หลายคนอาจเห็นเป่าเป้ในมุมมองที่แตกต่างกันออกไป จากที่เห็นภาพลักษณ์ภายนอกของเธอว่าเป็นคนอ่อนโยน นุ่มนิ่ม และไม่สู้คน แต่ความจริงภายในจิตใจของเธอกลับแข็งแกร่งมากกว่านั้น และมีอะไรที่ลึกซึ้งซ่อนอยู่ ซึ่งตัวเธอเองได้ให้คำนิยามถึงตัวเอง เพื่อบอกเล่าความเป็นตัวเองคือ "อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ" และเมื่อเราได้พูดคุยสัมภาษณ์กับเธอ ทำให้รู้ว่าคำนิยามที่เธอได้ให้ไว้นั้นคือเรื่องจริง อะไรที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ จนสามารถคว้าแชมป์ MasterChef All Stars Thailand มาได้ เรามาติดตามกันได้เลยค่ะ
หลังจากจบการแข่งขันทำอาหารไป ตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้าง?
ตอนนี้มีธุรกิจส่วนตัวนะคะ ก็จะมีขนมเค้กเด้งดึ๋งสูตรโบราณจากไต้หวัน ชื่อ babekary แล้วก็มีแบรนด์เสื้อผ้าที่ได้ออกแบบเอง จัดการทุกอย่างเอง เริ่มต้นขึ้นมาด้วยตัวเอง ชื่อแบรนด์ Ourhour Boutique ค่ะ
นิยามของผู้หญิงที่ชื่อ เป่าเป้
คำนิยามของผู้หญิงที่ชื่อเป่าเป้ "เป็นผู้หญิงที่อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอค่ะ" เหตุผลที่ให้คำนิยามนี้กับตัวเอง เป็นเพราะว่าหลายๆ คนชอบคิดว่าเราเป็นผู้หญิงที่หวานๆ ฟีลแบบซอฟต์ๆ น่าจะอดทนอะไรไม่ค่อยได้ แต่ความจริงแล้วเราเป็นคนที่อึด และสามารถที่จะอดทนอะไรในหลายๆ อย่างได้ ก็เลยคิดว่าเป็นคำที่สามารถให้คนอื่นรู้จักเราได้ และไม่ตัดสินเราจาก First Impression อย่างเดียวค่ะ
...
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต
รายการแข่งทำอาหาร ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนในชีวิตที่สำคัญ เพราะมันทำให้เราได้แสดงศักยภาพของตัวเองออกมา เพราะว่าบททดสอบต่างๆ ในรายการแข่งขันทำอาหาร มันค่อนข้างยาก โหด และลำบากมาก ไม่ใช่แค่การทำอาหารอย่างเดียว แต่จะต้องมีสติ และยังต้องอดทนต่ออากาศร้อน ทำให้สิ่งที่เจอมากลายเป็นประสบการณ์ที่ดีต่อธุรกิจในวันนี้ ทำให้ได้รู้ว่าทุกครั้งที่เราเริ่มทำอะไรใหม่ๆ มันต้องมีอุปสรรค การที่เริ่มต้นจากศูนย์ด้วยตัวเอง มันค่อยข้างยาก และต้องผ่านการเรียนรู้หลากหลายขั้นตอน ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ต้องเผชิญเลยคือ เราต้องเป็นคนที่เข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจค่ะ
จุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ
จุดเริ่มต้นในการทำขนมเค้กเด้งดึ๋งสูตรโบราณจากไต้หวัน เกิดจากความคิดที่อยากได้เมนูที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา เนื่องจากตัวเราเป็นลูกครึ่งไต้หวัน ก็เลยนึกถึงเมนูขนมเค้กไต้หวัน และอยากให้คนที่ดูรายการมาสเตอร์เชฟได้ชิมฝีมือของเราด้วย อีกอย่างคืออยากให้เป็นธุรกิจออนไลน์ ซึ่งเมนูเค้กสามารถจัดส่งได้ง่ายค่ะ
จุดที่ยากของการทำธุรกิจ
จุดที่ยากคือ การเริ่มต้นเลือกว่าเราจะทำธุรกิจอะไร เพราะถ้าเราลงมือทำหลายๆ อย่างพร้อมกันมันอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเชื่อว่าจุดเริ่มต้นเป็นสเตปแรกที่เราจะก้าวออกไป ส่วนจุดที่ยากอีกอันคือเราต้องมีความกล้าที่จะทำ โดยยอมรับว่ามันมีโอกาสที่จะเฟลได้
ความฝันวัยเด็ก
...
ตั้งแต่เด็กๆ เราจะถูกปลูกฝังด้วยความคิดที่ว่า ไม่ว่าจะทำอะไรในอนาคต ขอแค่เป็นสิ่งที่เราชอบอย่าง 100% ขอให้เป็นสิ่งที่เราทำเต็มที่ ซึ่งเราต้องรับผิดชอบกับการตัดสินใจนั้น มันจึงทำให้ตั้งแต่เด็ก เราจะคิดเอง รับผิดชอบตัวเอง ซึ่งความฝันวัยเด็กกับตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม คืออยากมีธุรกิจส่วนตัวด้านอาหาร หรือบริหารการโรงแรม
ร้านอาหารสไตล์เป่าเป้
อยากเปิดร้านอาหารที่มีหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยฟิวชั่น อาหารฝรั่ง หรือคาเฟ่ เนื่องจากเราเป็นคนที่ชอบทำอาหาร แล้วก็ชอบทำอาหารหลากหลายประเภท เลยมีความคิดว่าอยากเปิดร้านอย่างน้อย 3 ร้าน เพื่อให้คนได้ชิมฝีมือเราในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปค่ะ
Success ในความคิดเป่าเป้
คิดว่าคำว่าประสบความสำเร็จ มันยังห่างไกลจากตัวเรานิดนึง ด้วยความที่ว่าตัวเราเองมี vision ที่ค่อนข้างกว้าง เลยรู้สึกว่าการที่ได้ทำอย่างหนึ่งสำเร็จ มันไม่ได้แปลว่าเราประสบความสำเร็จ เพราะประสบความสำเร็จคือ การมองภาพรวมของทุกอย่างแล้วเราพอใจ ซึ่งความพอใจจริงๆ ก็เป็นสิ่งที่อันตรายมาก เพราะว่าถ้าพอใจเร็ว เราจะหยุดอยู่กับที่ เลยคิดว่าตอนนี้อาจแค่ประสบความสำเร็จในสเตปเล็กน้อย แต่ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จในภาพกว้างค่ะ
...
ฝากอะไรถึงคนที่มีความฝัน และอยากทำตามความฝันบ้าง
จุดเริ่มต้นย่างก้าวแรกเป็นจุดที่สำคัญ อย่ากลัวที่จะก้าวออกมา เพราะว่าถ้าเราได้ก้าวออกมาแล้ว ความคิดจะเปลี่ยนไป อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในตัวเองว่าสิ่งที่ฝันไว้มันเป็นไปได้
อ่านมาจนจบสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารับรู้ในตัวของคุณเป่าเป้ คือ การไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดๆ และทุกอย่างที่เข้ามาล้วนเป็นสิ่งที่หล่อหลอมให้เธอกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้นมา ยิ่งบวกกับแนวคิดจากทางบ้านของเธอ จึงไม่แปลกใจเลยที่ไม่ว่าใครเมื่อได้พบเจอเธอต่างก็ตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย.
...
Credits :
Photographer : สุทธิพงศ์ หงส์เจริญกุล (กอล์ฟ)
Graphic Designer : ถวิกา ไพบูลย์