันจะต้องมีผู้นำ จะยกให้ปิมในเรื่องแบบออกไอเดีย แต่ว่าบางอย่างถ้ามันสุดโต่งเกิน จนรู้สึกว่ามันผิดแปลก ก็จะไปพาบุคคลอื่น ประมาณ 3-5 คน มาบอกว่ามึงอันนี้แปลก
อูปิม : เพื่อมาการันตีว่ามึงแปลกแล้วนะ (หัวเราะ)
แอนท์ : แต่ว่าอะไรที่ไม่แปลกเกินไปก็ปล่อยผ่าน ส่วนใหญ่เรื่องแปลกก็อยู่ในชีวิตประจำวัน เรื่องเกร็ดความรู้
Q : เพื่อนๆ เห็นด้วยกับอูปิมไหม
แอนท์ : มีค่ะ มีเยอะเลย กลายเป็นกูแปลก (หัวเราะ) ตอนจบคือไม่ใช่ปิมแปลก ก็มีเยอะ
อูปิม : (หัวเราะ ปรบมือ)
แอนท์ : เราจะเป็นคนค่อนข้างขี้กลัว คิดมากว่า อย่างนี้มันจะเกินไปเปล่าวะ แล้วพอถามคนส่วนมากก็ ไม่ มึงคิดมากเกิน สุดท้ายก็เลือกทำตามหมู่มาก
Q : ความท้าทายจากร้องคัฟเวอร์ สู่ศิลปินบนเวทีเฟสติวัล
...
แอนท์ : น่าจะจุดที่คนชอบเราคัฟเวอร์มากกว่า
อูปิม : ใช่ค่ะ สักพักใหญ่ๆ เลย ช่วงนี้ทุกคนก็ยังชอบคัฟเวอร์มากกว่า แต่ปิมก็รู้สึกว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดนะคะ เคยมีคนบอกมาว่า ลานดอกไม้เป็นวงที่แบบว่าเอาเพลงคนอื่นมาเรียบเรียง (Arrange) แล้วน่าสนใจ ทำได้ดี ซึ่งปิมก็รู้สึกว่า มันก็เป็นเป็นคำที่ดีนะ เพราะว่าคนก็จดจำเราได้จากการคัฟเวอร์ซะส่วนใหญ่ เพราะว่าเพลงเราฟังยาก แต่ก็รู้สึกดีมากๆ
Q : แรงบันดาลใจในการทำเพลง
อูปิม : มันคละกันไปหมดค่ะ บางเพลงเราได้แรงบันดาลใจมาจากการได้ดูหนังดีๆ สักเรื่อง หรือว่าบางเพลงเราเจอความเป็นจริงแล้วก็เอามาเขียน หรือว่าบางเพลงเราเห็นคนรอบข้างประสบเหตุการณ์แบบนี้มา เราก็มาเขียน มันขึ้นอยู่กับตอนนั้นว่าปิมอินกับอะไร รู้สึกกับอะไร
อย่างเพลงรักเพลงแรกก็เป็นเพลงที่ปิมประทับใจศิลปินคนหนึ่งค่ะ แล้วรู้สึกว่าเขาเป็นแรงบันดาลใจให้เรามีแรงทำอะไรในแต่ละวัน ปิมก็เลยอยากเขียนเพลงให้เขามากๆ ก็เลยเกิดมาเป็นเพลงนี้ค่ะ ทั้งๆ ที่เพลงรักมันเขียนยากค่ะ
Q : นิยามความรักของท้ังสองคน
อูปิม : สำหรับปิมความรักมันเป็นสิ่งที่สวยงามมากค่ะ บางคนชอบคิดว่า ความคิดของปิมมันโลกสวยมาก แต่ปิมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ปิมรู้สึกว่า รักคือ สิ่งที่มันขับเคลื่อนโลก ขับเคลื่อนมนุษย์ ถ้าคนคนหนึ่งไม่มีความรักให้สิ่งไหนเลย ไม่มีความรักให้เพื่อน ไม่มีความรักให้สัตว์ ไม่มีความรักให้ครอบครัว ไม่มีความรักให้ธรรมชาติ การงานอาชีพ หรือไม่มีความรักให้ตัวเอง ปิมรู้สึกว่า เขาจะไม่หลงเหลือความเป็นมนุษย์เลย
ฉะนั้นการที่เราเป็นมนุษย์ได้ มันก่อเกิดมาจากเรามีความรักให้กับสิ่งต่างๆ แล้วเราก็ได้รับความรักมากมายจากคนรอบข้าง ก็เลยคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดเลยแหละ
...
