หนังสั้นเรื่อง Save Ralph กลายเป็นชื่อที่เป็นกระแสไวรัลเพียงชั่วข้ามคืน เมื่อโลกออนไลน์ต่างพากันพูดถึงผ่านแฮชแท็ก #SaveRalph จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ นำไปสู่แคมเปญระดับโลกที่รณรงค์ให้เลิกใช้เครื่องสำอางที่ทดลองกับสัตว์

"Save Ralph" เมื่อกระต่ายกลายเป็นสัตว์ทดลองก่อนผลิตเครื่องสำอาง

Save Ralph คือ หนังสั้นในรูปแบบแอนิเมชัน มีความยาว 3.54 นาที เล่าเรื่องราวของของ "ราล์ฟ" (Ralph) กระต่ายเพศผู้ที่ทำงานอยู่ในโรงงานทดลองสัตว์ โดยทำหน้าที่เป็นกระต่ายทดลองส่วนผสมต่างๆ ก่อนที่จะนำมาใช้ผลิตเป็นเครื่องสำอางเสริมความงามให้มนุษย์ 

หนังสั้นดำเนินเรื่องในลักษณะที่ให้กระต่ายราล์ฟมานั่งเล่าชีวิตของเขา ซึ่งตอนนี้ตาบอดข้างหนึ่ง มีปัญหาด้านการได้ยิน ผิวหนังอักเสบ เนื่องจากได้รับสารเคมีจากการทดลอง ทำให้มีร่องรอยบาดแผล และได้รับผลกระทบอย่างมากในการดำเนินชีวิตประจำวัน

บทยังมีความตลกร้าย เมื่อราล์ฟบอกผู้ชมว่า การได้ทำอะไรสักอย่างเพื่อมนุษย์ที่เป็นสัตว์ชั้นสูงกว่า ก็ถือเป็นหน้าที่ที่กระต่ายอย่างเขาสมควรทำ นอกจากนี้ ยังบอกอีกว่าครอบครัวและเพื่อนๆ ของเขาอีกจำนวนมากก็เสียชีวิตจากการเป็นสัตว์ทดลอง 

...

แม้ว่า Save Ralph จะเล่าเรื่องราวของกระต่ายทดลองเพียงสั้นๆ แต่ก็สามารถสะท้อนความโหดร้ายและเบื้องหลังการทารุณกรรมสัตว์ของอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงามได้อย่างบีบหัวใจมากๆ โดยในความเป็นจริงกระต่ายเหล่านี้จะถูกทดลองจนเสียชีวิต ร่างกายพิการ และอาจถูกนำไปฆ่าทิ้ง หรือใช้เป็นอาหารของสัตว์อื่นๆ 

ผู้กำกับ-นักแสดงฮอลลีวูด ร่วมรณรงค์ในแคมเปญ Save Ralph 

หนังสั้น "Save Ralph" เป็นแคมเปญของ The Humane Society of the United States หรือสมาคมมนุษยธรรมแห่งสหรัฐอเมริกา ที่ร่วมต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์ และเป็นผลงานกำกับของ Spencer Susser ผู้กำกับจากภาพยนตร์เรื่อง Hesher (2010) และ The Greatest Showman (2017) 

สำหรับการรับหน้าที่สร้างสรรค์แคมเปญในครั้งนี้ เขาเผยว่า "มันสำคัญมากๆ ที่จะสื่อในสิ่งที่กระต่ายราล์ฟรู้สึกจริงๆ เพราะเขาเป็นตัวแทนของสัตว์จำนวนนับไม่ถ้วน ที่ต้องเจ็บปวดและทรมานจากการถูกทดลอง"

นอกจากนี้ Taika Waititi นักแสดงจากภาพยนตร์ดีกรีออสการ์เรื่อง Jojo Rabbit (2019) ยังมารับหน้าที่ให้เสียงพากย์เป็น "ราล์ฟ" โดยมีนักแสดงอีกหลายคนที่มีส่วนร่วมในครั้งนี้ เช่น Zac Efron, Olivia Munn, Pom Klementieff และ Tricia Helfer 

กระแสโลกออนไลน์ #SaveRalph "ไม่ควรมีสัตว์ตัวไหนต้องทรมาน และตายในนามของความงาม" 

