ค้นหาตัวเองจนเจอ และสามารถสร้างผลงานที่ชื่นชอบและหลงใหลจนเป็นที่ยอมรับ ธนาวุฒิ ธนสารวิมล ครีเอทีฟไดเรกเตอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ TANDT เริ่มต้นขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นยุคที่อุตสาหกรรมแฟชั่นของเมืองไทยมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทำให้ได้มีโอกาสเรียนรู้ สั่งสมประสบการณ์ และศึกษาการทำงานอย่างมืออาชีพ สิ่งเหล่านี้จึงเป็นรากฐานสำคัญของแบรนด์ในการทำงานกระทั่งจนถึงปัจจุบัน
นุ๊ก-ธนาวุฒิ ธนสารวิมล ครีเอทีฟไดเรกเตอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ TANDT (ทีแอนด์ที) บอกถึงเส้นทางการทำงานของตัวเองว่า ทันทีที่เรียนจบจากคณะศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต ด้วยความชอบแต่งตัวและรักในงานแฟชั่น เลยเริ่มทำแจ็กเกตที่เป็นงานปักทำมือวางขายที่ตลาดจตุจักร และขยับขยายมาเปิดร้านใหม่ที่สวนลุมไนท์บาซาร์ ทำให้มีฐานลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ เช่น ฮ่องกง จีน และเกาหลี ที่ชื่นชอบงานฝีมือเป็นลูกค้าหลัก จนเมื่อสวนลุมไนท์บาซาร์ ปิดตัวลงจึงเริ่มวางแผนชีวิตใหม่ และตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ที่นิวยอร์กเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม ทำให้ตนพบว่าแค่การเปลี่ยนที่อยู่ก็ช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ จึงเก็บเกี่ยวประสบการณ์และแรงบันดาลใจต่างๆ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจว่าจะกลับมาเปิดแบรนด์ของตัวเองที่เมืองไทย ทันทีที่กลับมาจึงตัดสินใจก่อตั้ง TANDT (ทีแอนด์ที) แบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองในปี 2012
...
“ชื่อแบรนด์ TANDT (ทีแอนด์ที) มีที่มาจากอักษรตัวแรกของชื่อและนามสกุลของผม แบรนด์ค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งคาแรกเตอร์ของสาวทีแอนด์ทีจะเป็นคนที่ชอบแต่งตัว มีความเปรี้ยว แก่น ซ่า กล้าที่จะโดดเด่น และมีความมั่นใจในตัวเอง ช่วงที่ทำงานก็ได้ไปเรียนต่อปริญญาโทที่จุฬาลงกรณ์มหา วิทยาลัย คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขานฤมิตศิลป์ ได้นำความรู้และประสบการณ์ด้านแฟชั่นมาลงมือทำเองคนเดียวทุกขั้นตอน ตั้งแต่วางแพตเทิร์น ตัดเย็บ จัดหาอุปกรณ์ และวางจำหน่าย ก่อนจะเริ่มฟอร์มทีม บวกกับช่วงนั้นเป็นช่วงที่วงการแฟชั่นมีการเปลี่ยนแปลงจึงเป็นโอกาสดีที่ได้เริ่มทำงานตั้งแต่ยุคที่คลาสสิก เช่น การทำคอลเลกชัน การทำแฟชั่นโชว์ ไปจนถึงการทำงานกับต่างประเทศ เช่น จีน เกาหลี และฝรั่งเศส ทำให้ได้มีโอกาสศึกษาการทำงานอย่างมืออาชีพด้วย การเริ่มต้น TANDT ได้เริ่มเข้ามาในอุตสาหกรรมแฟชั่นในช่วงที่ถูกจังหวะพอดีครับ เราเปิดคอลเลกชันแรกคือสปริงซัมเมอร์ 2013 และได้เริ่มเดินแฟชั่นโชว์ครั้งแรกในปี 2016 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของแบรนด์”
และเมื่อธุรกิจมาเจอสถานการณ์โควิด-19 นุ๊ก–ธนาวุฒิ บอกว่า ด้วยสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไป เราได้ปรับตัวและปรับระบบการทำงานเพื่อให้ทันโลกแฟชั่นยุคนี้ ต้องเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ทำให้มียอดขายเติบโตแบบสวนกระแส มีช่องทางการจำหน่ายอีคอมเมิร์ซรองรับ นอกจากนี้ TANDT ได้เพิ่มคุณค่าของงานดีไซน์ด้วยซิลลูเอตแบบ semi-couture ที่ให้ความสำคัญและใส่ใจในรายละเอียดผ่านกรรมวิธีการตัดเย็บที่ประณีตบรรจงและซับซ้อนจากช่างฝีมือที่มีความสามารถชั้นสูง จนเกิดเป็น “TANDT LAVISH” ที่แบรนด์ TANDT ตั้งใจสร้างสรรค์เสื้อผ้าชิ้นพิเศษที่ผลิตขึ้นมาในจำนวนจำกัดในแต่ละคอลเลกชันเพื่อให้เสื้อผ้าแต่ละชิ้นได้รับการดูแล และใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างดีที่สุด
“ระยะเวลาการทำแบรนด์มากว่า 10 ปีทำให้เราต้องตามกระแสโลกที่เปลี่ยนไปให้ทันในขณะเดียวกันเราก็ยังมีจุดยืนในงานของเราเอง เช่น ในเรื่องของ Sustainable Fashion ที่ไม่ใช่เพียงการเลือกใช้วัสดุที่รีไซเคิลหรือเฟรนด์ลีกับสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่เรายังนึกถึงความยั่งยืนของงานดีไซน์ด้วยการสร้างสรรค์งานออกแบบที่สวมใส่ได้นาน ไปจนถึงการส่งต่อถึงรุ่นต่อไปได้อีกด้วย”...การทำงานของผู้บริหารหนุ่มคนนี้.