เครื่องฟอกอากาศ กลายเป็นคำค้นหายอดนิยม เนื่องจากปัจจุบันระดับความรุนแรงของ PM2.5 และมลพิษสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและระบบทางเดินหายใจ แม้ว่าจะพยายามป้องกันตนเอง หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่กลางแจ้ง แต่ภายในอาคาร บ้าน หรือห้องนอนก็ยังคงมี PM2.5 ไรฝุ่น หรือแบคทีเรียอย่างเลี่ยงไม่ได้
บทความนี้ไทยรัฐออนไลน์จึงไม่พลาดที่จะรวบรวม 15 เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดีที่มีคุณสมบัติตอบโจทย์การใช้งาน คุ้มค่า ราคาเข้าถึงง่าย พร้อมกับไขข้อสงสัยเครื่องฟอกอากาศช่วยอะไรบ้าง
เครื่องฟอกอากาศช่วยอะไร?
เครื่องฟอกอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยดูดกรองสิ่งแปลกปลอมในอากาศ เช่น PM2.5 ไรฝุ่น ควัน มลพิษ แบคทีเรีย รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยจะมีไส้กรองทำหน้าที่ดักจับสิ่งเหล่านี้ ก่อนจะใช้หลักการไฟฟ้าสถิต ระบบดูดซับกลิ่น การใช้แสงยูวีสร้างโอโซน กำจัดเชื้อโรค และปล่อยอากาศบริสุทธิ์เข้ามาแทนที่
15 เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี กรองฝุ่น PM2.5 คุ้มค่า ราคาเข้าถึงง่าย
เครื่องฟอกอากาศมีหลากหลายรูปแบบตามการใช้งาน เช่น เครื่องฟอกอากาศแบบห้อยคอ เครื่องฟอกอากาศในรถ แต่เครื่องฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมสูงคือ แบบทำงานในบ้านหรืออาคาร ดังนี้
1. เครื่องฟอกอากาศ แอทโมสเฟียร์ สกาย (ราคาปลีก 53,040 บาท ราคาสมาชิก 48,218 บาท)
เครื่องฟอกอากาศ แอทโมสเฟียร์ สกาย (Atmosphere SKY) เป็นหนึ่งในเครื่องฟอกอากาศ Amway ยอดขายอันดับหนึ่งทั่วโลก ปี 2021 จากผลวิจัยการตลาดด้านยอดขายทั่วโลก ปี 2021 โดย Verify Markets โดยพิจารณาตามหมายเลขรุ่นผลิตภัณฑ์ สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมรูปลักษณ์สวยงาม หน้าจอทันสมัย และการใช้งานที่สะดวกสบายผ่านแอปพลิเคชัน Atmosphere Connect ด้วย IoT-Internet of Thing ควบคุมการทำงานผ่านอินเทอร์เน็ต
จุดเด่นของเครื่องฟอกอากาศ แอทโมสเฟียร์ สกายที่น่าสนใจคือ สามารถกรองละเอียดกว่าฝุ่น PM 2.5 ได้ ด้วยแผ่นกรอง HEPA ที่กรองได้ละเอียดกว่า เริ่มตั้งแต่ขนาด 0.0024 ไมครอน* ไปจนถึงการกรองไวรัส แบคทีเรีย สารก่อภูมิแพ้ สิ่งปนเปื้อนในอากาศกว่า 300 ชนิด** และลดสารเคมีมากถึง 13 ชนิด*** นับเป็นเครื่องฟอกอากาศคุณภาพสูง ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานการกรองอากาศจาก ECARF, AHAM และการกรองสารก่อภูมิแพ้จาก Allergy UK เหมาะสำหรับห้องขนาด 43 ตารางเมตร
อีกหนึ่งคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยอำนวยความสะดวกคือ สามารถปรับความแรงลมอัตโนมัติ ผ่านระบบ SMART Automatic Operation เมื่อตรวจเจอปริมาณสิ่งปนเปื้อนในอากาศ ส่วนใครที่กังวลเรื่องเสียงดัง หมดห่วงได้ทันที เนื่องจากตัวเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้มี Night Mode ทำงานเงียบสงบ ไร้เสียงรบกวน ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
2. เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Smart Air Purifier รุ่น 4 Lite (ราคา 3,399 บาท)
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่นนี้มาพร้อมกับฟังก์ชันการกำจัดมลพิษในอากาศ ฝุ่น PM2.5 ควัน แบคทีเรีย รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยระบบจะแสดงคุณภาพอากาศและค่า PM2.5 ผ่านจอ LED จุดเด่นของรุ่นนี้คือ ระดับเสียงเพียง 35.8 dB(A) หมดกังวลเรื่องเสียงดัง อีกทั้งยังสามารถสั่งการผ่านแอปพลิเคชันหรือระบบเสียงได้ ใครกำลังหาเครื่องฟอกอากาศสำหรับพื้นที่ห้องขนาด 26-45 ตารางเมตร ต้องไม่พลาด
