เกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทองฝังเพชรในฐานะทายาทตระกูลเจ้าสัว “จิราธิวัฒน์” พีช—พชร จิราธิวัฒน์ เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงและนายแบบ ซึ่งนอกเหนือจากความสามารถหน้ากล้องแล้ว หนุ่มคนนี้ยังอยู่เบื้องหลังธุรกิจของตัวเองที่ประสบความสำเร็จชื่อของ พีช-พชร วันนี้ไม่ได้ขึ้นทำเนียบเป็นนักแสดงแต่เป็นนักธุรกิจที่น่าจับตามองคนหนึ่ง เป็นเจ้าของ Potato Corner ร้านเฟรนช์ฟรายส์ ที่มีเกือบ 60 สาขาทั่วประเทศไทย รวมทั้งล่าสุดเป็นหุ้นส่วนสำคัญของร้านอาหารดัง “Khao-So-i” ข้าวโซ-อิ ที่สร้างมิติใหม่การกินเมนูข้าวซอยในบรรยากาศแบบญี่ปุ่น มีสาขาแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีคิวจองยาวมาก จนต้องมาเปิดความอร่อยให้คนกรุงเทพฯ ที่กลางซอยคอนแวนต์ สีลม“ธุรกิจใหม่ ข้าวโซ-อิ จริงๆ แล้ว เป็นร้านที่ดังอยู่แล้วที่เชียงใหม่ มีคุณวิน ศรีนวกุล เป็นผู้ก่อตั้ง แล้วผมรู้สึกว่า “ข้าวซอย” เป็นอาหารที่น่าสนับสนุน ก็เลยอยากจะช่วยผลักดันอาหารไทยไประดับโลก ผมคิดว่า ข้าวโซ -อิ เวิร์ก เพราะว่ามีความร่วมสมัยโมเดิร์น เราเลยมาร่วมมือกันเพื่อขยายแบรนด์ อยากทำให้ข้าวซอยเป็นที่รู้จักมากขึ้น เหมือนราเม็ง เลยเอามาเปิดที่สีลม ร้านนี้เขามีทีมงานที่เข้มแข็ง ผมมาช่วย support ในส่วนที่เขาขาด ส่วนที่เขาไม่มี แล้วช่วยดูเรื่องภาพรวมมากกว่า อย่างกรณีที่มีปัญหาระยะสั้น เช่น ขาดวัตถุดิบต้องทำอย่างไรดี อะไรพวกนี้ ผมก็เข้ามาช่วยได้ครับ” ผู้บริหารหนุ่มเล่าถึงธุรกิจของตัวเองเมื่อต้องสวมบทนักธุรกิจ คุณพีช-พชร บอกว่า ตนรู้สึกสนุกกับการทำธุรกิจ เพราะรู้สึกเหมือนเล่นเกมแบบหนึ่ง มีโจทย์ที่ท้าทายทุกวันที่เราต้องแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว “ผมน่ะโชคดีที่เคยอ้วนมาก่อน กินเก่งมาก่อน เลยพอจะเข้าใจได้ว่า อาหารอร่อยต้องเป็นอย่างไร ซึ่งการทำธุรกิจอาหาร รสชาติเป็นสิ่งสำคัญสุด จากนั้นเป็นเรื่องโลเกชัน เพราะเมืองไทยมีของกินเยอะ คู่แข่งมีหลากหลาย เราทำไฟน์ไดนิ่ง สุดท้ายคู่แข่งเราเป็นร้านหมูปิ้งเหมือนกันนะ เพราะทุกอย่างเราแชร์วอลเลตหมด เพราะของกินไม่มีรอยัลตี้ในลูกค้า ทุกคนเปลี่ยนร้านอาหารได้ทุกวัน จะไม่เหมือนสินค้าอื่นๆ คนเราเปลี่ยนอาหารการกินทุกวัน ร้านเล็กร้านใหญ่มีโปรโมชันหมด การทำธุรกิจร้านอาหารจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากครับ”พีช-พชร ในวันนี้มองเห็นเส้นทางของตัวเองอย่างชัดเจน หลังจากที่สร้างประสบการณ์ชีวิตในการทำงานมาหลากหลายบทบาท จึงวางแผนชีวิตเสริมสร้างความรู้เพิ่มเติมด้วยการเตรียมตัวไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่ออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ในเดือนหน้า ส่วนแผนทางธุรกิจ ผู้บริหารไฟแรงคนนี้บอกว่า สำหรับแบรนด์โปเตโต้ คอนเนอร์ เราก็เตรียมไปเปิดที่ต่างประเทศ รวมทั้ง ข้าวโซ-อิ ที่ตนอยากเปิดประตูให้คนอื่นๆเชื่อว่า แบรนด์ไทยสามารถไปโกบอลได้ ซึ่งมันจะดีกับอุตสาหกรรมทั้งหมด “ส่วนธุรกิจครอบครัว ตอนนี้เขามีทีมที่เก่งมาก ผมรู้สึกว่าประสบการณ์ตัวเองยังน้อย หมายถึงว่าเรายังมีแนวทางของตนเอง ผมคิดว่าก็ปล่อยให้รุ่นพ่อเขารันไปก่อน แล้วเราไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ไม่อยากเข้าไปแบบเพราะเราเป็นลูกคนนี้ ผมอยากให้เรารู้สึกว่า เข้าไปในฐานะเราทำงานมานาน แล้วทุกคนก็อยากทำงานกับเรามากกว่าเพราะเราเป็นใคร สุดท้ายถ้ามีโอกาส ก็คงเข้าไปช่วยงาน เพราะเราก็เห็นมาตั้งแต่เด็กครับ”...ความตั้งใจของเถ้าแก่น้อยคนนี้.