หากมีสินค้าบางอย่างที่ยืนหยัดอยู่ได้นานกว่า 30 ปี ย่อมจะปฏิเสธไม่ได้ว่าสินค้าดังกล่าวต้องมีความ “พิเศษ” ที่ไม่ธรรมดาจนสามารถจับใจผู้บริโภคได้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบอกว่าสินค้านั้นคือ “น้ำผลไม้” มันยิ่งต้องเป็นอะไรที่พิเศษอย่างมากเพราะการจะอยู่รอดในตลาดน้ำผลไม้ที่มีผู้แข่งขันมากมาย ลำพังรสชาติอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่ต้องรวมไปถึงการมีกลยุทธ์การตลาดที่ดี การรู้จักผู้บริโภค และการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งเพื่อปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่หมุนเวียนไปตลอดเวลา
“ดีโด้” ชื่อแบรนด์น้ำผลไม้ที่คุ้นหู คุ้นตา อยู่เคียงคู่คนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ ที่ครองความเป็นเจ้าตลาดกลุ่มน้ำผลไม้ Economy Fruit Juice มาอย่างยาวนาน ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการทำการตลาดเชิงรุก ไม่หยุดพัฒนา ทั้งในแง่สินค้าและวิธีการดำเนินธุรกิจ
ดีโด้เริ่มต้นปั้นแบรนด์จากการเจาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด ชูน้ำส้มเป็นสินค้าเรือธงจนเริ่มเป็นที่จดจำ จากนั้นจึงค่อยๆ สร้างรายได้อย่างมั่นคงในฐานะน้ำผลไม้คุณภาพในราคาที่ย่อมเยา พอแบรนด์เริ่มติดตลาด ดีโด้ก็ก้าวสู่ขั้นต่อไปคือการทำตลาดผ่านภาพยนตร์โฆษณาและการมองหาพรีเซนเตอร์ที่ตอบโจทย์ตามยุคสมัย ขณะเดียวกันก็มีการพัฒนาสินค้าควบคู่กันไป ทั้งเปิดไลน์การผลิตใหม่และปรับปรุงสูตรให้ถูกปากยิ่งขึ้น อีกทั้งเพิ่มความหลากหลายในเรื่องของรสชาติน้ำผลไม้ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค พร้อมขยายกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ตามวิสัยทัศน์ของบริษัท “เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเครื่องดื่มในเอเชีย” และในวันนี้แม้ว่าดีโด้จะเติบโตจนมีความอร่อยรูปแบบใหม่ๆ ให้เลือกชิมหลากหลาย แต่ขณะเดียวกันดีโด้ก็ยังคงเป็นน้ำผลไม้แห่งความสบายใจ เหมือนเพื่อนคู่คิดที่ข้ามผ่านวันเวลามาด้วยกัน เป็นดังรสชาติแห่งความทรงจำที่แค่นึกขึ้นมาก็อยากพุ่งตัวไปร้านค้าใกล้บ้าน แล้วคว้าดีโด้ในตู้แช่มาดื่มให้มันชื่นใจ
นางสาวจันทรา พงศ์ศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ดสตาร์ จำกัด ได้เผยถึงเรื่องราวการเดินทาง 30 ปีเพิ่มเติมอีกว่า “ฟู้ดสตาร์ และแบรนด์ “ดีโด้” ซึ่งเป็นฮีโร่โปรดักส์ของบริษัท เติบโตอย่างมั่นคงครบรอบ 30 ปี ว่าเราไม่เคยหยุดนิ่งในเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตามเทรนด์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ด้วยปรัชญาและความมุ่งมั่นที่ต้องการให้ผู้บริโภคได้บริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ จากนวัตกรรมใหม่ๆ มีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล อีกทั้งยังมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพสินค้าของเราต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่งภายใต้แนวคิด 30th Always up “อัพ” คุณภาพในทุกๆ ด้าน เพื่อส่งมอบสินค้าคุณภาพในราคาที่เหมาะสม และด้วยปรัชญาเช่นนี้ก็ทำให้เราสามารถคว้ารางวัล No.1 Brand Thailand* ในกลุ่ม Fruit Juice (Non 100%) จาก Marketeer และเรายังคงครองแชมป์ผลิตภัณฑ์ยอดขายอันดับ 1 ในหมวด Fruit Juice (Economy & Super Economy) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5** เป็นการย้ำจุดยืน “ผู้นำตลาดน้ำผลไม้ของไทย”
จาก 30 ปีที่สามารถยืนหยัดในใจลูกค้า ได้กลายเป็นรากฐานอันแข็งแกร่งให้ฟู้ดสตาร์และดีโด้พร้อมจะก้าวไปสู่เป้าหมายใหม่ๆ ที่ท้าทายยิ่งขึ้น โดยนางสาวจันทรา พงศ์ศรี ได้กล่าวถึงกลยุทธ์การตลาดในปีนี้ ได้จัดแคมเปญ “ดีโด้ อัพลุคใหม่ สดชื่น…สะใจ ม่วนๆ” จัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี ดีโด้ได้มีการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ครั้งใหญ่ ด้วยการอัพเดทโลโก้แบรนด์ DeeDo ให้โดดเด่นชัดเจนอ่านง่ายเหมาะกับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย อีกทั้งให้ความรู้สึกที่ดูทันสมัยเรียบง่ายสะท้อนแนวคิดน้อยแต่มาก พร้อมกันนี้ฉลากใหม่ของน้ำผลไม้ DeeDo ได้มีการออกแบบให้ดู “อัพความสดชื่น” ทันสมัยด้วยการเลือกใช้โทนสีชุ่มฉ่ำร้อนแรงของผลไม้เป็นจุดเด่น เพื่อสร้างความสะดุดตาและกระตุ้นความอยากดับกระหาย พร้อมกันนี้ดีโด้ยังเตรียมเดินหน้ารุกขยายตลาดอัพความสดชื่นให้กับทุกคน โดยเฉพาะในกลุ่ม Young Generation ทั้งในเมืองและต่างจังหวัด เพื่อสร้างความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค จึงได้เลือกเฟ้น 2 พรีเซนเตอร์ขวัญใจคนรุ่นใหม่อย่าง “เบิ้ล ปทุมราช” นักร้องระดับไอคอนของดนตรีสไตล์โมเดิร์นอีสาน และ “โจอี้ ภูวศิษฐ์” นักร้องสายร็อคมากฝีมือเจ้าของเพลง “นะหน้าทอง” ซึ่งทั้งสองเป็นศิลปินเจ้าของผลงานเพลงดังยอดวิวทะลุ 100 ล้านวิว และเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความเป็นตัวเองที่จริงใจถ่อมตัวเป็นกันเองกับแฟนคลับทุกระดับชั้น จึงเป็นตัวแทนสำคัญที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ “ดีโด้” ในฐานะผู้นำตลาดน้ำผลไม้พร้อมดื่มอันดับหนึ่งของไทยได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของ ดีโด้ ที่เราใช้พรีเซนเตอร์พร้อมกันถึง 2 คน และเป็นครั้งแรกของไทย ที่ดึงศิลปินจากค่ายยักษ์ใหญ่แบบต่างค่าย มาร่วมเป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์เดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 พรีเซนเตอร์จะมาชวนทุกคนม่วนๆ อัพความสดชื่นสะใจสไตล์ดีโด้ กับแคมเปญ “ดีโด้ อัพลุคใหม่! สดช่วนมื่นๆ สดชื่นม่วนๆ”
ไม่เพียงเท่านั้นการอัพลุคครั้งนี้ยังมาพร้อมกับบิ๊กแคมเปญคืนกำไรแบบเล่นใหญ่สุดๆ กับกิจกรรมแจกอลังทั่วไทย “เศรษฐีดีโด้ เศรษฐี 4 ภาค” แจกทองทุกภาค รวยทุกภาค จัดหนักแจกจริง ทองคำรวมมูลค่า 4,590,000 บาท นับเป็นกิจกรรมที่ตอกย้ำความเป็นแบรนด์น้ำผลไม้ยอดฮิตที่อยู่ในใจผู้บริโภคทุกภูมิภาค และยังเป็นเหมือนการต่อยอดพาความคึกคักสนุกสนานและความสุขไปสู่พี่น้องทั่วไทยที่ต่างเป็นแฟนคลับน้ำผลไม้ดีโด้มากว่า 30 ปี ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถร่วมลุ้นรวยเป็นเศรษฐีได้ง่ายๆ เพียงซื้อผลิตภัณฑ์ “ดีโด้” ทุกรสชาติ ขนาด 225 ml. และ 450 ml. แสกน QR Code ใต้ฝา ลงทะเบียน ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ จังหวัด (โปรดระบุตามหน้าบัตรประชาชนเท่านั้น) และกรอกรหัสใต้ฝา (รหัสใต้ฝา 1 รหัส เท่ากับ 1 สิทธิ์ เมื่อส่งข้อมูลแล้วไม่สามารถนำมาใช้ได้อีก) เพียงเท่านี้ก็ได้ลุ้นรวย 2 ต่อ
ต่อที่ 1 ลุ้นทุกวัน แจกสร้อยคอทองคำ หนัก 25 สตางค์ มูลค่ารางวัลละ 7,500 บาท รวมทั้งสิ้นจำนวน 532 รางวัล รวมมูลค่า 3,990,000 บาท
ต่อที่ 2 ลุ้นรางวัลใหญ่ ทองคำหนัก 5 บาท มูลค่ารางวัลละ 150,000 บาท รวมทั้งสิ้นจำนวน 4 รางวัล รวมมูลค่า 600,000 บาท รวมจำนวนของรางวัลทั้งรายการ 536 รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้น 4,590,000 บาท (*หมายเหตุ ราคาทองคำ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566)
เตรียมตัวมาลุ้นความรวย เตรียมเป็นเศรษฐีกันถ้วนหน้าได้ ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พฤศจิกายน 2566 ติดตามข้อมูลรายละเอียดแคมเปญเพิ่มเติมและประกาศชื่อผู้โชคดีผ่านทาง Facebook DeeDo https://www.facebook.com/deedofruitjuice หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://deedojuice.com ดีโด้ยิ่งบิดเยอะยิ่งมีสิทธิ์รวย
งานนี้ต้องบอกเลยว่าดีโด้เขาจัดหนักของจริงเพื่อคืนกำไรให้คนรักน้ำผลไม้ดีโด้กันแบบถ้วนหน้า ย้ำเตือนกันอีกครั้ง “ดื่มเสร็จอย่าเพิ่งรีบทิ้งฝา” พลิกดูคิวอาร์โค้ดแล้วสแกนส่งข้อมูลร่วมลุ้นรวยไปด้วยกัน โอกาสดีๆ ที่จะได้ทั้งดื่มน้ำผลไม้อร่อยๆ พร้อมลุ้นเป็นเศรษฐีไม่รู้ตัวแบบนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด
* Marketeer No.1 Brand Thailand มาจากการสำรวจทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ต่างๆ ในประเทศไทย จัดการสำรวจโดยนิตยสาร Marketeer และบริษัท มาร์เก็ตติ้ง มูฟ จำกัด ได้สำรวจผู้บริโภคทั่วประเทศกว่า 5,500 ตัวอย่าง เพื่อค้นหาแบรนด์สินค้า และบริการที่เป็นหนึ่งในใจผู้บริโภค
** การคำนวณส่วนแบ่งการตลาดของบริษัท ฟู้ดสตาร์จำกัด ส่วนหนึ่งอ้างอิงจากข้อมูลดัชนีค้าปลีกรายเดือนที่ รายงานโดย Nielsen สำหรับน้ำผลไม้ในกลุ่ม Economy และ Super Economy ในช่วงเวลา 12 เดือน ตั้งแต่ ส.ค. 2563 สิ้นสุด ก.ย. 2564 ซึ่งเป็นข้อมูลของการตลาดในประเทศไทยซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ Nielsen
รายละเอียดการจับรางวัล
- เมื่อครบระยะเวลาที่กำหนด ทางบริษัทจะนำรายชื่อ นามสกุล และรหัสใต้ฝาของผู้ร่วมรายการ โดยแยกฉลากรางวัล แบ่งออกเป็น 4 กอง แบ่งตาม 4 ภาค โดยการกำหนดภาค ดังนี้
ภาคกลาง มี 26 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง, สระบุรี, พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี, นนทบุรี, กรุงเทพมหานคร, สระแก้ว, ปราจีนบุรี, นครนายก, ฉะเชิงเทรา, สมุทรปราการ, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด, สุพรรณบุรี, กาญจนบุรี, นครปฐม, สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, ราชบุรี, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์
ภาคเหนือ มี 17 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย, น่าน, พะเยา, เชียงใหม่, แม่ฮ่องสอน, แพร่, ลำปาง, ลำพูน, ตาก, อุตรดิตถ์, พิษณุโลก, สุโขทัย, เพชรบูรณ์, พิจิตร, กำแพงเพชร, นครสวรรค์, อุทัยธานี
ภาคอีสาน มี 20 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย, นครพนม, สกลนคร, อุดรธานี, หนองบัวลำภู, เลย, มุกดาหาร, กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, อำนาจเจริญ, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี, บึงกาฬ
