เรื่อง “ความเชื่อ” หรือมูเตลู เป็นสิ่งที่อยู่กับสังคมไทยมาทุกยุคสมัย แม้ว่าตอนนี้โลกเราจะนับถอยหลังเข้าสู่ยุค Metaverse แล้วก็ตาม คนยุคใหม่ที่เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยีสุดล้ำก็ยังสนใจเรื่องมูเตลูไม่แพ้คนรุ่นก่อนๆ เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบไปตามยุคสมัย ขณะที่ความศรัทธาในเรื่องศาสนากลับลดน้อยถอยลงไปอย่างเห็นได้ชัด

เรื่องนี้ อนัญญา โตแสงชัย ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร บริษัท โฮโรโซไซตี้ จำกัด ตัวแทนจากวงการสายมูเตลูได้ให้คำตอบว่า ความจริงแล้วทั้งเรื่องมูเตลูและเรื่องศาสนาต่างอยู่บนพื้นฐานของ “ความเชื่อ” เหมือนกัน ต่างกันที่วิธีการนำมาปรับใช้ในชีวิตตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป แต่เป้าหมายยังเหมือนกันคือ ต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น อยากคิดสิ่งใดก็สมดั่งใจหวัง จึงเป็นที่มาของการเชื่อในสิ่งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้

การิน ศตายุส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง และอนัญญา โตแสงชัย ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร บริษัท โฮโรโซไซตี้ จำกัด
การิน ศตายุส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง และอนัญญา โตแสงชัย ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร บริษัท โฮโรโซไซตี้ จำกัด

...

“ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด หรือไม่นับถือเลย แต่ถ้ารู้สึกอินหรือเชื่อในเรื่องมูเตลู ที่น่าจะเปลี่ยนแปลงชีวิตตนเองไปในทางบวกได้ ก็อยากจะขอลองสักตั้ง พอลองแล้วรู้สึกดี ก็จะเดินหน้ามูให้ครบทุกด้านที่คนบอกต่อกันว่าดี ด้วยเหตุนี้เรื่องมูเตลูจึงสามารถแฝงเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนได้แบบกลมกลืน และไม่รู้สึกถูกยัดเยียดแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกับศาสนา พูดตามตรงว่าน้อยมากที่คนไทยจะมีโอกาสได้เลือกนับถือศาสนาที่ใช่กับตนเองจริงๆ ส่วนใหญ่ก็จะนับถือตามพ่อแม่หรือวงศ์ตระกูล ในอดีต การไปวัดเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในวันหยุดของครอบครัว คนรุ่นเก่าๆ จึงได้เข้าใกล้พระธรรมคำสั่งสอนมากหน่อย แล้วนำมาประยุกต์เข้ากับวิถีชีวิตได้ด้วยตนเอง ในขณะที่ยุคปัจจุบัน กิจกรรมของครอบครัวหรือคนรุ่นใหม่ๆ นั้นมีความหลากหลาย ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้น ก็ยิ่งมีสิ่งที่น่าสนใจและให้คนได้ยึดถือติดตามมากกว่าศาสนาที่ค่อยๆ ไกลตัวออกไป รวมถึงข่าวเชิงลบเกี่ยวกับศาสนาและพระสงฆ์ ซึ่งยิ่งทำให้คนรุ่นใหม่รู้สึกบั่นทอนและไม่เชื่อถือในศาสนาว่าจะนำพาชีวิตให้เจริญขึ้นได้อีกต่อไป”

ด้วยเหตุนี้ มูเตลูจึงเป็นเรื่องที่เข้าถึงคนได้ทุกเพศทุกวัย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง 70% และ 30% คือกลุ่มผู้ชาย ซึ่งเริ่มมีความสนใจมูเตลูมากขึ้นแต่ไม่แสดงออกชัดเจนเท่าผู้หญิงและกลุ่ม LGBTQ หากเป็นสื่อออฟไลน์อย่าง หนังสือพิมพ์ รายการทีวี ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องดวง ทัวร์ไหว้พระ จะเข้าถึงกลุ่มคนสูงวัยได้มากกว่ากลุ่มวัยรุ่น ขณะที่สื่อออนไลน์ในหลายๆ แพลตฟอร์ม จะมีผู้ติดตามเป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยเริ่มต้นทำงานอย่าง Gen Z (เกิดในช่วงปี 2540-2555 หรืออายุ 10-25 ปี) เพราะชอบติดตามกระแสต่างๆ ส่วนกลุ่มที่ขับเคลื่อนตลาดมูเตลูให้เติบโตขึ้นคือกลุ่ม Gen Y (เกิดในช่วงปี 2523-2540 หรืออายุ 25-42 ปี) ด้วยความชื่นชอบเรื่องสายมูเป็นทุนเดิมบวกกับมีกำลังซื้อสูง จึงเป็นกลุ่มสำคัญที่ทำให้ตลาดนี้โตอย่างต่อเนื่อง

เรื่องมูเตลูที่คนไทยทุกเพศทุกวัยให้ความสนใจ ได้แก่

อันดับ 1 เรื่องความรักและเสน่ห์ 40%
ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบคู่รัก เพื่อน ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าจะคนรุ่นใหม่หรือเก่าก็ยังคงมีเรื่องความรักความสัมพันธ์เป็นแรงผลักดันหลักในการดำเนินชีวิตและทำให้มีกำลังใจในการทำสิ่งอื่นๆ ต่อไป