3. เครื่องฟอกอากาศ Philips รุ่น AC1215 (ราคา 6,290 บาท)
เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 สามารถฟอกอากาศได้ในห้องขนาดกว้างถึง 63 ตารางเมตร มาพร้อมกับโหมด NightSense ทำให้สามารถฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพและเงียบที่สุด และระบบรายงานคุณภาพอากาศและค่าฝุ่นแบบเรียลไทม์ในพื้นที่ใช้งาน ในขณะเดียวกันก็มีระบบแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาในการเป็นไส้กรองใหม่
4. เครื่องฟอกอากาศ Philips รุ่น AC0820/20 (ราคา 3,290 บาท)
หากใครกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี อาจจะลองเลือกเครื่องฟอกอากาศ Philips มาพร้อมประสิทธิภาพในการกำจัดอนุภาคขนาดเล็ก โดยสามารถกรองอากาศได้อย่างอัตโนมัติ เมื่อคุณภาพอากาศภายในห้องหรืออาคารมีการเปลี่ยนแปลง สำหรับระบบเครื่องฟอกอากาศ Air Purifier รุ่น AC0820/20 จะเหมาะสำหรับพื้นที่ห้องขนาด 16-49 ตารางเมตร
5. เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-J30TA (ราคา 2,890 บาท)
ถือเป็นเครื่องฟอกอากาศในรถหรือในพื้นที่ขนาดเล็ก แต่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ผ่านระบบการทำงานพลาสมาคลัสเตอร์พิเศษเฉพาะตัว สามารถกรองฝุ่น เชื้อโรค เชื้อรา แบคทีเรีย ตลอดจนกลิ่นอับชื้นได้ดี ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลาในการเปลี่ยนไส้กรอง ระบบจะแจ้งเตือนอัตโนมัติ โดยสามารถซื้อไส้กรองมาเปลี่ยนได้ทันที
6. เครื่องฟอกอากาศ Worldtech รุ่น WT-P50 (ราคา 1,250 บาท)
เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 ขนาดใหญ่สำหรับห้องขนาด 40-50 ตารางเมตร ดีไซน์โมเดิร์น เรียบหรู มาพร้อมกับระบบหน้าจอแบบ LED บอกคุณภาพอากาศ สามารถตั้งค่าโหมดการทำงานและความเร็วลมได้ถึง 3 ระดับ รวมถึงสามารถตั้งเวลาเปิดปิดได้สูงถึง 12 ชั่วโมง สามารถตั้งเวลาเครื่องฟอกอากาศ Air Purifier เครื่องนี้ได้ง่ายๆ แม้ไม่ได้อยู่บ้าน
7. เครื่องฟอกอากาศ Bwell รุ่น CF-8005 (ราคา 5,592 บาท)
เครื่องฟอกอากาศ Bwell จากแบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ จุดเด่นคือ มีแผ่นกรองฝุ่น กลิ่น และแบคทีเรียในตัว ฟอกอากาศผ่าน 6 ขั้นตอนก่อนปล่อยอากาศบริสุทธิ์ และรับประกันสูงถึง 5 ปี ซึ่งหากใครกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดีที่เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาด 10-20 ตารางเมตร เครื่องฟอกอากาศ Bwell ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
8. เครื่องฟอกอากาศ Smart Air รุ่น The Sqair (ราคา 2,990 บาท)
หากใครกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดีที่มีดีไซน์มินิมอล สามารถวางตกแต่งบ้านได้ อาจลองเลือกเครื่องฟอกอากาศ Smart Air รุ่นนี้ที่มาพร้อมตัวเครื่องสีขาว สีเหลื่อม ขาตั้งจากไม้บีชแท้ สามารถกรองอากาศในพื้นที่ 40 ตารางเมตร ภายในระยะเวลาเพียง 25 นาที ความดังสูงสุด 52 dB(A) เป็นทั้งเครื่องฟอกอากาศ PM2.5 และเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านในเวลาเดียวกัน
9. เครื่องฟอกอากาศ Electrolux รุ่น FA41-402GY (ราคา 3,490 บาท)
เครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ สำหรับพื้นที่ 40-53 ตารางเมตร ใช้งานผ่านระบบสัมผัส โดยสามารถตั้งค่าระบบการทำงานอัตโนมัติหรือระบบสลีปโหมดได้ตามความต้องการใช้งาน สามารถดักจับฝุ่น PM2.5 สารพิษ ไวรัส รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ผ่านการกรอง 4 ขั้นตอน 9 ระดับความแรงลม ช่วยเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ในพื้นที่