ภาคใต้ มี 14 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร, ระนอง, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, กระบี่, พังงา, ภูเก็ต, พัทลุง, ตรัง, ปัตตานี, สงขลา, สตูล, นราธิวาส, ยะลา
- จับรางวัลครั้งที่ 1 – ครั้งที่ 76
รางวัลได้แก่ สร้อยคอทองคำ หนัก 25 สตางค์ มูลค่ารางวัลละ 7,500 บาท จำนวน 7 รางวัล แบ่งเป็น 4 ภาค ต่อการจับรางวัล 1 ครั้ง รวมจับรางวัล 76 ครั้ง รวมทั้งสิ้นจำนวน 532 รางวัล รวมมูลค่า 3,990,000 บาท
- จับรางวัลใหญ่ ครั้งที่ 77 – ครั้งที่ 80
รางวัลได้แก่ ทองคำแท่งหนัก 5 บาท มูลค่ารางวัลละ 150,000 บาท จำนวน 1 รางวัล แบ่งเป็น 4 ภาค ต่อการจับรางวัล 1 ครั้ง รวมจับรางวัล 4 ครั้ง รวมทั้งสิ้นจำนวน 4 รางวัล รวมมูลค่า 600,000 บาท
รวมจำนวนของรางวัลทั้งรายการ 536 รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้น 4,590,000 บาท (สี่ล้านห้าแสนเก้าหมื่นบาทถ้วน) (ราคาทองคำ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566)
- สถานที่จับรางวัล ณ บริษัท ไทยลัคกี้ดรอว์ จำกัด เลขที่ 455/89 หมู่บ้านทาวน์พลัส ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 13 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ 10160
- ระยะเวลากิจกรรม 1 ก.ค. 66 – 30 พ.ย. 66
- การจับรางวัล และประกาศรายชื่อผู้โชคดี ที่ (https://www.facebook.com/deedofruitjuice) ภายในเวลา 18.00 น.
- ครั้งที่ 1 วันที่ 7 ก.ค. 2566 (กองที่ 1 ภาคกลาง, กองที่ 2 ภาคเหนือ, กองที่ 3 ภาคอีสาน และกองที่ 4 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 10 ก.ค. 2566
- ครั้งที่ 2 วันที่ 14 ก.ค. 2566 (กองที่ 5 ภาคกลาง, กองที่ 6 ภาคเหนือ, กองที่ 7 ภาคอีสาน และกองที่ 8 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 17 ก.ค. 2566
- ครั้งที่ 3 วันที่ 21 ก.ค. 2566 (กองที่ 9 ภาคกลาง, กองที่ 10 ภาคเหนือ, กองที่ 11 ภาคอีสาน และกองที่ 12 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 24 ก.ค. 2566
- ครั้งที่ 4 วันที่ 28 ก.ค. 66 (กองที่ 13 ภาคกลาง, กองที่ 14 ภาคเหนือ, กองที่ 15 ภาคอีสาน และกองที่ 16 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 31 ก.ค. 2566
- ครั้งที่ 5 วันที่ 4 ส.ค. 66 (กองที่ 17 ภาคกลาง, กองที่ 18 ภาคเหนือ, กองที่ 19 ภาคอีสาน และกองที่ 20 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 7 ส.ค. 2566
- ครั้งที่ 6 วันที่ 11 ส.ค. 66 (กองที่ 21 ภาคกลาง, กองที่ 22 ภาคเหนือ, กองที่ 23 ภาคอีสาน และกองที่ 24 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 14 ส.ค. 2566
- ครั้งที่ 7 วันที่ 18 ส.ค. 66 (กองที่ 25 ภาคกลาง, กองที่ 26 ภาคเหนือ, กองที่ 27 ภาคอีสาน และกองที่ 28 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 21 ส.ค. 2566
- ครั้งที่ 8 วันที่ 25 ส.ค. 66 (กองที่ 29 ภาคกลาง, กองที่ 30 ภาคเหนือ, กองที่ 31 ภาคอีสาน และกองที่ 32 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 28 ส.ค. 2566
- ครั้งที่ 9 วันที่ 1 ก.ย. 66 (กองที่ 33 ภาคกลาง, กองที่ 34 ภาคเหนือ, กองที่ 35 ภาคอีสาน และกองที่ 36 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 4 ก.ย. 2566
