วันแมวญี่ปุ่น ตรงกับวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ว่าแต่ทำไมต้องเป็นวันนี้ และเพราะเหตุใดชาวญี่ปุ่นจึงผูกพันกับแมวจนฝังรากลึกลงไปในวัฒนธรรมในอดีต

22 กุมภาพันธ์ วันแมวญี่ปุ่น

วันที่ 22 เดือน 2 นอกจากจะเป็นวันเลขสวยแล้ว สำหรับประเทศญี่ปุ่นยังยกให้เป็น "วันแห่งแมว" หรือ Neko No Hi เพราะวันที่ 22 เดือน 2 ภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า ni-ni-ni (แปลว่า 2-2-2) ที่คล้ายเสียงร้องของแมวว่า nyan-nyan-nyan นั่นเอง

แมวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น

ความผูกพันระหว่างชาวญี่ปุ่นกับแมวนั้นมีมาตั้งแต่สมัยอดีต จึงทำให้แมวกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่นมายาวนาน ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าแมวเป็นสัตว์มงคล การเลี้ยงแมวไว้นั้นเชื่อว่าจะมีแต่ความโชคดี ความสุข ความร่ำรวย จากบันทึกสมัยโบราณสันนิษฐานว่าแมวถูกนำมาเข้าสู่เกาะญี่ปุ่นตั้งแต่ประมาณ ค.ศ. 500 โดยชาวจีน จากนั้นชาวญี่ปุ่นใช้แมวในการทำหน้าที่ปกป้องคลังเก็บอาหารของมนุษย์ และยังปกป้องเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เก็บไว้ในปราสาทหรือวัด เพราะว่าหนูไม่เพียงแต่จะกัดกินอาหารแต่ยังแทะเอกสารหรือหนังสืออีกด้วย คนญี่ปุ่นจึงใช้แมวคอยช่วยจับหนู ต่อมาแมวจึงเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ปกป้องเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งหน้าที่นี้ทำให้แมวได้รับการยกย่องและได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น

เปิดตำนานแมวกวักนำโชค

หลายคนคงเคยเห็นตุ๊กตาแมวกวัก ซึ่งเป็นเครื่องรางนำโชคของญี่ปุ่น จุดเริ่มต้นของแมวกวักมาจากตำนานเรื่องเล่าว่ามีขุนนางผู้ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่งกำลังเดินอยู่บนถนนแห่งหนึ่ง แล้วได้พบแมวตัวหนึ่ง กำลังทำท่าเหมือนกวักมือเรียกหาขุนนางท่านนั้น ด้วยความน่าเอ็นดูและความอยากรู้ ขุนนางผู้นั้นจึงเดินเข้าไปหาแมวที่กำลังกวักมือเรียก ทันใดนั้น ก็มีสายฟ้าผ่าลงมาตรงที่ขุนนางยืนอยู่ก่อนหน้า ขุนนางประหลาดใจมากที่รอดมาได้ จึงเชื่อว่าแมวเป็นผู้ช่วยชีวิตขุนนางท่านนั้นไว้ จึงถือว่าแมวเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี

...

แมวกวักนำโชคของญี่ปุ่นมาพร้อมตำนานเรื่องเล่าที่น่าสนใจ
แมวกวักนำโชคของญี่ปุ่นมาพร้อมตำนานเรื่องเล่าที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ยังมีตำนานที่เล่าถึงแมวกวักในความหมายถึง การเรียกเงินทอง ตำนานนี้มีมากว่า 400 ปี เล่ากันว่ามีหญิงชราท่านหนึ่งซึ่งมีฐานะยากจนมาก อาศัยอยู่กับแมวหนึ่งตัว ถึงแม้เธอจะอดมื้อกินมื้อแต่ก็ยังพยายามที่จะแบ่งอาหารให้กับแมวที่เธอรัก แต่อยู่มาวันนึง ในวันที่เธอไม่สามารถเลี้ยงดูแมวที่เธอรักได้อีกเธอจึงนำแมวไปปล่อย ในคืนนั้นเธอร้องไห้ด้วยความรักและคิดถึงแมวของเธอ หลังจากที่เธอหลับไปเธอก็ได้ฝันเห็นแมว ซึ่งแมวตัวนั้นได้มาบอกว่า ให้ปั้นรูปปั้นแมวด้วยดินเหนียว แล้วจะทำให้โชคดี หญิงชราหลังจากตื่นขึ้นมาก็ได้ปั้นรูปปั้นแมวด้วยดินเหนียวตามที่เธอฝัน ในวันนั้นเองได้มีแขกมาหา แขกท่านนั้นได้เห็นแมวที่ปั้นด้วยดินเหนียว จึงขอซื้อรูปปั้นแมวตัวนั้นไป หญิงชราจึงได้ปั้นแมวเพิ่มขึ้น ยิ่งหญิงชราปั้นขึ้นมามากเท่าไร ก็ยิ่งมีคนมาขอซื้อต่อมากเท่านั้น จนในที่สุดหญิงชราก็สามารถเก็บเงินเพื่อที่จะเลี้ยงดูแมวที่เธอรักได้ตลอดไป

จากตำนานดังกล่าวทำให้คนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าแมวเป็นสัตว์นำโชค จึงสามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามที่ต่างๆ แต่เชื่อกันว่าถ้าเป็นแมวทำท่ากวักมือจะหมายถึงโชคดีมากที่สุด ยิ่งกวักสูงยิ่งดี แต่มีข้อสังเกตอีกว่า ถ้ากวักด้วยมือซ้ายจะเป็นการเรียกคน แต่ถ้ามือขวาจะเป็นการเรียกเงินเรียกความโชคดี และยังเชื่อกันว่า แมวที่มีสามสีกวักด้วยมือซ้ายจะโชคดีที่สุด ส่วนแมวสีดำจะหมายถึงการป้องกันจากภัยอันตราย รูปปั้นตุ๊กตาแมวกวักโดยทั่วไปมักจะอยู่ในท่ายกมือ (ขา) ข้างเดียวขึ้นมา ราวกับว่ากำลังกวักเชื้อเชิญลูกค้า โชคลาภ เงินทอง ฯลฯ ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล ซึ่งคล้ายคลึงกับความเชื่อเรื่อง “นางกวัก” ของประเทศไทยนั่นเอง

ข้อมูลอ้างอิง: คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร