เชื่อได้...แต่ไม่งมงาย ยุคโควิดระบาดทุกอย่าง ถูกปิดไม่เว้นร้านเสริมสวย รายได้หด ลูกค้า หาย ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ทำมาหากินลำบากแท้ จนต้องมีที่พึ่งทางใจบูชา “กุมารทอง” มาช่วยเรียกทรัพย์ ด้วยมีตำนานความเชื่อกันว่า...เลี้ยงกุมารทองเพื่อโชค เพื่อคุ้มภัย
“กุมารทอง” เป็นอีกหนึ่งความเชื่อทางไสยศาสตร์ของไทยเกี่ยวกับจิตวิญญาณ ที่มาของกุมารทองมาจากการเลี้ยงภูตผีปีศาจไว้ใช้งาน โดยกุมารทองจะเป็นวิญญาณของเด็กผู้ชาย หากเป็นวิญญาณผู้หญิงที่คนเลี้ยงไว้จะเรียกว่า “โหงพราย”
กล่าวกันว่า...กุมารทองนั้นแรกเริ่มเดิมทีมาจากวิญญาณของเด็กที่ตายในท้องแม่ หรือที่เรียกว่า ตายทั้งกลม ผู้มีวิชาอาคมจะไปนำพาวิญญาณ เด็กนั้นมาเลี้ยงไว้เป็นลูก จากหลักฐานที่พบในเอกสารโบราณระบุถึงการทำกุมารทองสรุปว่า ต้องหาศพที่ตายทั้งกลม แล้วประกอบพิธีกรรมผ่าเอาศพทารกในท้องนั้นมาย่างไฟให้แห้งสนิทก่อนรุ่งอรุณ แล้วจึงลงรักปิดทองให้ทั่ว ด้วยเหตุนี้จึงเรียกว่า ...“กุมารทอง”
ต่อมาสภาพสังคมและวัฒนธรรมพัฒนาไปมากขึ้น ทำให้ไม่สามารถสร้างกุมารทองจากศพทารกจริงๆได้ จึงได้มีการดัดแปลงกรรมวิธีการสร้างกุมารทองขึ้น โดย ใช้ดินเจ็ดป่าช้าบ้าง ไม้รัก-ซ้อนหรือไม้มะยมบ้าง ไปจนถึงโลหะ มาสร้างเป็นรูปกุมาร แล้วปลุกเสกตั้งจิต ตั้งธาตุทั้ง 4
และ...เรียกอาการสามสิบสองให้บังเกิดเป็น “จิตวิญญาณ” ของเด็กขึ้นมา
...
@ @ @ @
สิริกร ชอบคุย อาจารย์สอนแผนกเสริมสวย กศน.เมืองลพบุรี เปิดประสบการณ์ให้ฟังว่า เธอเลี้ยงกุมารทองเพราะความเชื่อส่วนตัวที่ตั้งใจเลี้ยงดูบูชาซึ่งก็ได้ศึกษารายละเอียดมาพอสมควร พบว่าเรื่องบางเรื่องที่ผ่านมาบางครั้งอธิบายไม่ได้ สิ่งที่เราไม่สมควรได้แต่กลับได้ ในยามที่เราคิดว่าแย่แต่ไม่ถึงกับตกอับ จะมีคนเข้ามาอุปถัมภ์ทั้งๆที่ไม่รู้จัก...ของที่หาย หาไม่เจอบางครั้งมาวางอยู่ตรงหน้า
“โดยส่วนตัวได้ยินว่าการเลี้ยงกุมารทองช่วยเรื่องการค้าขาย กุมารทองจะมีวิธี คือจะเข้าไปดึงตัวบ้าง ฉุดมือบ้าง กระชากบ้าง แต่เราจะไม่รู้ตัวเหมือนเดินเข้าไปธรรมดา ไปดลใจหรือไปกระซิบข้างหู ซึ่งคนที่ถูกกระซิบก็จะไม่ได้ยิน แต่จะเกิดความรู้สึก อยากไปซื้อของร้านนี้...
