เปรียบตัวเองเป็น “ธานอส” มหาวายร้ายที่ไม่หวังในอำนาจ แต่อยากล้างโลกเพื่อสร้างสมดุลใหม่ด้วยการทำลายโลกเก่า แต่ถ้าถาม พ่อเมืองคนใหม่ของกรุงเทพมหานคร “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ว่าอยากได้ซุปเปอร์ฮีโร่ตัวไหนเป็นผู้ช่วย ผู้ว่าฯตอบไม่ลังเลใจ...ผมขอ “โดราเอมอน” ได้ไหม เพราะมีของวิเศษเยอะ จะได้ทำให้คนไทยรักกันและสามัคคีกัน ส่วนพวกเราคนกรุงเทพฯอยากรีบหา “ประตูวิเศษไปที่ไหนก็ได้” ให้ผู้ว่าฯคนขยัน จะได้วาร์ปไปสะสางทุกภารกิจได้เร็วทันใจประชาชน!!

...

“ปัญหาของประชาชนไม่มีเสาร์อาทิตย์ เวลาจำกัดแค่ 4 ปี ห้ามหยุด!! ต้องทำงานทำงานทำงานทุกวัน เพื่อปลุกกรุงเทพฯให้เป็นมหานครแห่งความหวัง และเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน ที่ผ่านมาบ้านเมืองเราทะเลาะกันเยอะ ถ้าผมลงสมัครในนามพรรคสุดท้ายก็ไปด่าเราเรื่องไม่เกี่ยวกับ กทม. ผมประกาศเป็นผู้สมัครอิสระ เพราะเชื่อว่าจะสามารถรวมคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้มากกว่า ผมจะไม่เอาเกียรติและสิ่งที่ประชาชนฝากความหวังมาทิ้งไว้ตรงนี้แน่!! เราเป็นนักการเมืองจริง แต่อยากทำงานเมือง ไม่ใช่ทำการเมือง เราจะไม่เอาความขัดแย้งเป็นเครื่องมือหาเสียง ผมเชื่อว่าการเมืองท้องถิ่นสามารถทำได้ คนที่เลือกเรามาจากหลายพรรค ซึ่งเชื่อว่าเราสามารถรวมพลังคนได้ดี เราไม่มีผลประโยชน์อะไรแอบแฝง เวลาทำงานให้เกียรติทุกคน จะบอก ส.ก.เจ้าของพื้นที่ตลอด ถ้าเราให้เกียรติซึ่งกันและกัน ผมเชื่อว่าทุกคนอยากทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน” ...ผู้ว่าฯย้ำความตั้งใจจริง

ชัยชนะถล่มทลายมาพร้อมความคาดหวังมหาศาล รู้สึกกดดันไหม

ยอมรับว่ากดดัน!! เหมือนมีคนมาสั่งให้เราทำงาน เป็นคำสั่งสำคัญจากคนกรุงเทพฯ ต้องพยายามเปลี่ยนความคาดหวังให้เป็นความร่วมมือและทำให้สำเร็จ เราเป็นตัวแทนคนกรุงเทพฯ ฉะนั้นต้องทำงานโดยเอาประโยชน์ของคนกรุงเทพฯเป็นหลัก ประสานงานด้วยผลประโยชน์ของคนกรุงเทพฯ ไม่ใช่ผลประโยชน์ของรัฐบาล เราพร้อมทำงานกับทุกคนทุกฝ่าย และเชื่อว่าถ้าได้คุยกันได้ประสานงานกัน โดยเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ความขัดแย้งต่างๆจะไม่เกิดขึ้น ถือเป็นความโชคดีที่มี 214 แอ็กชันแพลน ซึ่งทำให้เดินหน้าทำงานได้ทันที นี่คิดมาเพิ่มอีก 2 ข้อ และจะคิดเพิ่มอีกเรื่อยๆ

...

จากเต็งหนึ่ง รมว.โลกลืม กลายเป็นผู้ว่าฯกทม.กวาดคะแนนสูงสุดในประวัติศาสตร์ อะไรทำให้ประชาชนเปลี่ยนใจมารัก “ชัชชาติ”