แอนท์ : ไม่มีอะไรจะตอบเลย ด้วยความเป็นคนที่ไม่ค่อยโฟกัสเรื่องความรู้สึกเหมือนปิม จะรู้แค่ว่าเราอยู่กับสิ่งนี้ เพราะเราชอบ เราสบายใจ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าความรักจริงๆ แล้วมันคือความรู้สึกแบบไหน ถ้าเรารักคนนี้ อาจจะแค่เป็นห่วงคนนี้มาก แต่ก็ไม่ใช่ลูกหลงอย่างนั้นนะคะ ก็เลยไม่เข้าใจขนาดนั้นว่ามันคืออะไร แต่หลักๆ คือ จะต้องอยู่กับสิ่งๆ นั้นแล้วสบายใจ
Q : ในฐานะศิลปินที่ทำเพลงรัก อยากบอกอะไรกับแฟนๆ ที่ผิดหวัง
อูปิม : เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้น กาลเวลามันจะพาเราไปให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ ให้เรื่องที่ร้ายแรงค่อยๆ น้อยลงเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เป็นอดีตค่ะ
แอนท์ : ตามนั้นค่ะ (ผายมือไปทางอูปิม)
Q : แล้วถ้าเป็นเรื่องของตัวเองจะทำอย่างไร
อูปิม : ไม่อยู่กับมันนาน หมายถึงว่า ปิมเป็นคนที่เวลารู้สึกเศร้า หรืออกหัก ปิมจะรู้สึกว่า ปิมไม่จำเป็นต้องเก็บ ปล่อยให้หมด แล้วอีกสักพักหนึ่งมันก็จะหายไปเอง ไม่คิดเยอะ รู้สึกอะไรก็แบบปล่อยออกมาทุกอย่าง มันก็เลยง่ายมั้ง แต่ว่าถ้าเกิดบางคนที่เขาเก็บ ฉันเจ็บ ฉันทรมาน ฉันทุกข์ และฉันเก็บ ไม่บอกใคร ไม่ยอมร้องไห้ ปิมว่าอันนั้นค่อนข้างใช้เวลานาน
Q : "เพลงรักเพลงแรก" เพลงรักที่สมหวังของ Landokmai
อูปิม : ต้องเกริ่นว่าปิมเขียนเพลงรักตั้งแต่ปี 2 ยังไม่เคยเขียนเพลงรักที่สมหวัง ฉันรักเธอ เธอก็รักฉันตอบได้เลยสักครั้ง มีคนคนหนึ่งพูดว่า "สาเหตุที่พี่อูปิมเขียนเพลงรักแบบสมหวังไม่ได้สักที หรือว่าพี่ชินกับการที่มีรักดีๆ มาตลอด ผมว่าพี่น่าจะชินกับมันหรือเปล่า มันไม่ใช่สิ่งพิเศษสำหรับพี่แล้ว"
ปิมไม่ใช่คนที่ชีวิตดราม่านะคะ ชีวิตปิมค่อนข้างจะสมหวังกับความรักตลอด แต่ว่าทำไมถึงเขียนไม่ได้ ก็ตั้งคำถามกับตัวเองตลอด กลายเป็นว่าที่น้องพูดก็อาจจะจริง เพราะปิมเลือกที่จะอินกับกับความรู้สึกที่มันเจ็บปวด ความรู้สึกที่มันเหงา ความรู้สึกที่แบบรักข้างเดียวซะมากกว่า แต่สุดท้ายก็ได้ "เพลงรักเพลงแรก" มา เย้ (ยิ้ม)
ความรู้สึกปิมจะได้เพลงหนึ่งมา บางทีมันต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์ช่วงนั้นหรือสิ่งที่เราได้พบเจอ สำหรับ "เพลงรักเพลงแรก" จู่ๆ มันก็มีไอเดียขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องไปฝืนว่า เพลงรักเพลงแรกคืออะไร
Q : ฝากอะไรถึงคนฟัง “เพลงรักเพลงแรก”
อูปิม : ใต้คอมเมนต์เพลงนี้คือ โอ๊ย เศร้ามาก เราปล่อยเพลงรัก แต่ทุกคนเศร้ากันมาก ก็ไม่เป็นไรนะคะ ก็ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป ก็ขอให้เจอรักใหม่ที่ดีกว่าเดิมนะคะผู้คน (หัวเราะ)