- ครั้งที่ 10 วันที่ 8 ก.ย. 66 (กองที่ 37 ภาคกลาง, กองที่ 38 ภาคเหนือ, กองที่ 39 ภาคอีสาน และกองที่ 40 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 11 ก.ย. 2566
- ครั้งที่ 11 วันที่ 15 ก.ย. 66 (กองที่ 41 ภาคกลาง, กองที่ 42 ภาคเหนือ, กองที่ 43 ภาคอีสาน และกองที่ 44 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 18 ก.ย. 2566
- ครั้งที่ 12 วันที่ 22 ก.ย. 66 (กองที่ 45 ภาคกลาง, กองที่ 46 ภาคเหนือ, กองที่ 47 ภาคอีสาน และกองที่ 48 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 25 ก.ย. 2566
- ครั้งที่ 13 วันที่ 29 ก.ย. 66 (กองที่ 49 ภาคกลาง, กองที่ 50 ภาคเหนือ, กองที่ 51 ภาคอีสาน และกองที่ 52 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 2 ต.ค. 2566
- ครั้งที่ 14 วันที่ 6 ต.ค. 66 (กองที่ 53 ภาคกลาง, กองที่ 54 ภาคเหนือ, กองที่ 55 ภาคอีสาน และกองที่ 56 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 9 ต.ค. 2566
- ครั้งที่ 15 วันที่ 13 ต.ค. 66 (กองที่ 57 ภาคกลาง, กองที่ 58 ภาคเหนือ, กองที่ 59 ภาคอีสาน และกองที่ 60 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 16 ต.ค. 2566
- ครั้งที่ 16 วันที่ 20 ต.ค. 66 (กองที่ 61 ภาคกลาง, กองที่ 62 ภาคเหนือ, กองที่ 63 ภาคอีสาน และกองที่ 64 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 23 ต.ค. 2566
- ครั้งที่ 17 วันที่ 27 ต.ค. 66 (กองที่ 65 ภาคกลาง, กองที่ 66 ภาคเหนือ, กองที่ 67 ภาคอีสาน และกองที่ 68 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 30 ต.ค. 2566
- ครั้งที่ 18 วันที่ 3 พ.ย. 66 (กองที่ 69 ภาคกลาง, กองที่ 70 ภาคเหนือ, กองที่ 71 ภาคอีสาน และกองที่ 72 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 6 พ.ย. 2566
- ครั้งที่ 19 วันที่ 10 พ.ย. 66 (กองที่ 73 ภาคกลาง, กองที่ 74 ภาคเหนือ, กองที่ 75 ภาคอีสาน และกองที่ 76 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 13 พ.ย. 2566
- ครั้งที่ 20 (รางวัลใหญ่) วันที่ 1 ธ.ค. 66 (กองที่ 77 ภาคกลาง, กองที่ 78 ภาคเหนือ, กองที่ 79 ภาคอีสาน และกองที่ 80 ภาคใต้) ประกาศรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 1 ธ.ค. 2566
รายละเอียดเพิ่มเติม
1. ผู้โชคดีต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย ทั้งที่มีภูมิลำเนาในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด ต้องนำหลักฐาน บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน พร้อมสำเนา 1 ชุด และรหัสใต้ฝาหมายเลขที่ได้รับรางวัล (กรณีมอบอำนาจให้ผู้แทนมารับจะต้องเตรียมหนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประชาชนของผู้แทนมาด้วย) และจดหมายแจ้งการรับรางวัลฉบับจริง สำหรับการรับรางวัล บริษัทไทยลัคกี้ดรอว์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนของ บ.ฟู้ดสตาร์ จำกัด จะโทรศัพท์แจ้งโชค และแจ้งผู้โชคดีให้ทราบทางจดหมาย โดยผู้โชคดีต้องติดต่อขอรับรางวัลที่ บริษัทไทยลัคกี้ดรอว์ จำกัด ภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันประกาศรายชื่อผู้โชคดี ที่หมายเลข 02-8619712-15 (ในเวลาราชการ) หากเลยกำหนดถือว่าสละสิทธิ์ และบริษัทฯ จะมอบของรางวัลให้กับรายชื่อสำรองลำดับถัดไป ถ้ารายชื่อสำรองไม่มารับรางวัลตามระยะเวลาที่กำหนด ทางบริษัทฯ จะมอบรางวัลดังกล่าวให้กับสภากาชาดไทยหรือสาธารณกุศลอื่นต่อไป
