ยุคนี้เป็นยุคที่ผู้คนเอาใจใส่สุขภาพกายกันมากขึ้น ทั้งเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย และการล้างพิษด้วยวิธีการต่างๆ มากมาย แต่ผู้คนสมัยนี้กลับดูเหมือนว่าจะมีความเจ็บป่วยทางกายมากยิ่งขึ้น เรามักพบว่าอายุของผู้ป่วยที่เป็นโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง และเนื้องอก จะมีอายุน้อยลงขึ้นเรื่อยๆ คนหนุ่มสาวเริ่มมีปัญหาปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง หรือ office syndrome และปวดศีรษะไมเกรนกันจนเหมือนกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว ทั้งๆ ที่คนเหล่านี้ก็ดูแลสุขภาพของตัวเองดี
จากการที่ครูเคทได้ให้คำปรึกษา จิตบำบัด และการฝึกอบรมเรื่องการจัดการความเครียดให้กับผู้คนในองค์กรจำนวนมาก ได้พบความเชื่อมโยงที่น่าสนใจคือ คนที่มีปัญหาปวดศีรษะไมเกรน มักเป็นคนที่ชอบคิดมาก คิดวนเวียน ย้ำคิดย้ำทำ และวิตกกังวลกลัวไม่ดี ไม่ถูก ฯลฯ ส่วนคนที่ปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง มักเป็นคนที่นิสัยเป็นพ่อพระแม่พระ แบกรับภาระของคนอื่นๆ ไว้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกในครอบครัวหรือคนสำคัญในชีวิต และคนที่มีอาการปวดเอวหลังร่วมด้วย มักจะเป็นคนที่แบกภาระทางการเงินของครอบครัว หรือวิตกกังวลเรื่องปัญหาการเงิน คนที่มีปัญหาปวดท้อง ท้องเสีย ท้องผูก แผลในกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน มักเป็นคนที่มีความกลัวหรือความวิตกกังวลลึกๆ อยู่ในใจสูง แต่มักไม่รู้ตัว หรือรู้ตัวดีว่ากลุ้มเรื่องอะไร แต่ดูเหมือนว่าจะหาทางออกไม่ได้ จึงจำยอมทนอยู่ในสภาวะที่เป็นทุกข์นั้น ส่วนคนที่มีปัญหาความดันโลหิต เวลาเครียดมักแน่นหน้าอก มักจะเป็นคนที่ไม่ปล่อยวางความผิดหวัง เสียใจ น้อยใจ หรือแม้แต่ความโกรธเกลียดแค้นใจ
เมื่อได้ค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อหาคำอธิบาย ก็ได้พบงานวิจัยทางการแพทย์ที่มีผู้คนให้ความสนใจสูงมากของเฟลิติและอันดา (1998) ที่พบว่าประสบการณ์เลวร้ายหรือชอกช้ำในวัยเด็ก เช่น การถูกดุด่าตำหนิ หรือถูกเปรียบเทียบ การถูกทอดทิ้ง ห่างเหินจากพ่อแม่ พ่อแม่ทะเลาะตบตีกัน พ่อแม่เสียชีวิต ไปจนถึงการถูกทุบตีทารุณกรรม ฯลฯ ล้วนส่งผลต่อปัญหาทางกายของคนเราเมื่อโตขึ้น โดยมีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน ปวดศีรษะ โรคลูปัส มะเร็ง ซึมเศร้า มากกว่าคนทั่วไปเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ส่วนเด็กที่พ่อแม่หย่าร้างมีโอกาสเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตในอนาคตเพิ่มขึ้นสองเท่า ทั้งนี้เพราะความเครียดสะสมและคาดเดาไม่ได้ในวัยเด็กส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในระดับชีวเคมีของเซลล์ในร่างกาย และแม้แต่ดีเอ็นเอของเรา และเมื่อความไม่สมดุลถึงจุดที่ล้น เซลล์ต่างๆ จึงพยายามปรับตัวและแสดงความผิดปกติไม่สมดุลนั้นออกมาทางกาย นอกจากนี้ความไม่สมดุลระดับดีเอ็นเอของคนเรานั้นสามารถส่งต่อมายังรุ่นลูกหลานได้ ดังจะเห็นได้จากหลายๆ โรคที่ส่งต่อทางพันธุกรรมได้ เช่น เบาหวาน มะเร็ง รวมทั้งโรคทางจิตบางอย่าง เช่น ซึมเศร้า ไบโพลาร์ จิตเภท ฯลฯ
...
ดังนั้นหากมนุษย์ต้องการมีชีวิตที่มีความสุขอย่างแท้จริง ต้องเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก ด้วยการได้รับการเลี้ยงดูที่สมดุลทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ และเมื่อเติบใหญ่และเกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยทางกาย ก็อย่ามองข้ามรากของปัญหาทางกายที่อาจเกิดจากปัญหาทางใจที่ถูกสะสมมาตั้งแต่วัยเด็กด้วยนะคะ
ใครมีปัญหา ลูกเรียนไม่เก่ง ไม่รู้จะทำอะไรในอนาคต ญาติพี่น้องติดกลุ่มลัทธิ ปัญหาครอบครัว ความสัมพันธ์ การทำงาน ติดโซเชียล ติดเกม ซึมเศร้า panic และ phobia มารับคำปรึกษากับครูเคทได้ที่ KruKate Counseling Center ต้องการนัดคิว โทร. 0814581165 หรือ เข้าไปฝากคำถามและแชร์ประสบการณ์ในแฟนเพจ www.facebook.com/kateinspirer และ YouTube channels: Kate Inspirer ได้นะคะ