แอนท์ : เหมือนคอมเมนต์ใน YouTube จะประมาณว่า "ลานดอกไม้มีเพลงรักแล้ว แต่เขาไม่อยู่แล้ว" มันจะเยอะมาก เอาจริงๆ ก็เป็นธรรมดา เรื่องความสัมพันธ์เดินหน้าหาต่อไปก็จะเจอคนที่ที่ทำให้เพลงรักเพลงแรกของเรามันหวานกว่าเดิม เดี๋ยวก็เจอ
อูปิม : เออ (ปรบมือ) ดีมากๆ จบได้ดี
แอนท์ : ถ้าได้ดู MV เราตั้งใจจะแบบว่าสื่อออกมาว่าจริงๆ แล้วความรักมันไม่ได้มีแค่ในรูปแบบของคู่รักแต่ว่ามันก็อยู่ในทุกๆ แบบ ความรักมันอยู่รอบตัวเลย พ่อ แม่ สัตว์เลี้ยง เพื่อนๆ ทุกอย่าง แม้กระทั่งสิ่งที่เรากำลังทำอยู่
อูปิม : อาจจะเพราะว่ารุนแรงสุดไง รักในส่วนของแฟน มันอินง่าย (หัวเราะ)
Q : โปรเจกต์ที่อยากทำในอนาคต
อูปิม : เราจะมีอัลบั้มเต็ม เกี่ยวกับเฉดสีสีหนึ่งแล้วกัน อัลบั้มนี้จะครอบคลุมด้วยโทนสีหนึ่งทั้งอัลบั้มเลย ก็อยากให้รอติดตามกันค่ะ
แอนท์ : ใช่ค่ะ น่าจะปล่อยช่วงประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนในปีนี้ ถ้าพูดถึงสิ่งที่อยากทำหลังจากอัลบั้มนี้ คือ เพลงสากล
Q : คอนเสิร์ตใหญ่ของตนเอง
แอนท์ : เรื่องนี้ยังไม่คิดเลยค่ะ พูดถึงคอนเสิร์ตอัลบั้ม ยังไม่อยากจัดในปีนี้นะคะ เพราะว่าคอนเสิร์ตในปีนี้มันเยอะมาก สงสารคนที่ต้องวิ่งดู ถ้าเป็นไปได้ก็คงปีหน้า หรือต้นปี ถ้าคอนเสิร์ตใหญ่คงยัง ยังมีไม่เพลงเท่าไร
Q : เป้าหมายในอนาคตบนเส้นทางดนตรีของ Landokmai
อูปิม : แต่ก่อนนี้จะตอบทุกที่ว่า อยากประสบความสำเร็จในอัลบั้ม แต่ว่าตอนนี้ความฝันของปิมคือ อยากเป็นศิลปินที่ใครๆ ก็บอกว่า เท่ว่ะ ไม่ต้องดังก็ได้ ปิมรู้สึกอยากอยู่ในจุดที่สบายใจ ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ แล้วก็เลี้ยงแมว ปลูกต้นไม้ แต่งเพลง ให้คนเขามองเข้ามาแล้วบอกว่า เท่ว่ะ (หัวเราะ)
แอนท์ : จะเกษียณแล้วเหรอ อีก 3 ปีมึงมาดูบทสัมภาษณ์นี้มึงจะเขินปะวะ
อูปิม : กูชอบ แบบนี้เลย แบบนี้เลยตรงๆ (ยิ้ม)
แอนท์ : ของแอนท์จริงๆ คงจะพากันทำเพลงสากล ถึงจุดหนึ่งคือ อยากทำเพลงที่ไหนก็ได้ในโลก ตัวเราไม่ต้องอยู่ที่ไทยก็ได้ เราอาจจะไปเที่ยว แล้วทำเพลงไปเรื่อยๆ เหมือนมีชื่อเสียงในต่างประเทศ
Q : ฝาก "เพลงรักเพลงแรก" เพลงใหม่หน่อย
อูปิม : ฝากเพลงใหม่ของพวกเราด้วยนะคะ "เพลงรักเพลงแรก" จากลานดอกไม้ ฟังได้ทุกช่องทางสตรีมมิงเลย มิวสิกวิดีโอดูได้ในยูทูบ
แอนท์ : อ๋อ ใช่มิวสิกวิดีโอดู เราทำเองด้วย 100% ถ่ายเอง วาดเอง ตัดเอง เกลี่ยสีเอง กำกับเอง ทุกอย่างฝากด้วยนะคะ น้ำพักน้ำแรงเรา ถ้ามันไม่ดีก็อย่าด่าเราเลย (หัวเราะ) ฝากด้วยค่ะ
ใครที่หัวใจกำลังผลิบานเต็มไปด้วยความรัก จะส่งเพลงนี้ให้กับคนโปรด หรือฟังเพลินๆ เพิ่มความกระชุ่มกระชวยในหัวใจก็ได้ ส่วนใครที่กำลังผิดหวังจากความรักก็ฟังเพลงนี้ได้ไม่ผิด เพราะเราก็เชื่อเช่นเดียวกับที่ Landokmai บอกไว้ว่า อีกไม่นานก็จะได้เจอคนที่ทำให้เพลงรักเพลงแรกของเราหวานกว่าเดิม
เรื่อง : สตรีรัตน์ ฤกษ์บางพลัด
ภาพ : ศรันย์ พงษ์สวัสดิ์