ลูกบิดประตูเป็นอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยให้กับบ้าน และห้องต่างๆ แต่อาจเป็นสิ่งที่ไม่ปลอดภัยหากลูกบิดประตูล็อกค้าง ขังตัวเองไว้ในห้อง วันนี้ไทยรัฐออนไลน์มีวิธีปลดล็อกลูกบิดประตูแบบง่ายๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความปลอดภัยเบื้องต้น

วิธีเอาตัวรอดจากห้องที่ถูกล็อก

1. ร้องเรียกให้คนช่วย

ส่งเสียงเพื่อให้คนเดินผ่านได้ยิน เป็นวิธีเบื้องต้นที่ควรทำเมื่อพบว่าตัวเองติดอยู่ด้านในประตูเปิดไม่ออก วิธีการนี้ทำให้หลายคนรอดจากเหตุถูกขังไว้ด้านในไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำสาธารณะ หรือห้องต่างๆ

2. หากระดาษเขียนหย่อนลงหน้าต่าง เผื่อมีคนพบเห็น

เขียนกระดาษสอดใต้ประตู หรือหย่อนลงหน้าต่าง เพื่อให้คนที่สัญจรผ่านไปมาได้พบเห็น แจ้งว่าติดอยู่ที่ใด ชั้นไหน ติดตั้งแต่เมื่อไหร่

3. พยายามปลดล็อกกลอนประตู

ศึกษาวิธีสะเดาะกลอนประตูจากด้านนอกและด้านใน จากวิธีด้านล่างนี้

ลูกบิดประตูล็อก ค้าง มีวิธีปลดล็อกอย่างไร

...

ลูกบิดประตูล็อกจากการเผลอล็อก หรือลืมกุญแจ โดยจะต้องไขจากด้านนอกเข้าไป วิธีที่ง่ายที่สุดคือโทรเรียกช่างทำกุญแจ แต่ถ้าหากไม่ทันเวลา มีเหตุจำเป็น ก็ลองศึกษาวิธีปลดล็อกลูกบิดประตูง่ายๆ ดังนี้

ลูกบิดประตูล็อกจากด้านนอก หรือ ลืมกุญแจไว้ด้านใน

  • ใช้มีดงัด

ใช้ปลายมีดงัดเดือยตัวใหญ่ มีดที่ใช้ควรมีขนาดพอเหมาะ ปลายแหลม ขนาดพอดีมือ จิกไปที่เดือยตัวใหญ่แล้วค่อยๆ หมุนจนกว่าประตูจะเปิด

  • ใช้หลอดกับเชือกฟาง

ใช้เชือกสอดเข้าไปในหลอด และแยงหลอดเข้าไปด้านในประตู และใช้ไม้เกี่ยวเชือกดึงออกมาด้านนอก จับปลายเชือกอาศัยแรงเสียดทานขยับเดือย ให้ปลดล็อกออก

  • ใช้ห่วงลูกกุญแจ

ใช้ห่วงลูกกุญแจ นำมางอเป็นเลข 9 แล้วใช้ปลายของห่วงแยงเดือยตัวใหญ่ พร้อมกับหมุนลูกบิด

  • ใช้บัตรพลาสติก

ใช้บัตร ATM หรือการ์ดดันไปที่ช่องว่างระหว่างประตูกับตัวล็อกลูกบิดประตู เขย่าจนกว่าเดือยจะหลุด วิธีนี้จะทำให้การ์ดเสียและงอ เพราะฉะนั้นควรเลือกบัตรเก่าๆ

วิธีปลดล็อกลูกบิดประตูจากด้านใน

กรณีเปิดประตูไม่ได้ ทำให้ปิดประตูขังตัวเองอยู่ด้านใน ให้ใช้บัตร การ์ด หรือแผ่นพลาสติกเท่าที่จะหาได้ แยงเข้าไปที่วงกบประตูบริเวณตัวล็อกลูกบิด แล้วเขย่าให้กลอนคลายล็อกออก แต่ต้องอาศัยเวลา และไม่ใช่ทุกบานประตูที่จะเปิดด้วยวิธีนี้ได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันประตูล็อกขังตัวเอง จะต้องป้องกันปัญหาเฉพาะหน้า ดังนี้

1. เปลี่ยนลูกบิดประตู ซ่อมแซมประตูให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา

ตรวจสอบการติดตั้งทิศทางของลูกบิดประตู และหากพบว่าประตูบิดเบี้ยว ลูกบิดค้าง ไม่อยู่ในสภาพใช้งาน ต้องรีบเปลี่ยนป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

2. เปลี่ยนมาใช้กลอนล็อก

เลือกติดตั้งกลอนล็อก เพื่อให้ปลดล็อกประตูง่ายขึ้น

3. บ้านที่มีเด็ก และผู้สูงอายุ ไม่ควรปล่อยให้พวกเขาอยู่ลำพัง

เด็ก และผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจติดอยู่ในห้อง ดังนั้นไม่ควรปล่อยให้อยู่คนเดียวในบ้าน หรือในอาคารต่างๆ ลำพัง

4. ติดสัญญาณหรือกระดิ่งไว้ในห้องน้ำ

ในห้องที่มีผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ควรติดตั้งสัญญาณเรียกหรือกระดิ่งเพื่อรองรับเหตุฉุกเฉิน

5. คิดแผนสำรองฉุกเฉินกรณีติดอยู่ในห้องน้ำ

จินตนาการถึงแผนกู้ภัย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในบ้าน เช่น เมื่อติดอยู่ในห้องน้ำ เปิดไม่ได้ จะเรียกให้ใครช่วย

หากเป็นห้องน้ำสาธารณะการติดโทรศัพท์เข้าไปในห้องน้ำทำให้เราโทรแจ้งคนด้านนอกให้มาช่วยเปิดประตูได้ แต่หากอยู่บ้านลำพัง ก็ควรมีการติดต่อกับเพื่อนบ้านหรือคนที่ไว้ใจ เพื่อป้องกันการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้