"Cruella" (ครูเอลล่า) จากเด็กสาวเปี่ยมพรสวรรค์ สู่เจ้าแม่แฟชั่นจอมขบถ

Cruella (ครูเอลล่า) ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่นจากดิสนีย์ ปล่อยให้ชมผ่านสตรีมมิง Disney+Hotstar กำลังอยู่ในความสนใจของบรรดาคอหนัง หลังจากที่การ์ตูนสุดคลาสสิกถูกนำมารีเมกใหม่ในฉบับคนเล่นจริง โดยมี "เอ็มม่า สโตน" นักแสดงหญิงดีกรีออสการ์ รับบทนักแสดงนำ สวมบทบาทเจ้าแม่แฟชั่นจอมบ้าคลั่ง แต่แฟนๆ พร้อมเผยประวัติชีวิตก่อนจะมาเป็นวายร้าย ที่แฟนๆ หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน

ทำความรู้จัก "Cruella" คือใคร ตัวละครมีที่มาอย่างไร?

Cruella คือ ชื่อของตัวละคร ครูเอลล่า เดอ วิล (Cruella de Vil) หรือที่เรียกกันว่า "ครูเอลล่า" วายร้ายผมสองสี หญิงสาวไฮโซสุดแสบ ผู้ชื่นชอบแฟชั่นขนสัตว์ และต้องการนำขนสุนัขมาตัดเย็บเป็นแฟชั่นเครื่องแต่งกาย เธอจึงกลายเป็นตัวร้ายในโลกการ์ตูน "101 Dalmatians" ซึ่งดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง The Hundred and One Dalmatians ของ Dodie Smith นักเขียนชาวอังกฤษ ที่ตีพิมพ์ในปี 1956

ในแอนิเมชันเรื่อง 101 Dalmatians ที่หลายคนคุ้นเคย ตัวละคร "ครูเอลล่า" เป็นหญิงวัยกลางคน ฐานะร่ำรวย ทำผมโทนสีขาว-ดำ ที่เต็มไปด้วยความร้ายกาจและความเห็นแก่ตัว หลังเธอทราบข่าวว่าสุนัขพันธุ์ดัลเมเชี่ยน ที่เพื่อนสนิทเธอเลี้ยงไว้ ได้ให้กำเนิดลูกสุนัขลายจุดจำนวน 15 ตัว ครูเอลล่าก็เข้ามาขอซื้อ เพราะต้องการนำไปทำเสื้อผ้าขนสัตว์แบบที่เธอชื่นชอบ แต่กลับถูกปฏิเสธ จึงนำไปสู่เรื่องราวสุดป่วนกับภารกิจตามขโมยสุนัขลายจุด

ประวัติครูเอลล่า เจ้าแม่แฟชั่น วายร้ายจอมขบถแห่งดิสนีย์

สำหรับเรื่องย่อ Cruella (2021) ที่นำการ์ตูนสุดฮิตในอดีตมาปัดฝุ่นเล่าใหม่ เป็นการเล่าย้อนประวัติของตัวละครครูเอลล่า โดยเฉพาะชีวิตในวัยเด็กที่สร้างคาแรกเตอร์และปมภายในใจ ก่อนที่เธอจะเติบโตมาเป็นวายร้ายอย่างในปัจจุบัน

เดิมทีเธอมีชื่อว่า "เอสเตลล่า" เด็กสาวที่โดดเด่นด้วยโทนผม 2 สี เธอถูกสั่งสอนให้อยู่ในกรอบ ทำตัวเข้ากับสังคมแวดล้อม แต่ลึกๆ แล้ว เอสเตลล่าเต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ เธอมีความใฝ่ฝันอยากทำงานด้านแฟชั่น และฉายแววความเป็นดีไซเนอร์มาตั้งแต่วัยเด็ก

จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่เอสเตลล่าต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า เธอใช้ชีวิตเป็นขโมยร่วมกับเพื่อนรักอย่าง "แจสเปอร์" และ "ฮอร์ริส" ต่อมาเอสเตลล่าตัดสินใจทำตามความฝันของตัวเองด้วยการเข้าไปทำงานในบริษัทแฟชั่นชั้นนำในกรุงลอนดอน

วันหนึ่ง ผลงานด้านแฟชั่นของเอสเตลล่าดันไปสะดุดตา "บารอนเนส วอน เฮลล์แมน" เจ้าแม่แฟชั่นผู้ทรงอิทธิพล ซึ่งได้ชักชวนเธอไปทำงานด้วยกัน แต่เอสเตลล่าได้พบความจริงบางอย่างที่เป็นจุดพลิกผันให้เธอเริ่มปฏิบัติการล้างแค้น ทิ้งตัวตนเดิมของตัวเอง แล้วเปิดหน้าสู่สาธารณะในชื่อ "ครูเอลล่า เดอ วิล" ดีไซเนอร์ผู้กล้าฉีกกฎเดิมๆ สร้างแฟชั่นขบถท้าทายเจ้าแม่อิทธิพล สร้างความไม่พอใจแก่บารอนเนส นำไปสู่เรื่องราวสนุกสนานในภาพยนตร์เรื่อง Cruella นั่นเอง

