การระบาดของโควิดรอบนี้ อาการตาแดงโควิด เป็นหนึ่งในอาการที่เด่นชัดมากขึ้นกว่าการระบาดครั้งที่ผ่านมา แล้วต่างจากอาการตาแดงเพราะสาเหตุอื่นอย่างไร

สำหรับการแพร่ระบาดของโควิดรอบนี้มาจากโควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 หรือโควิดอาร์คทูรัส ที่เริ่มมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทั่วโลก และคาดว่าจะเป็นสายพันธุ์หลักในไทย เนื่องจากมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึง 2.5 เท่าของสัปดาห์ก่อนหน้า โดยอาการหลักที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนคือ “อาการตาแดงโควิด” แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอาการแบบนี้เป็นเพราะติดโควิดหรือเป็นอาการตาแดงจากสาเหตุอื่นๆ

อาการตาแดงโควิด

อาการตาแดงโควิด จะมีลักษณะอาการดังต่อไปนี้

  • เยื่อบุตาอักเสบ หรือบวม
  • ตาแดง
  • น้ำตาไหล
  • ระคายเคืองตา
  • คัน
  • มีขี้ตา
  • ตาสู้แสงไม่ได้

เนื่องจากเชื้อโควิดมีการแพร่กระจายเข้าไปยังเยื่อบุตา ถ้ามีมากยิ่งมีผลต่อดวงตา ผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น เยื่อบุตาอักเสบ ภูมิแพ้ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ อีกทั้งฝุ่น PM 2.5 ยังเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดการติดเชื้อ มีอาการรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น หากมีการระคายเคืองบริเวณดวงตา ไม่ควรขยี้ตารุนแรง ควรระมัดระวังการใช้ยาหยอดตา เพราะถ้าดวงตาระคายเคืองจากการติดเชื้อไวรัส การใช้ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ยิ่งเพิ่มการแพร่กระจายของเชื้อในดวงตาให้มากขึ้น

อาการตาแดงโควิด มักจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เจ็บคอ คัดจมูก มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ซึ่งต่างจากอาการตาแดงเพราะสาเหตุอื่นๆ
อาการตาแดงโควิด มักจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เจ็บคอ คัดจมูก มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ซึ่งต่างจากอาการตาแดงเพราะสาเหตุอื่นๆ

...

นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เจ็บคอ คัดจมูก มีไข้ อ่อนเพลีย ไอ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส และไม่สบายท้อง ในกรณีที่มีอาการโควิดอื่นๆ แต่ยังไม่มีอาการตาแดง สามารถป้องกันไม่ให้ติดเชื้อโควิดไปยังดวงตาได้ด้วยการล้างมือสม่ำเสมอ ใส่หน้ากากอนามัย ไม่ขยี้หรือสัมผัสดวงตา หากพบว่าตัวเองมีอาการตาแดงควรแยกของใช้ส่วนตัวออกจากบุคคลอื่น

อาการตาแดงจากภูมิแพ้

สำหรับอาการตาแดงจากภูมิแพ้ จะมีลักษณะอาการหลายอย่างที่คล้ายกับอาการตาแดงโควิด แต่ก็มีบางอย่างที่ต่างกันออกไป ได้แก่

  • คัน เคืองตา
  • แสบตา น้ำตาไหล
  • ตาแดง
  • มีขี้ตา
  • รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมใต้เปลือกตา
  • เปลือกตาบวม แดง หรืออักเสบ

สาเหตุของอาการตาแดงจากภูมิแพ้เกิดจากสิ่งกระตุ้นที่ก่อให้เกิดแพ้ที่เยื่อบุตาขาวทำให้มีการอักเสบ เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ควันไฟ อาหารบางประเภท เช่น อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่ว และธัญพืช ยาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบรับประทาน ฉีดเข้าสู่ร่างกาย หรือได้รับเข้าสู่ร่างกายในรูปแบบอื่นๆ เช่น ยาหยอดตา หรือยาทา สารเคมีต่างๆ เครื่องสำอาง รวมถึงเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตาแดงภูมิแพ้ได้

นอกจากอาการต่างๆ ที่กล่าวไปแล้ว อาจพบอาการแพ้ในระบบอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น โรคจมูกอักเสบ โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โรคหอบหืด เป็นต้น

โรคตาแดง

โรคตาแดงที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส จะทำให้เยื่อบุตาเกิดการอักเสบจนตาเป็นสีแดง ประกอบด้วยอาการดังต่อไปนี้

  • มีอาการตาแดง
  • หนังตาบวมเล็กน้อย
  • เคืองตาน้ำตาไหล
  • มีขี้ตาเล็กน้อย
  • เจ็บคอ
  • บางรายอาจมีไข้
  • มีต่อมน้ำเหลืองหน้าใบหูโตกดเจ็บ
  • มีอาการอ่อนเพลียร่วมด้วย
  • บางรายอาจมีเลือดออกที่ตาขาว
  • มักจะเริ่มเป็นที่ตาข้างหนึ่งก่อน แล้วจึงติดต่อมาอีกข้างหนึ่ง
  • มักพบว่าเป็นพร้อมกันหลายคน หรือมีการระบาดของโรคนี้

แม้ว่าอาการบางอย่างจะมีความคล้ายกับอาการตาแดงโควิด แต่โรคตาแดงที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสมักจะติดต่อทางน้ำตาผ่านการสัมผัสโดยตรงจากมือ หรือของใช้ และไปสัมผัสตาของอีกคนหรือถูกน้ำสกปรกเข้าตา แต่ไม่ติดต่อผ่านทางอากาศ หรือรับประทานอาหารร่วมกัน

โรคตาแดงจากการติดเชื้อไวรัสมักจะเริ่มเป็นที่ตาข้างหนึ่งก่อนแล้วลามไปอีกข้าง โดยติดต่อจากการสัมผัสไม่ใช่ทางอากาศ
โรคตาแดงจากการติดเชื้อไวรัสมักจะเริ่มเป็นที่ตาข้างหนึ่งก่อนแล้วลามไปอีกข้าง โดยติดต่อจากการสัมผัสไม่ใช่ทางอากาศ

นอกจากนี้ยังสามารถพบโรคตาแดงได้บ่อยในช่วงฤดูฝน ส่วนใหญ่มักเกิดการระบาดในชุมชนที่มีคนอยู่ร่วมกันจำนวนมาก เช่น โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก ที่ทํางาน สระว่ายน้ำ เป็นต้น สามารถพบผู้ติดเชื้อโรคตาแดงได้ทุกช่วงอายุ แต่ส่วนมากพบในเด็กเพราะไม่รู้จักวิธีป้องกัน ส่วนความรุนแรงของโรคมีไม่มาก และสามารถหายเองได้

...

ข้อมูลอ้างอิง: โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลเปาโล