โลกยุคหลังโควิด–19 ไม่มีวันเหมือนเดิม เช่นเดียวกับอนาคตของประเทศไทย ซึ่งกำลังจะขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงไปข้างหน้า ด้วยมือของ 15 คนไทยทรงอิทธิพลที่สุดแห่งปี 2022
ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าอนาคตของธนาคารอาจไม่เหลือธนาคาร เพราะวิกฤติโควิดเป็นตัวการเร่งให้เกิดดิจิทัลดิสรัปชันเร็วขึ้น “อาทิตย์ นันทวิทยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กลายเป็นพระเอกขี่ม้าขาวกอบกู้อุตสาหกรรมการเงินการธนาคารของไทย โดยเลือกดิสรัปต์ตัวเองก่อนโดนคนอื่นดิสรัปต์ ประกาศจัดตั้งยานแม่ ภายใต้ชื่อ “SCBX” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเชิงรุก ยกระดับ
สู่การเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงินของภูมิภาคภายในปี 2025 สร้างบริษัทสู่หลากธุรกิจการเงินและแพลตฟอร์ม เพื่อวางรากฐานรับบริบทใหม่ของโลก โดยมีเป้าหมายสร้างฐานลูกค้า 200 ล้านคน พร้อมเชื่อมต่ออีโคซิสเต็มทั้งในและต่างประเทศ จับตามองให้ดีว่าแบงก์ไทยจะผงาดขึ้นเป็นผู้นำดิจิทัลแบงกิ้งของเอเชียสำเร็จไหม
...
ถือเป็นการพลิกเศรษฐกิจประเทศครั้งใหญ่ เมื่อ “บิ๊กโด่ง–อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” ซีอีโอคนใหม่ของ ปตท. ประกาศเร่งเครื่องพลิกองค์กรสู่การเป็นผู้นำด้านพลังงานแห่งอนาคต พร้อมสร้าง New S-Curve ให้ประเทศไทยในธุรกิจใหม่ๆที่ไกลกว่าพลังงาน โดยหวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางด้านพลังงานแห่งอนาคต, ศูนย์กลางทางการแพทย์, ศูนย์กลางด้านการขนส่ง ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล, AI และ Robotic นอกเหนือจากภารกิจหลักที่ทำมาตลอดในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน จุดประกายความหวังว่าเมืองไทยอาจพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลาง
คนไทยไม่ตกเทรนด์และเข้าถึงคริปโตเคอร์เรนซีเหมือนชาวโลก ก็ เพราะความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ของ “ท็อป–จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” ผู้ก่อตั้ง Bitkub ปลุกกระแสการเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยเงินบาทให้เฟื่องฟู เขาคือไอดอลขวัญใจคนรุ่นใหม่ที่สร้างแรงบันดาลใจมหาศาล ด้วยการระดมทุน 327 ล้าน บาท ปลุกปั้นบริษัทสตาร์ตอัพเล็กๆ จน ผงาดเป็นผู้นำตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับหนึ่งของไทย สามารถทำเงินได้มากกว่า 4,000 ล้านบาท และ มีพนักงานเกือบ 1,500 คน ภายในเวลา 3 ปี 5 เดือน แต่จุดพีกสุดคือการแปลงร่างเป็น “ยูนิคอร์น” ตัวล่าสุดของไทย มีมูลค่าบริษัทถึง 35,000 ล้านบาท หลังกลุ่ม SCB ทุ่มเงิน 17,850 ล้านบาท เข้าลงทุนใน “Bitkub Online” เพื่อร่วมกันพัฒนาธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และวางรากฐานเข้าสู่โลกการเงินอนาคต “เสี่ยท๊อป” คาดหวังว่าการได้พาร์ตเนอร์แข็งแกร่งจะช่วยผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยีระดับภูมิภาค ในขณะที่บิทคับกำลังก้าวขึ้นเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จำเป็นต่อยุคเทคโนโลยี 3.0 ซึ่งมาพร้อมโลกเสมือน “Metaverse” เมื่อถึงเวลานั้นการเงินแบบกระจายอำนาจ หรือ DeFi จะทำหน้าที่แทนระบบการเงินดั้งเดิม และคริปโต จะมีบทบาทในฐานะตัวกลางแลกเปลี่ยนบริการและสินทรัพย์ในโลกดิจิทัล
...