รีวิว Cruella เบื้องหลังความร้ายคือ "แพชชั่นด้านแฟชั่น"

ภาพยนตร์เรื่อง Cruella กำกับการแสดงโดย Craig Gillespie เล่าเรื่องราวชีวิตวัยเด็กของ "เอสเตลล่า" เด็กหญิงกำพร้าที่ใช้ชีวิตด้วยการลักขโมย แต่ลึกๆ แล้วเธอมีความฝันอยากเป็นนักออกแบบแฟชั่น ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นอาชญากรนาม "ครูเอลล่า" นั่นเอง

ครูเอลล่าเติบโตในกรุงลอนดอน ราวทศวรรษที่ 70 ท่ามกลางบรรยากาศที่กระแสพังก์ร็อกกำลังได้รับความนิยม พร้อมๆ กับการเบ่งบานของแฟชั่นนอกกรอบ ชีวิตปูมหลัง คาแรกเตอร์ และพรสวรรค์ที่เธอมี ค่อยๆ สร้างแฟชั่นที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังสามารถสะท้อนตัวตนของเธอเองด้วย

โดยหลังจากที่ครูเอลล่าต้องการล้มเจ้าแม่แฟชั่นอย่าง "บารอนเนส" ซึ่งเป็นตัวแทนของสังคมชั้นสูง เปรียบเสมือนอำนาจเก่าที่มีอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นมาอย่างยาวนาน ครูเอลล่าเลือกสวมชุดเดรสสีแดงที่บารอนเนสเคยออกแบบ เพื่อมาปรากฏตัวต่อสาธารณะ แต่เธอได้ดัดแปลงเพิ่มลูกเล่นด้วยการเพิ่มเปลวเพลิงเข้าไป นับเป็นครั้งแรกที่ทำให้บรรดาสื่อหันมาจับตามองหญิงสาวปริศนาคนนี้

นอกจากนี้ เธอยังสร้างความฮือฮาด้วยชุดแฟชั่นที่ไม่ซ้ำใคร แฝงนัยการเสียดสีสังคม ไม่ว่าจะเป็นชุดเดรสแฟชั่นที่ประยุกต์มาจากแจ็กเก็ตทหารกระโปรงแดง ขึ้นไปยืนท้าทายบนหลังคารถหรู หรือการนำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่มีข่าวของตัวเอง มาตัดเย็บให้เป็นชุดราตรีรีไซเคิล โผล่มาพร้อมรถขนขยะ รวมถึงชุดหนังสีดำดูลึกลับ ที่มาพร้อมกับการเขียนข้อความ "The Future" (อนาคต) บนใบหน้า สื่อถึงความขบถที่ต้องการท้าทายขนบเดิมๆ ไม่ต่างจากดนตรีพังก์ที่รุ่งเรืองในยุคนั้น

สิ่งที่ช่วยเสริมความเข้มข้นให้ Cruella ได้อย่างลงตัวก็คือ ดนตรีประกอบของ Nicholas Britell ผู้อยู่เบื้องหลังสกอร์ภาพยนตร์ระดับรางวัลมากมาย อีกทั้งการเลือกเพลงดังในยุค 70s และ 80s มาใช้ประกอบ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ภาพยนตร์มีสีสันมากขึ้น เช่น 

• เพลง Come Together - Ike & Tina Turner
• เพลง Should I Stay or Should I Go - The Clash
• เพลง Stone Cold Crazy - Queen
• เพลง Five to One - The Doors
• เพลง Whisper, Whisper - Bee Gees
• เพลง She's A Rainbow - The Rolling Stones

สรุปได้ว่า Cruella (ครูเอลล่า) ถือเป็นภาพยนตร์ที่เล่าจุดกำเนิดวายร้ายได้ค่อนข้างมีมิติ ไม่ได้นำเสนอแค่ความร้ายกาจของครูเอลล่า แต่สะท้อนให้เห็นพัฒนาการของตัวละคร ปูมหลัง ความอ่อนแอ ความสูญเสีย ความเข้มแข็ง รวมถึงมิตรภาพของเพื่อนๆ ที่เป็นพลังสำคัญให้ตัวร้ายอย่างครูเอลล่าหยัดยืนในสังคมได้