จริงๆ แล้ว หนังสั้น Save Ralph เผยแพร่เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา และได้กลายเป็นประเด็นไวรัลในต่างประเทศไปแล้ว จนเกิดกระแส "Save Ralph Rabbit" หรือช่วยกระต่ายราล์ฟ ผู้เป็นตัวแทนของสัตว์ทดลอง ให้รอดพ้นจากการถูกทารุณกรรม

สำหรับในประเทศไทย หลังจากมีผู้นำคลิปหนังสั้นดังกล่าว มาแปลซับไตเติลเป็นภาษาไทย ก็ได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้น นำไปสู่กระแสรณรงค์แบนเครื่องสําอางที่ทดลองกับกระต่าย ผ่านแฮชแท็ก #SaveRalph รวมทั้งมีผู้รวบรวมรายชื่อเครื่องสําอางที่ใช้กระต่ายทดลอง และเครื่องสําอางที่ไม่ใช้กระต่ายทดลอง เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับกลุ่มผู้บริโภค

...

แน่นอนว่าหลังจากหนังสั้น Save Ralph เผยแพร่ออกไป จนกลายเป็นคลิปวิดีโอไวรัล ทำให้หลายคนตระหนักถึงประเด็นนี้มากขึ้น เพราะไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทอายไลเนอร์ แชมพู ครีมกันแดด และผลิตภัณฑ์แทบทั้งหมดที่วางอยู่ในห้องน้ำ หลายแบรนด์ๆ ได้ทำการทดลองกับสัตว์ โดยเฉพาะกระต่ายและหนู เนื่องจากเป็นสัตว์ที่มีผิวหนังใกล้เคียงมนุษย์มากที่สุด นอกจากนี้ ยังพบว่าหลายเมืองทั่วโลกได้อนุญาตให้มีการทำการทดลองกับสัตว์อีกด้วย

สำหรับตัวอย่างการแสดงความคิดเห็นของผู้ที่ได้รับชมหนังสั้น Save Ralph ผ่าน YouTube มีดังนี้

  • "สิ่งที่เศร้าที่สุดคือ ประเด็นที่ผู้คนกำลังพูดถึงอยู่ในตอนนี้ กำลังจะถูกลืมภายใน 1 สัปดาห์ข้างหน้า"
  • "สุดท้ายคนก็จะลืมเรื่องนี้ไปภายในไม่กี่สัปดาห์ แต่เรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นจริงๆ ยังคงอยู่ ทุกคนต้องช่วยกันเปลี่ยนแปลง"
  • "ฉันไม่ชอบการมองโลกแง่บวกของกระต่ายราล์ฟเลย มันทำให้หัวใจของฉันแตกสลาย ชีวิตของสัตว์ทดลองที่อยู่แต่ภายในโรงงาน ไม่มีทางได้ออกไปสัมผัสชีวิตที่แท้จริงข้างนอกนั้นได้เลย"
  • "ตอนที่ราล์ฟพูดว่า 'แต่มันก็โอเคแหละที่เราได้ทำสิ่งนี้เพื่อมนุษย์ เพราะมันเป็นงานของผม' ฉันก็เริ่มร้องไห้ตั้งแต่ตอนนั้น"

...

หนังสั้นเรื่อง Save Ralp หาดูได้ที่ไหน?

สามารถรับชม Save Ralp แบบเต็มเรื่อง ผ่านแชนแนล YouTube ของ The Humane Society of the United States ซึ่งในขณะที่ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ มากมาย รวมถึงมีแบบพากย์ไทยด้วย

ในต่างประเทศได้มีการประทับตราสัญลักษณ์ Cruelty Free และ Not Tested On Animals บนผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เพื่อรับรองว่าไม่ได้มีการทดลอง หรือทารุณกรรมสัตว์ก่อนถึงมือผู้บริโภค

สุดท้ายนี้ แคมเปญ Save Ralph ได้สื่อสารไปยังอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และกลุ่มผู้บริโภคทั่วโลกว่า "ไม่ควรมีสัตว์ตัวไหนต้องทรมาน และตายในนามของความงาม"

ที่มา : www.hsi.org/saveralphmovie