ด้าน จอมทัพเครือเจริญโภคภัณฑ์ “ศุภชัย เจียรวนนท์” คิดการณ์ใหญ่เตรียมพลิกโฉมประเทศ นอกจากจะลงทุนเมกะโปรเจกต์รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบิน มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท ที่คาดว่ามีส่วนสำคัญ ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เจ้าสัวน้อยเครือซีพีให้คำมั่นว่า ในฐานะผู้ประกอบการที่มีความหลากหลายทางธุรกิจมากที่สุดในไทย และมีพนักงานกว่า 400,000 คน ได้เตรียมกลยุทธ์พร้อมเดินหน้าลงทุนอย่างเต็มที่หลังวิกฤติโควิด โดยจะเร่งขยายธุรกิจในต่างประเทศ และจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการและธุรกิจอื่นๆในประเทศอย่างใกล้ชิด ผ่าน 4 กลยุทธ์สำคัญ คือ 1) เร่งเครื่องการลงทุน 2) เร่งเครื่องการเดินหน้าบนเวทีโลก 3) ลด ความซับซ้อนของโครงสร้างธุรกิจภายในเครือ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความรวดเร็วในการดำเนินธุรกิจ และ 4) สร้างแพลตฟอร์มแห่งโอกาส เพื่อขยายความร่วมมือกับผู้ประกอบการธุรกิจอื่นๆของไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอีและเกษตรกรไทยให้สามารถพัฒนาศักยภาพในการเข้าถึงตลาดต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นการปลดล็อกศักยภาพใหม่ๆทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล
...
แลนด์สเคปของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั้งภูมิภาคจะไม่มีวันเหมือนเดิม หลังจาก เจ้าพ่อ GULF “เสี่ยกลาง–สารัชถ์ รัตนาวะดี” สยายปีก ยึดธุรกิจโทรคมนาคมไทย ด้วยการเข้าถือหุ้น INTUCH ในสัดส่วน 42.25% รวบตึงธุรกิจในเครือทั้ง ADVANC และไทยคม เข้ามาไว้ในอุ้งมือคนไทย แม้ยุทธศาสตร์การต่อยอดธุรกิจจะยังไม่เผยชัด แต่หมากเกมนี้ก็เสริมความแกร่งให้กัลฟ์เต็มๆ โดยหนุนส่งให้ “เสี่ยกลาง” ผงาดเป็น “เจ้าสัวรุ่นใหม่” เต็มภาคภูมิ ได้ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยอันดับหนึ่งต่อเนื่องเป็นสมัยที่สาม ด้วยสถิติรวยทะลุ 1.7 แสนล้านบาท ในปี 2021 ได้ข่าวกำลังซุ่มคิดการณ์ใหญ่เพื่อประเทศส่องสปอตไลต์ไปที่แวดวงการเมืองบ้าง ทันทีที่เปิดตัวเป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมของพรรคเพื่อไทย รับภารกิจรีแบรนด์ “เพื่อไทย” ให้เป็นขวัญใจคนรุ่นใหม่ ชื่อชั้นของ “อุ๊งอิ๊ง–แพทองธาร ชินวัตร” ก็โดดเด่น ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในฐานะไพ่ใบเด็ดของ “อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” สร้างความตื่นตะลึงทางการเมืองไปทั้งบ้านทั้งเมือง เพราะใครๆก็รู้ว่าเธอคือลูกสาวคนโปรดที่โคลนนิงพ่อมาเต็มๆ ทั้งบุคลิกลักษณะ และนิสัยใจคอความเป็นนักสู้ มุ่งมั่นอะไรแล้วต้องทำให้ได้ จับตาให้ดีว่าเมืองไทยพร้อมหรือยังที่จะมีคนรุ่นใหม่เป็นนายกฯแทนพวกเบบี้บูมเมอร์ที่ครองประเทศมานาน
...