2. ในการจับชิ้นส่วนหากปรากฏชื่อผู้โชคดีแล้วจะต้องรับรางวัลตามที่กำหนดไว้ รางวัลที่ได้รับไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือของรางวัลอื่นได้หรือโอนสิทธิ์ให้กับบุคคลภายนอกหรือนิติบุคคลอื่นได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น และไม่มีเงินสดเป็นส่วนประกอบในของรางวัล ผู้โชคดีมีสิทธิ์จะได้รับรางวัลเพียง 1 รางวัลเท่านั้น
3. ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลมูลค่า 1,000 บาทขึ้นไป จะต้องชำระภาษี ณ ที่จ่าย 5% ของมูลค่ารางวัลที่ได้รับ ตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป. 4/2528 ประกอบคำสั่ง ที่ ท.ป. 104/2544
4. บริษัทฯ มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดจำหน่ายของรางวัลที่ระบุในรายการนี้ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพ หรือบริการที่อาจเกิดขึ้นกับรางวัลดังกล่าว หากมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพ หรือบริการผู้โชคดีจะต้องติดต่อบริษัทที่จำหน่ายหรือให้บริการโดยตรง
5. บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบต่อการลงทะเบียนที่ล่าช้า สูญหาย ไม่สมบูรณ์ อ่านไม่ออก การฉ้อโกง หรือการส่งข้อมูลที่ไม่ตรงที่เกิดจากผู้เข้าร่วมรายการและระบบโทรศัพท์ไม่ว่าจะเนื่องมาจากสาเหตุของความผิดพลาด การเพิกเฉย การแก้ไขปรับเปลี่ยน การให้สินบน การลบทิ้ง ขโมย การทำลาย การรบกวน การถ่ายข้อมูล การสื่อสารที่ผิดพลาด การทำลายหรือถูกไวรัสจู่โจม การเข้ามาใช้ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการลักลอบใช้ข้อมูล ความเสียหายของข้อมูล เครือข่ายล้มเหลว หรือความผิดพลาดของซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์หรือไม่ว่าสาเหตุใดๆ ก็ตาม
6. การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นเด็ดขาดและสิ้นสุด
7. ขอสงวนสิทธิ์พนักงานและครอบครัวของบริษัท ฟู้ดสตาร์ จำกัด เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินกิจกรรม และคณะกรรมการดําเนินรายการไม่มีสิทธิ์ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
8. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอนุญาตให้บริษัทฯ และตัวแทนของบริษัทฯ ใช้ข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดในกิจกรรมในการจัดเก็บ รวบรวม โอนข้อมูลส่วนตัวของผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อการดำเนินกิจกรรมนี้ รวมถึงยินยอมให้บริษัทฯ จัดส่งข่าวสาร หรือกิจกรรมทางการตลาดของบริษัทฯ ที่น่าสนใจให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมในอนาคต โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมยินยอมให้บริษัทฯ ใช้ชื่อ ภาพ เสียง ในสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การตลาด และวัตถุประสงค์อื่นๆ ของบริษัทฯ โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทราบล่วงหน้าหรือจ่ายค่าตอบแทน
9. เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สอบถามและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/deedofruitjuice