ผมก็ยังเป็น “ชัชชาติ” คนเดิม และทำงานหนักเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือ ปรับวิธีการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น และเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ไม่ว่าเราตั้งใจทำงานแค่ไหน ถ้าสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจไม่ได้ โอกาสประสบความสำเร็จจะน้อยลง หัวใจสำคัญของการสื่อสารคือ ให้ความสำคัญกับผู้ฟัง ไม่เอาตัวเราเป็นที่ตั้ง ฟังให้เยอะ ดูว่าคนฟังสนใจเรื่องอะไร อย่าไปทะเลาะโต้แย้ง สำคัญที่สุดคือความไว้วางใจ ถ้าเราได้รับความไว้วางใจแล้ว จะทำให้การสื่อสารของเราทำได้ง่ายขึ้น ความดีและความเก่งเราต้องมีทั้งสองส่วน ถึงจะได้รับความไว้วางใจ ถ้าเราเก่งเรื่องงานแต่นิสัยเห็นแก่ตัว ก็ยากที่คนอื่นจะไว้ใจเรา หรือถ้าเราเป็นคนมีน้ำใจชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่ไม่มีความสามารถในงานที่ทำ โอกาสที่คนอื่นจะไว้ใจก็น้อยลง ชีวิตเราต้องสร้างและรักษาความไว้วางใจให้ดีที่สุด รับปากอะไรใครไว้ห้ามผิดคำพูด

...

ตั้งรับกระแส “ชัชชาติฟีเวอร์” ยังไง กลัวหมดเวลาฮันนีมูนไหม

เฟซบุ๊กมียอดผู้ติดตามก่อนเลือกตั้ง 9 แสน ตอนนี้เพิ่มเป็น 1.9 ล้านแล้ว เอาจริงๆไม่คาดคิดมาก่อน ยังไงก็ขอบคุณครับ ดีกว่าโดนคนด่านะ แต่เดี๋ยวกระแสก็เบาลง ตรงนี้ไม่ใช่สิ่งที่เรายึดติดหรอก

...

มีเสียงประชาชนเรียกร้องอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี?

ตอนนี้ไม่ได้สนใจเรื่องการเมืองใหญ่เลย เราโฟกัสแต่เรื่องกรุงเทพฯ เรื่องลอกท่อเก็บขยะ และการเดินหน้าทำทันทีทั้งแผนปฏิบัติการ 216 ข้อ ที่อยู่ภายใต้นโยบาย 9 ด้าน 9 ดี คือ ปลอดภัยดี, สร้างสรรค์ดี, สิ่งแวดล้อมดี, เศรษฐกิจดี, เดินทางดี, สุขภาพดี, โครงสร้างดี, เรียนดี และบริหารจัดการดี ซึ่งกลั่นกรองจากปัญหาจริงของชาวเมืองกรุง ผ่านอาสาสมัครและการลงพื้นที่พบปะประชาชนที่อยู่อาศัยทั่วกรุงเทพฯ นำมาคิดสร้างสรรค์ร่วมกับนักวิชาการชั้นแนวหน้าจากหลายสถาบันการศึกษา และพร้อมลงมือดำเนินการได้ทันที

อะไรคือภารกิจเร่งด่วนที่สุดของผู้ว่าฯ คนใหม่

นอกจาก 4 นโยบายเร่งด่วนที่ต้องทำทันที เช่น การแก้ปัญหาน้ำท่วม, เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนและทางม้าลาย, เรื่องหาบเร่แผงลอย และสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว สิ่งที่ต้องเร่งทำคือการสร้างความโปร่งใส และแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน เพราะหยั่งรากลึกมานาน เบื้องต้นจะเชิญองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เข้ามาหารือ และช่วยดูในฐานะบุคคลที่สาม เรายังเปิดแอปพลิเคชันเป็นช่องทางร้องเรียนให้คนกรุงเทพฯ ต่อไปข้าราชการต้องหันหลังให้ผู้ว่าฯ และหันหน้าให้ประชาชนมากขึ้น ใครเห็นปัญหาร้องเรียนอะไรก็สามารถหยิบขึ้นมาทำได้ทันที โดยไม่ต้องรอคำสั่ง

“ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” เป็นพ่อเมืองสไตล์ไหน

ลงมือทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง “Leading by Example” ถ้าอยากให้เขาดูแลประชาชน เราก็ต้องลงไปดูแลประชาชน ถ้าอยากให้เขาขยัน เราก็ต้องขยันนำไปก่อน อีกอย่างคือ “Walk the Talk” พูดยังไงให้ทำยังงั้น ความเข้าอกเข้าใจคนอื่นก็สำคัญ ต้องรู้ว่าลูกน้องเรากินอยู่ยังไงมีชีวิตยังไง ผมไม่ชอบอยู่บนหอคอย ขอเป็นผู้ว่าฯติดดินใครก็คุยด้วยได้ สุดท้ายทุกคนคือเพื่อนร่วมงานกัน เราไม่ใช่เจ้านายพวกเขา ผมบอกทุกคนว่าชอบความโปร่งใส มีอะไรให้พูดออกมาอย่าเก็บไว้ในใจ ผมชอบให้คนทักได้แก้ไข มันทำให้เราไม่ผิดนาน!! ถึงเป็นเด็กกว่าก็เถียงได้ถ้ามีเหตุผล ยิ่งคนมีอำนาจแล้วคนรอบข้างไม่กล้าพูดไม่กล้าเถียงอันนี้จะหลงไปไกล เราต้องสร้างวัฒนธรรมให้คนรอบข้างกล้าพูดกล้าแย้ง ผมบอกทุกคนอย่าเรียกเราว่า “นาย” ให้มองเราเป็นเพื่อนร่วมงาน สำหรับผมผู้ว่าฯมี 2 หน้าที่คือ เป็นผู้จัดการคอยทำงานรูทีน เรื่องลอกท่อเก็บขยะต้องทำอยู่แล้ว อีกหน้าที่คือเป็นซีอีโอวางยุทธศาสตร์ของเมือง ซึ่งผมอยากดึงเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด เพื่อช่วยพัฒนาเมืองไปด้วยกัน ต้องรวมเป็นเนื้อเดียวกันให้ได้ทั้งภาครัฐ, ภาคเอกชน และภาคประชาชน