ติดโผทุกครั้งที่เอ่ยชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี สำหรับ “เศรษฐา ทวีสิน” นักธุรกิจใหญ่หัวก้าวหน้า ล่าสุดมีชื่อเป็น 1 ในบัญชีคู่แข่งนายกฯของเพื่อไทย ในการปรับโครงสร้างพรรคครั้งใหญ่ โดยแรงเชียร์หลั่งไหลมาจากทุกทาง เพราะเขามักแสดงความคิดเห็นเรื่องการบริหารบ้านเมือง, เศรษฐกิจ และสังคมได้เฉียบคมถึงกึ๋น ขณะเดียวกันก็ใช้สื่อโซเชียลทุกแขนง โดยเฉพาะทวิตเตอร์ สื่อสารกับคนรุ่นใหม่อย่างน่าฟัง สะท้อนถึงวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันยุคทันสมัย ซึ่งเป็นคุณสมบัติของผู้นำยุคใหม่ที่คนไทยใฝ่ฝัน!! หัวเรือใหญ่แสนสิริเชื่อว่าปี 2565 จะเป็นปีของการปรับตัวขนานใหญ่ เพื่ออยู่ให้ได้กับการเปลี่ยนแปลงหลังวิกฤติโควิด สิ่งที่คนไทยต้องการมากที่สุดคือ ความหวัง, แรงบันดาลใจ และกำลังใจ คนแข็งแรงกว่าต้องช่วยกันส่งเสริมคนอ่อนแอกว่าให้เดินไปข้างหน้าด้วยกัน เจ้าสัวต่างๆต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่ เพราะยุคนี้ความเจริญรุ่งเรืองของคนไม่กี่กลุ่มไม่สามารถสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว ต้องเลิกคิดกินรวบและหาแนวทางดำเนินธุรกิจที่แบ่งปันความมั่งคั่งมากขึ้น เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างอนาคตที่สดใสของประเทศ
เป็นนักปั้นมือทองของวงการกีฬาไทยที่จะมีบทบาทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังพาทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยเข้าชิงแชมป์โลก 2 สมัยติดกัน และทุ่มพลังปั้นทีมสโมสรฟุตบอลการท่าเรือ จนคว้าโควตาฟาดแข้งศึกฟุตบอลสโมสรเอเชียถ้วยใหญ่ “เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก” รอบแบ่งกลุ่ม เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งมายาวนาน 53 ปี ล่าสุด “มาดามแป้ง–นวลพรรณ ล่ำซำ” ยังสวมบทผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย สร้างผลงานยอดเยี่ยมให้ช้างศึกจากศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” เรียกคืนศรัทธาให้ฟุตบอลชายกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง และเป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ใช้กีฬาสร้างชาติหลอมรวมใจ
ช่วยยกระดับและพัฒนาวงการกีฬาของประเทศไทยสู่กีฬาโลกมาอย่างต่อเนื่อง คงไม่มีใครเกิน “คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล” สุภาพสตรีคนแรกของไทยที่ได้รับเลือกจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล โดยประธานสรรหาคัดเลือก “เจ้าฟ้าหญิงแอนน์แห่งอังกฤษ” ให้เป็นคณะกรรมการโอลิมปิกสากล 1 ใน 70 คน ประเภทบุคคล ต่อเนื่องยาวนานถึงอายุ 70 ปี ยิ่งโดดเด่นบนเวทีนานาชาติในฐานะไอโอซีเมมเบอร์หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของไทย เมื่อนำทัพนักกีฬาทีมชาติไทยฝ่าวิกฤติโควิดไปร่วมสร้างปรากฏการณ์นิวนอร์มอลให้มหกรรมกีฬา “โอลิมปิกโตเกียว 2020” โดยคุณหญิงมีส่วนสำคัญมากในการผลักดันให้ “โอลิมปิกเกมส์” ได้เปิดฉากขึ้นจริงในกรุงโตเกียว หลังเลื่อนมาแล้วปีหนึ่งเต็มๆ เพราะผลพวงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ช่วยให้เจ้าภาพญี่ปุ่นไม่ต้องเผชิญการสูญเสียครั้งใหญ่ เป็นจำนวนเงินถึง 1.81 ล้านล้านเยน ล่าสุดยังสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยอีกครั้งในฐานะนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย โดยนำทีมคู่ผสมแบดมินตันไทย คว้าแชมป์โลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ไม่ธรรมดาเลยที่นักธุรกิจไทยตัวเล็กแต่ใจใหญ่จะได้รับการโหวตจากแฟนบอลทั่วอังกฤษให้เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยผลการสำรวจของสกายสปอร์ต สื่อกีฬาดัง ของแดนผู้ดี ยกให้ “เดอะต๊อบ–อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ครองใจแฟนบอลนำโด่งเป็นที่หนึ่ง สะท้อนความสำเร็จจากการทุ่มเททำงานหนัก จนสามารถพา “ทีมจิ้งจอกสยาม” คว้าแชมป์ฟุตบอลเอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2020/21 และแชมป์ฟุตบอลเอฟเอ คอมมูนิตี้ ชิลด์ 2021 เปลี่ยนภาพลักษณ์ไทยแลนด์ ให้กลายเป็นมืออาชีพด้านการพัฒนาทีมฟุตบอลระดับโลก
