ใบขับขี่คือ ใบอนุญาตรับรองว่าบุคคลนั้นๆ มีประสิทธิภาพในการขับขี่ ซึ่งใบขับขี่จะมีหลายประเภทตามลักษณะการใช้งานและลักษณะของยานพาหนะ และเนื่องจากมีผู้ใช้รถใช้ถนนมากขึ้น ตลอดจนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ทางกรมการขนส่งทางบกจึงได้เปิดให้ต่อใบขับขี่ออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายต่อผู้ขับขี่ทุกคน

รู้จักใบขับขี่มีกี่ประเภท? ค่าใช้จ่ายทำใบขับขี่เท่าไร?

ใบขับขี่มีทั้งหมด 2 ประเภท ได้แก่ ใบขับขี่ประเภทส่วนบุคคล (บ.) รถแผ่นป้ายทะเบียนสีขาว และใบขับขี่ประเภททุกประเภท (ท.) รถแผ่นป้ายทะเบียนสีเหลือง โดยแบ่งเป็น 11 ชนิด ดังนี้
1. ใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราว (อายุ 1 ปี)
- ใบอนุญาตขับรถยนต์ชั่วคราว ราคา 100 บาท
- ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อชั่วคราว ราคา 50 บาท
- ใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ราคา 50 บาท
2. ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลหรือใบขับขี่รถยนต์ (อายุ 5 ปี) ราคา 500 บาท
3. ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อส่วนบุคคล (อายุ 5 ปี) ราคา 250 บาท
4. ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะหรือใบขับขี่สาธารณะ (อายุ 3 ปี) ราคา 300 บาท
5. ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อสาธารณะ (อายุ 3 ปี) ราคา 150 บาท
6. ใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลหรือใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ (อายุ 5 ปี) ราคา 250 บาท
7. ใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ (อายุ 3 ปี) ราคา 150 บาท
8. ใบอนุญาตขับรถบดถนน (อายุ 5 ปี) ราคา 250 บาท
9. ใบอนุญาตขับรถแทรกเตอร์ (อายุ 5 ปี) ราคา 250 บาท
10. ใบอนุญาตขับรถชนิดอื่นนอกจาก (1) ถึง (9) (อายุ 5 ปี) ราคา 100 บาท
11. ใบอนุญาตขับรถตามความตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี (ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ) หรือใบขับขี่สากล (อายุ 1 ปี) ราคา 500 บาท

...

ทั้งนี้ หากต้องการทำใบขับขี่แบบบัตรพลาสติกจะต้องชำระค่าถ่ายรูปและพิมพ์บัตรใหม่ ฉบับละ 100 บาท

ไขข้อสงสัยใบขับขี่หายต้องทำอย่างไร?

สำหรับผู้ที่ใบขับขี่หาย ให้จองคิวเพื่อทำใบขับขี่ใหม่ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ได้ทั้ง iOS และ Android แต่สำหรับใครที่ทำใบขับขี่สาธารณะหาย ให้แจ้งความลงบันทึกประจำวัน จากนั้นนำเอกสารเพื่อไปยื่นทำใบขับขี่ใหม่

ใบขับขี่หมดอายุต้องทำอย่างไร?

ใบขับขี่หมดอายุแบ่งได้เป็น 3 กรณี ดังนี้
กรณีที่ 1 ใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 1 ปี สามารถจองคิวทำใบขับขี่ใหม่ต่อได้โดยไม่ต้องสอบอีกครั้ง เพียงแต่ต้องอบรมออนไลน์
กรณีที่ 2 ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี สามารถทำใบขับขี่ใหม่ได้ เพียงแต่ต้องสอบข้อเขียนให้ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดหรือ 90% ของคะแนนทั้งหมด
กรณีที่ 3 ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ต้องสอบข้อเขียนและข้อปฏิบัติใหม่

การอบรมและต่อใบขับขี่ออนไลน์ง่ายๆ ต้องทำอย่างไรบ้าง?

การอบรมและต่อใบขับขี่ออนไลน์ สามารถทำได้ดังกรณีต่อไปนี้

  • อบรมต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ก่อนใบขับขี่หมดอายุ 90 วัน
  • อบรมต่อใบขับขี่ใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 1 ปี ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
  • อบรมต่อใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี ใช้เวลา 2 ชั่วโมง

โดยดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. ใช้เข้าเว็บไซต์ระบบการอบรมใบอนุญาตขับรถ สำหรับลงทะเบียนหรือเข้าสู่ระบบ กรอกข้อมูลให้เรียบร้อย
2. เลือกอบรมในรูปแบบที่ต้องการต่อใบขับขี่
3. เมื่ออบรมเสร็จแล้ว สามารถจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ได้ทั้ง iOS และ Android สำหรับจองวันทำใบขับขี่ใหม่ โดยเลือกวัน รอบเวลา สำนักงานขนส่ง หรือประเภทงานบริการได้ตามต้องการ

...

ปัจจุบัน นอกจากการจองคิวทำใบขับขี่ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue แล้ว ทางกรมการขนส่งทางบกก็ได้เปิดให้บริการแบบ Walk-in ด้วยเช่นกัน

ทำใบขับขี่ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง?

การทำใบขับขี่รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ หรือรถอื่นๆ ใหม่ ให้เตรียมบัตรประชาชนตัวจริงและใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 1 เดือน แต่สำหรับใครที่ต้องการต่อใบขับขี่เดิม เพียงแค่เตรียมใบขับขี่เดิมมาด้วยก็สามารถต่ออายุใบขับขี่ได้แล้ว

การต่อใบขับขี่นั้นทำได้ง่ายๆ ภายในระยะเวลาไม่กี่ขั้นตอน ซึ่งหากใครที่กำลังจะไปต่อใบขับขี่รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ใบขับขี่หาย หรือหมดอายุก็สามารถจองคิวหรือ Walk-in เข้าไปต่อใบขับขี่ได้ แต่อย่าลืมเตรียมเอกสารหรือข้อมูลจำเป็นต่างๆ ไว้ให้พร้อม