อันดับ 2 เรื่องเงินและโชคลาภ 35%
เรื่องปากท้องเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้ความรัก ยิ่งในยามเศรษฐกิจแบบนี้ คนก็อยากเช็กว่าสิ่งที่ทำอยู่จะได้ผลตอบแทนดีไหม จะมีโชคลาภเข้ามาพลิกชีวิตบ้างไหม ลูกหนี้จะคืนเงินไหม จะปลดหนี้ก้อนโตได้เมื่อไร ฯลฯ เรียกว่าให้มูเรื่องนี้ ถึงไหนถึงกัน

อันดับ 3 เรื่องงาน สุขภาพ และอื่นๆ 25%
ทั้ง 3 เรื่องนี้เป็นสิ่งที่คนไทยให้ความสนใจในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันจึงทำให้แยกเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ยาก โดยเรื่องงาน ตอนนี้คนส่วนใหญ่สนใจเรื่องงานออนไลน์ อาชีพเสริม และการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง จึงเน้นดูดวง หรือซื้อของมงคลที่เสริมสิ่งเหล่านี้ ส่วนเรื่องสุขภาพตั้งแต่โควิด-19 ระบาด คนเป็นออฟฟิศซินโดรมกันมากขึ้นและเทรนด์คนรักสุขภาพมาแรง จึงทำให้คนหันมาเสริมดวงด้านนี้มากขึ้น

...

มูเตลูแบบไหนโดนใจคนไทย

การิน ศตายุส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บจ.โฮโรโซไซตี้ ได้ให้ข้อมูลว่า ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยใดคนไทยยังชื่นชอบเรื่องการเสี่ยงดวงเสี่ยงโชค โดยเฉพาะการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากตกงานไปจนถึงต้องปิดกิจการ ยิ่งทำให้คนหันมาเสี่ยงโชคมากขึ้น และต้องการหาที่พึ่งทางใจจากการดูดวง โดยเฉพาะไพ่ยิปซี ไพ่ออราเคิล ญาณสัมผัส และโหราศาสตร์ต่างๆ ไสยศาสตร์ การบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เครื่องรางและของมงคลอย่างมาก จนกลายเป็นเทรนด์ฮอตทั้งในโลกออฟไลน์และออนไลน์

...

“เมื่อไปมูเตลูถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเองไม่ได้เพราะการเดินทางถูกปิดกั้น บริการ “ฝากไปมู” ทั้งขอพรและแก้บนก็เกิดขึ้นมาตอบโจทย์คนไทยให้มีทางไปต่อ เมื่อต้องใส่หน้ากากอนามัยก็เกิดไอเดียของการทำหน้ากากเป็นสีสันต่างๆ เพื่อให้คนเลือกซื้อไปใส่เสริมสิริมงคลประจำวัน เมื่อต้องทำงานออนไลน์และอยู่กับมือถือมากขึ้น เครื่องรางดิจิทัลก็เกิดขึ้น โดยเฉพาะวอลเปเปอร์เสริมดวงที่ดีไซน์องค์ประกอบมงคลทั้งไพ่ยิปซี รูปภาพ สีสัน และตัวเลขที่มีความหมายส่งเสริมความต้องการของผู้ที่บูชา รวมทั้งเคสมือถือมงคลเน้นสีเสริมดวงจนถึงมียันต์ ลวดลายศักดิ์สิทธิ์ และหินนำโชคประกอบอยู่ในเคสด้วย อีกหนึ่งของมงคลที่ไม่เคยหายไปจากกระแสเลยตลอด 10 ปีที่ผ่านมาคือ เลขมงคล โดยเฉพาะเบอร์โทรศัพท์และเลขทะเบียนรถ ในธุรกิจค่ายมือถือ เบอร์มงคลยังคงเป็นกลุ่มที่สร้างมูลค่าได้สูงอย่างต่อเนื่อง เพราะคนอยากจะใช้เบอร์มงคลเพื่อให้ชีวิตรุ่งเรืองแถมขายต่อก็ได้ราคาด้วย ส่วนเลขทะเบียนรถ คงไม่ต้องอธิบายมาก นอกจากเลขมงคลจะเป็น asset ที่มีมูลค่าเหมือนกับเบอร์มงคลแล้ว ยังช่วยเสริมบารมีและการคุ้มครองเวลาอยู่บนท้องถนนให้กับเจ้าของรถอีกด้วย”

ทั้งนี้ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เคยทำการสำรวจพบว่าคนไทยกว่า 52 ล้านคนในปัจจุบันมีความเชื่อเรื่อง ‘โชคลาง’ โดย 5 อันดับเรื่องโชคลางที่มีผลต่อคนไทยมากที่สุด ได้แก่

1. พยากรณ์ โหราศาสตร์ ลายมือ ไพ่ยิปซี
2. พระเครื่องวัตถุมงคล
3. สีมงคล
4. ตัวเลขมงคล
5. เรื่องเหนือธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะชอบการมูเตลูแบบไหน อย่าลืมเดินทางสายกลาง ด้วยการมูเตลูในแบบกำลังดีที่ไม่รบกวนกำลังทรัพย์ รบกวนเวลา หรือกระทบคนรอบข้างนะคะ

...