มีหลายเหตุผลที่ควรให้เด็กได้เริ่มเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เนิ่นๆ ประการแรก เพราะเด็กเล็กสามารถซึมซับข้อมูลได้ง่ายกว่าเมื่ออายุยังน้อย และยังมีเวลาฝึกฝนและพัฒนาทักษะของตนเองมากขึ้นก่อนที่จะถึงวัยผู้ใหญ่ หากผู้ปกครองต้องการให้บุตรหลานมีความสามารถและทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มสอนพวกเขาตั้งแต่อายุยังน้อย
ก่อนเลือกโรงเรียนสอนภาษาให้ลูก ควรพิจารณาเรื่องอะไรบ้าง?
การเลือกโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กอาจเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ หลักสูตร และอาจารย์ผู้สอน แต่ถ้าอยากได้สถาบันที่เหมาะสมกับบุตรหลานของเราที่สุด มาดูกันเลยว่ามีวิธีเลือกอย่างไรบ้าง
หลักสูตรมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์
หลักสูตรการเรียนการสอนเป็นข้อสำคัญที่ควรพิจารณาที่สุดสำหรับการเลือกโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ โดยผู้ปกครองควรศึกษาและตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า ทางโรงเรียนมีหลักสูตรที่ครอบคลุมทุกทักษะและตอบโจทย์หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นทักษะการฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด รวมถึงมีกิจกรรมบูรณาการอื่นๆ ที่หลากหลาย เพื่อให้การเรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่ไม่น่าเบื่อสำหรับเด็กๆ และสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งในปัจจุบันแต่ละสถาบันก็อ้างอิงหลักการสอนและทฤษฎีที่แตกต่างกันไป ดังนั้น จึงควรพิจารณาเลือกสถาบันที่มีหลักสูตรที่เข้ากับบุตรหลานของเรามากที่สุด
ครูผู้สอนที่มากประสบการณ์
ปัจจัยที่สำคัญอีกข้อหนึ่งก็คืออาจารย์ผู้สอน สถาบันที่มีคุณภาพจะต้องมีคุณครูที่มีประสบการณ์ และพัฒนาหลักสูตรการสอนอยู่เสมอ โดยอาจจะครูที่มีใจรักในการสอนมาอย่างยาวนานหรือเป็นเจ้าของภาษาเอง รวมทั้งการมีความสามารถที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนและกระตุ้นการเรียนรู้ให้เด็กๆ อยู่เสมออีกด้วย
อยู่ใกล้บ้าน เดินทางสะดวก
สุดท้ายให้พิจารณาตำแหน่งที่ตั้งของสถาบัน ควรหาสถาบันสอนภาษาที่อยู่ใกล้บ้าน สะดวกต่อการเดินทาง เพื่อให้เด็กๆ ไม่รู้สึกเหนื่อยต่อการเดินทางไปเรียนมากเกินไป จนท้อและพาลไม่อยากเรียนต่อ ทำให้การเรียนขาดความต่อเนื่องและไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควร โดยเฉพาะเด็กเล็กที่อาจจะเบื่อง่าย และมีความอดทนต่ำกว่า และเพื่อความสะดวกต่อตัวผู้ปกครองเองด้วย
แนะนำ 6 สถาบันสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก
1. Speak Up Language Center
สถาบันสอนภาษา Speak Up มีจุดเด่นที่ความชำนาญด้านการสอน ควบคู่ไปกับเทคนิคการสอนภาษาเด็กในช่วงอายุ 2.5 - 12 ปี ด้วยเทคนิคการสอนที่น่าสนใจและแพร่หลายไปทั่วโลก รวมถึงกำลังเป็นที่นิยมขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย อย่างการสอนแบบมอนเตสซอรี่ (Montessori) คุณครูจะส่งเสริมให้เด็กลงมือทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้สัมผัสทั้ง 5 ผ่านกิจกรรม on site ต่างๆ ซึ่งทำให้เด็กมีอิสระในความคิดและสร้างสรรค์ได้ในแบบของตนเอง โดยเทคนิคมอนเตสซอรีนี้ยังถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กผ่านกิจกรรมต่างๆ อีกด้วย โดยเชื่อว่าการเรียนในสภาพแวดล้อมที่ดีและมีความสุข คือการเริ่มต้นสร้างพื้นฐานการเรียนรู้ที่แข็งแรง
ศึกษารายละเอียด Speak Up Language Center เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: @SpeakUpLanguageCenter
2. สถาบัน Kid Able