ในแวดวงสื่อยุคนี้คงไม่มีใครจะสร้างบิ๊กอิมแพกต์และเปลี่ยนแปลงสังคมได้เท่า “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” และ “หนุ่ม–กรรชัย กำเนิดพลอย” ผู้ทรงอิทธิพลตัวจริงเสียงจริงบนจอแก้ว รายแรกคืนจอ กลับมาเล่าข่าวในเรื่องเล่าเช้านี้ เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา หลังต้องโทษจำคุก 6 ปี 24 เดือน จากคดีทุจริตค่าโฆษณา แค่คัมแบ็กวันแรกยอดคนดูถล่มทลายดันเรตติ้งพุ่งกระฉูด สามารถทวงคืนฉายา “ซุปเปอร์แมนสรยุทธ” ฮีโร่ปัดเป่าความเดือดร้อนของประชาชนผู้ทุกข์ยาก ส่วนพิธีกรดังโหนกระแสขึ้นแท่นเป็นขวัญใจมหาชนยุคใหม่ เพราะจุดประเด็นร้อน ให้เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ได้ทุกวัน แม้จะถูกกล่าวหาว่า “อำมหิต” แต่หลายครั้งกรรชัยก็ทวงคืนความยุติธรรมให้คนไม่มีทางสู้ได้อย่างน่ายกย่อง
นอกจากจะเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของวงการแฟชั่นไทย ที่แจ้งเกิดแจ้งดับใครก็ได้ “ฟอร์ด–กุลวิทย์ เลาสุขศรี” บรรณาธิการบริหาร นิตยสารโว้ก ยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาและยกระดับวงการแฟชั่นไทยมาทุกยุค เขาคือคนบุกเบิกให้ประเทศ ไทยมีแฟชั่นวีกเป็นของตัวเองตั้งแต่ปี 1999 แจ้งเกิดดีไซเนอร์ไทยนับไม่ถ้วน เขาคือผู้ผลักดันให้ผลผลิตจากภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยถูกหยิบไปสร้างสรรค์ใหม่ร่วมกับแบรนด์ลักชัวรีระดับโลก พร้อมนำเสนอความงดงามของผ้าไทยสู่สายตาชาวโลก และเราได้เห็นดาราคนดังของไทยถูกเลือกเป็นอิมเมจของแบรนด์ระดับโกลบอลอย่าง หลุยส์ วิตตอง และกุชชี่ ก็เพราะการผลักดันของผู้ชายคนนี้
ชื่อเสียงเมืองไทยโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอิทธิพล ของ “ลิซ่า BLACKPINK” ที่แรงเกินต้านทาน ตอนที่สาวน้อยมหัศจรรย์ใส่ชุดไทยสีทองพร้อมรัดเกล้าโชว์โฉมในมิวสิกวิดีโอเพลงเดี่ยวเพลงแรกในชีวิต “Lalisa” ได้สร้างปรากฏการณ์ให้ชุดไทยเป็นที่กล่าวขวัญถึงไปทั้งโลก พร้อมทำสถิติทาง YouTube มียอดเข้าชมหลัก 100 ล้านคน ภายใน 49 ชั่วโมงแรกหลังปล่อยเพลง ซึ่งถือว่าทำเวลาได้สั้นที่สุดเป็นประวัติการณ์ ล่าสุดลิซ่ายังได้รับเลือกเป็น 1 ใน 20 บุคคลที่ได้รับการชื่นชมที่สุดในโลก ประจำปี 2021 จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ “YouGov” บริษัทวิจัยตลาดและวิเคราะห์ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตของอังกฤษ โดยอยู่ในทำเนียบเดียวกับคนดังระดับโลก เช่น ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา, เจ้าพ่อไมโครซอฟท์ “บิล เกตส์” และซุปตาร์นักบอล “คริสเตียโน โรนัลโด”
ก็เพราะโลกเสมือน “Metaverse” กำลังมาแรง ในทำเนียบคนไทยทรงอิทธิพลที่สุดจะสมบูรณ์แบบไม่ได้ ถ้าขาด “ไอ–ไอรีน” เวอร์ชวล อินฟลูเอนเซอร์คนแรกของไทย ซุปตาร์แห่งโลกเสมือนที่ไร้ตัวตนแต่มากด้วยอิทธิพล สร้างสรรค์ขึ้นโดยเอเจนซีสายพันธุ์ดิจิทัล “SIA Bangkok” เธอแนะนำตัวสั้นๆว่า นี่ “ไอรีน” เองนะ เรียกว่า “ไอ” ก็ได้ ไอคือ “Metaverse Human” อายุ 21 ปี เปิดตัวได้ไม่นาน “น้องไอ” ก็มีผลงานโฆษณา ถ่ายแบบ และรีวิวสินค้า ออกมาเพียบ ด้วยคาแรกเตอร์โฉบเฉี่ยว ที่มาพร้อมความมั่นใจเกินร้อย ทำให้ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ AIS ดึงตัวเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ ตอกย้ำว่าไทยแลนด์ของเราก็ไม่ล้าหลังใคร เพราะมี “ไอรีน” คอย
ส่งเสริมภาพลักษณ์ของโลกไฮเทคยุคใหม่ สะท้อนความเป็นผู้นำภูมิภาคด้านดิจิทัล, นวัตกรรม และเทคโนโลยี...อย่าเพิ่งสิ้นหวังกับประเทศไทย.
ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