10. เครื่องฟอกอากาศ Coway รุ่น AP-1516D Storm (ราคา 18,410 บาท )
เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 จากแบรนด์สัญชาติเกาหลี สามารถปรับระดับพัดลมได้ถึง 3 ทิศทาง สามารถกรองฝุ่นขนาด 0.02 ไมครอน ลดการเกิดแบคทีเรียและไวรัสผ่านระบบการกรอง 4 ขั้นตอน ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 49.5 ตารางเมตร สามารถแสดงคุณภาพอากาศได้แบบเรียลไทม์ ถือเป็นเครื่องฟอกอากาศอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับพื้นที่สำนักงานหรือร้านอาหาร
11. เครื่องฟอกอากาศ HATARI รุ่น HT-AP12R1 (ราคา 2,790 บาท)
เครื่องฟอกอากาศจากผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดัง ดีไซน์ทรงเหลี่ยม สีขาวสะอาดตา สามารถปรับระดับแรงดึงดูดอากาศได้ 4 ระบบ และสามารถใช้ระบบอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกสบายได้ โดยระบบจะแสดงผลผ่านจอ LED โดยจุดเด่นคือ สามารถปรับระดับความสว่างของหน้าจอดังกล่าวได้ หมดปัญหาแสงสว่างขณะนอนหลับช่วงกลางคืน
12. เครื่องฟอกอากาศ Blueair รุ่น Blue 3210 (ราคา 7,920 บาท)
เครื่องฟอกอากาศในรถหรือในพื้นที่ขนาดเล็ก มาพร้อมจุดเด่นการควบคุมด้วยปุ่มควบคุมเพียงปุ่มเดียว สามารถกรองฝุ่น เชื้อไวรัส แบคทีเรีย ผิวหนังแห้งจากสัตว์เลี้ยง เชื้อรา รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์และเติมอากาศบริสุทธิ์ให้กับพื้นที่นั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ระบบเครื่องฟอกอากาศ Air Purifier รุ่นดังกล่าว ยังสามารถแสดงผลผ่านจอ LED ได้อีกด้วย
13. เครื่องฟอกอากาศ Samsung BLUE SKY AX3300M รุ่น AX40R3030WM/ST (ราคา 5,590 บาท)
เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 มาพร้อมดีไซน์สวยงาม ดูทันสมัย สามารถกรองฝุ่นอนุภาคขนาดเล็กได้สูงถึง 99.99% มาพร้อมนวัตกรรมการฟอกอากาศที่บริสุทธิ์ผ่านระบบกรองอากาศถึง 3 ชั้น ทำให้อากาศรอบบ้านสดชื่น เหมาะสำหรับทุกครอบครัว
14. เครื่องฟอกอากาศ Daikin รุ่น MC30YVM7 (ราคา 3,750 บาท)
เครื่องฟอกอากาศ Daikin สำหรับห้องขนาด 23 ตารางเมตร สามารถฟอกอากาศบริสุทธิ์ได้ในระยะเวลา 20 นาทีต่อพื้นที่ 13.2 ตารางเมตร มาพร้อมระบบการทำงานมากถึง 4 โหมดให้เลือกปรับใช้ตามความสะดวก สำหรับจุดเด่นของรุ่นนี้มาพร้อมระบบป้องกันไฟตก ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกจากแบรนด์ชั้นนำที่หลายประเทศในการยอมรับ
15. เครื่องฟอกอากาศ Dyson Pure Cool Air Purifier Fan รุ่น TP00 (ราคา 12,510 บาท)
เครื่องฟอกอากาศ Dyson ดีไซน์สวยล้ำ ทันสมัย แนวตั้ง ช่วยประหยัดพื้นที่การใช้สอยในห้องหรือในบ้าน สามารถตั้งเวลาเปิดปิดเครื่องได้ตั้งแต่ 15 นาทีถึง 9 ชั่วโมง ปรับแรงลมได้ถึง 10 ระดับตามความต้องการของผู้ใช้งาน นับว่าเป็นเครื่องฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งรุ่น
รู้จัก dB(A) คืออะไร?
ตามปกติ หน่วยวัดความดังเสียงจะเรียกว่า "เดซิเบล" (dB) แต่เนื่องจากมนุษย์ไม่สามารถได้ยินเสียงในความที่เท่ากัน ดังนั้น จึงมีถ่วงน้ำหนัก A หรือ dB(A) เพื่อจำลองการได้ยินของหูเป็นหลัก ดังนั้น หากจะเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศจึงจำเป็นจะต้องพิจารณาระดับเสียง dB(A) ประกอบด้วย เพื่อให้ได้เครื่องฟอกอากาศเสียงเบา ไม่รบกวนต่อชีวิตประจำวัน
เครื่องฟอกอากาศเป็นหนึ่งในตัวช่วยในการเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ให้กับพื้นที่นั้นๆ ซึ่งการซื้อเครื่องฟอกอากาศนอกจากจะคำนึงถึงคุณสมบัติแล้ว อาจจะคำนึงถึงระยะการใช้งานและเปลี่ยนไส้กรองร่วมด้วย เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น