สถาบันสอนภาษา คิด เอเบิ้ล เป็นอีกสถาบันที่ใช้ทฤษฎีมอนเตสซอรีมาปรับใช้ในการในการสอนเช่นกัน รวมถึงมีหลักสูตรใหม่นอกเหนือจากคอร์สเรียนภาษาอังกฤษอีกด้วย ซึ่งมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคอร์สเรียนศิลปะ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ โดยเอกลักษณ์ของคิด เอเบิ้ล คือการตกแต่งสถานที่เรียนซึ่งเน้นให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาทักษะของเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี
ศึกษารายละเอียด Kid Able เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Kid Able Thailand
3 สถาบันสอนภาษา NOVA Online
การเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับ NOVA นั้นจะเน้นไปที่การเรียนออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมและเข้ากันได้ดีกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยสถาบัน NOVA มีหลักสูตรพิเศษสำหรับคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์สำหรับเด็กอายุ 3 – 12 ปี สำหรับฝึกทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน ที่ดูแลโดยคุณครูผู้เชี่ยวชาญ ในบรรยากาศห้องเรียนภาษาอังกฤษแบบใหม่ เข้าใจง่าย สนุกสนาน สามารถเรียนอยู่บ้านแบบง่ายๆ จากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ เลือกเรียนได้เหมาะสมตามพัฒนาการด้วยระบบการจองเวลาเรียนอัตโนมัติ คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจได้เลย แถมไม่ต้องเสียเวลาเดินทางอีกด้วย
ศึกษารายละเอียด NOVA Online เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: NOVA Online_TH
4. International House Bangkok
International House Bangkok หรือโรงเรียนบ้านสากลกรุงเทพ เป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่เปิดมายาวนานกว่า 20 ปี โดยมีโปรแกรม English for Kids คลาสเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก โดยใช้หลักสูตร Cambridge Young Learners ออกแบบโดยมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ สามารถพัฒนาทักษะ 4 ด้าน ทั้ง ฟัง พูด อ่าน และเขียน โดยจะเน้นด้านการพูดเป็นพิเศษ เพื่อผลักดันให้เด็กกล้าพูดกล้าแสดงออก ใช้ภาษาอังกฤษอย่างมั่นใจ
ศึกษารายละเอียด International House Bangkok เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: International House Bangkok
5. English Corner Fashion Island
ที่ English Corner Fashion Island โดดเด่นเรื่องการสอนภาษาอังกฤษโดยครูชาวต่างชาติ ได้มาตรฐานจากกระทรวงศึกษาธิการ มีหลักสูตรสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กในช่วงอายุ 3 – 15 ปี ที่เน้นการสร้างทักษะพื้นฐานให้มั่นคง โดยเฉพาะหลักสูตร Phonics เน้นให้เด็กๆ สะกดคำเป็น ออกเสียงภาษาอังกฤษได้อย่างชัดเจนและถูกต้อง รวมถึงมีกิจกรรมและเกมเสริมทักษะต่างๆ ในชีวิตประจำวันอีกด้วย
ศึกษารายละเอียด English Corner Fashion Island เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: @EC.FashionIsland
6. BrainFit Studio Thailand
คอร์สเรียนภาษาอังกฤษของ BrainFit Studio Thailand นั้น มีความน่าสนใจตรงที่ในการเรียนแต่ละครั้งใช้เวลาเพียง 80 นาที และเป็นที่แรกและที่เดียวที่ฝึกทักษะสมองครบทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ การประมวลผลทางด้านการฟัง ระบบกล้ามเนื้อและประสาทสัมผัส การประมวลผลทางด้านการมอง สมาธิและความจำ และอารมณ์และการเข้าสังคม ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ออกแบบตามหลักประสาทวิทยา ซึ่งบรรจุลงในโปรแกรม BrainFit Junior สำหรับเด็กวัย 3 – 6 ปีอีกด้วย มั่นใจได้เลยว่าเด็กๆ ที่เรียนโปรแกรมนี้จะมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ดี เตรียมพร้อมสู่อนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน
ศึกษารายละเอียด BrainFit Studio Thailand เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: @brainfit.th