ทุกวันนี้นอนกี่ชั่วโมง หลายคนเป็นห่วงสุขภาพผู้ว่าฯ

เอาจริงนอนไม่ค่อยหลับหรอก นอนได้ไม่เกินวันละ 5 ชั่วโมง ปกติเข้านอน 3 ทุ่ม ตีสอง ก็ตื่นแล้ว จากนั้นก็นั่งทำงานยาว พอตีสี่ค่อยออกไปวิ่งและใส่บาตร ปกติจะวิ่งแถวบ้านและสวนลุม แต่หลังรับตำแหน่งเปลี่ยนมาวิ่งรอบๆศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสร็จแล้วอาบน้ำอาบท่าเข้าทำงานได้เลยก่อน 6 โมงครึ่ง วิ่งไปตรงไหนก็มีแต่คนยื่นหนังสือร้องเรียน เวลาวิ่งนอกจากจะช่วยแก้เครียดแล้ว ยังคิดแผนใหม่ๆได้เยอะ หลายนโยบายก็คิดออกตอนกำลังวิ่ง เวลาวิ่งยังได้พูดคุยและเห็นปัญหาจริงๆของคนกรุง น้ำหนักผมลดไป 10 กิโลกรัม ภายในเวลา 2 เดือน เพราะทำ IF กิน 6 ชั่วโมง ระหว่าง 8 โมงเช้า ถึงบ่ายสองโมง และอดอาหาร 18 ชั่วโมง ผอมลงแต่สุขภาพแข็งแรงขึ้น และรู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้น ปกติผมเป็นคนตื่นเช้านอนเร็วไม่ปาร์ตี้ ถามว่าตอนนี้ทำงานหนักไหม ก็ทำงานหนักมาตลอด เพียงแต่ไม่เคยไลฟ์สดให้คนเห็นมาก่อน

ผู้ว่าฯ เข้างานเช้ามืด ข้าราชการต้องปรับตัวหนักไหม

ผมมาวิ่งตอนตีสี่ครึ่งของผมคนเดียว และเข้าไปนั่งทำงานเงียบๆของผม ไม่เคยขอให้ใครมาตามเรา ผมบอกตั้งแต่วันแรกว่า ทุกคนมีภาระต่างกัน ชีวิตใครชีวิตมัน ไม่ต้องมาวิ่งตามผม บางคนอาจ ตื่นสายหน่อยแต่ทำงานดึกก็ได้ ไม่ได้คาดหวังว่าทุกคนจะต้องมาเช้าเหมือนเรา ทุกอย่างจะวัดจากผลงาน 216 เรื่องที่ให้นโยบายไปว่าสามารถทำได้สำเร็จไหม ผมคุยปุ๊บก็รู้แล้วว่าใครทำงานไม่ทำงาน
งานล้นมือขนาดนี้อยากได้ซุปเปอร์ฮีโร่ตัวไหนมาช่วยกู้โลก

ขอ “โดราเอมอน” ได้ไหม เพราะมีของวิเศษเยอะ จะได้ทำให้คนไทยรักกันและสามัคคีกัน ถามหน่อยทำไมคน

ทะเลาะกัน เพราะมีคนได้ประโยชน์จากการทะเลาะกัน มันก็เลยใช้อารมณ์เสี้ยมกันอยู่นั่นล่ะ ถ้าเกิดคนไทยเหนียวแน่นรักกัน สุดท้ายมันก็มาที่เหตุผล

ผู้ว่าฯ เชื่อโชคลางปาฏิหาริย์ไหม

ผมนับถือ “พระพรหมเอราวัณ” ตั้งแต่เด็ก ตอนลงสมัครเลือกตั้งอธิษฐานว่า ขอให้สิ่งที่เกิดเป็นสิ่งที่ดีต่อประเทศชาติ ถ้าเราเป็น (ผู้ว่าฯ) แล้วดี ก็ขอให้ได้เป็น...เพี้ยง!! ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ.

ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