แต่ในความเป็นจริงแล้วขายของดีหรือไม่อยู่ที่บุญเก่าของเจ้าของ ที่สร้างทานมาพอดีกับจังหวะที่บุญส่งเป็นหลัก ซึ่งถ้าทานส่งผลช่วงนั้นจะทำอะไรก็ดีทั้งนั้น ส่วนกุมารทองเป็นเพียงส่วนส่งเสริม”
“การเลี้ยงกุมารทอง” ก็เหมือน “การเลี้ยงลูก” ต่างกันที่เลี้ยงด้วยการเซ่นไหว้ ให้กินผลไม้ กินขนม ให้กินน้ำแดง เพราะการใช้งานส่วนใหญ่ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ช่วยเหลือด้านค้าขาย เฝ้าของเฝ้าบ้านเป็นหลัก ส่วนให้ดูเรื่องหวย ดูดวงเป็นเรื่องรองลงมา
“เวลาให้เฝ้าของเฝ้าบ้าน ถึงแม้เจ้าของบ้านไม่อยู่ในบ้าน ก็จะทำให้ เหมือนมีคนอยู่ในบ้าน จะมีเสียงเด็กวิ่งเล่น หรือบางทีก็แปลงกายเป็นหมาดำตัวใหญ่หรือจะเป็นอะไรก็ได้ แต่ก็ได้ยินมาว่ากุมารทองทำอย่างนี้ไม่ได้ทุกตัว ขึ้นอยู่กับความเชื่อมากเชื่อน้อย เหมือนกับเราสนใจอะไรมาก ก็จะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆเป็นพิเศษ” อาจารย์สิริกร ให้รายละเอียดถึงกุมารทองที่คนส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงเพื่อดูแลตัวเอง
@ @ @ @
นอกเหนือความเชื่อส่วนบุคคลแล้ว สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้มีอีกว่า การที่ต้องมาเป็นกุมารทองนั้น ถือว่าเป็นวิบากกรรมที่บางคนเคยทำแท้งสมัยเป็นมนุษย์ ชาติก่อนที่จะเป็นกุมารทอง เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์เคยทำแท้งไว้จึงทำให้ตายในท้อง แบบตายทั้งกลม ตายทั้งแม่และลูก เมื่อตายแล้วก็กลายเป็นผีเด็ก
และ...อีกวิบากกรรมหนึ่งคือเมื่อตอนเป็นมนุษย์ชอบเรียนวิชาพวกนี้ด้วย ซึ่งก็เป็นภาพในอดีตชาติของคนครั้งยังเป็นมนุษย์ ที่ได้ไปผ่าท้องเอาเด็กออกมา ทำตามขั้นตอนพิธีกรรม จึงทำให้ต้องมาเป็นกุมารทอง และไม่ใช่ว่าจะนำมาทำกุมารทองได้หมดทุกคน ต้องมีวิบากกรรมที่เคยทำเขาไว้
คือ...วิบากกรรมทำแท้งจึงต้องมาตายในท้อง ตายแล้วร่างก็ออกมาเป็นผีเด็ก แล้วก็เคยไปเรียนวิชาอาคม ที่นำไปประกอบพิธีกรรมแบบที่ตัว เคยทำ แล้วก็เรียกวิญญาณของตัวมาเลี้ยงไว้ นำมาใช้งาน โดยมีวิทยาธรเจ้าของวิชากำกับด้วยมนตร์ วิทยาธรที่เป็นเจ้าของวิชา คืออดีตมนุษย์ที่ชอบเรียนวิชานี้ ตายแล้วก็ไปเป็นวิทยาธรอยู่ที่ป่าหิมพานต์ และจะรักษาวิชาสืบต่อกันมาอย่างนี้ แต่ถ้าไม่มีกรรมด้านนี้ก็เรียกมาใช้งานไม่ได้
...
เหล่านี้คือศรัทธาความเชื่อที่บอกเล่าต่อๆกันมา ซึ่ง “กุมารทอง” ส่วนใหญ่เป็นเด็กผมจุก นุ่งโจงกระเบน ไม่ใส่เสื้อ สวมสร้อยสังวาล
@ @ @ @
ประสบการณ์ตรงบวกกับการศึกษาหาข้อมูล สิริกร ชอบคุย เล่าถึงวิธีการติดต่อระหว่างผู้เลี้ยง กุมารทองกับกุมารทอง คือ บางทีกุมารทองก็จะมากระซิบข้างหู แต่ไม่เห็นตัวเพียงแต่มีความรู้สึก
หรือ...บางทีถ้าจิตของใครที่อ่อนไหวง่าย กุมารทองก็จะสิงร่างของผู้นั้นได้ง่าย เด็กที่ถูกสิงบ่อยๆต้องเป็นเด็กที่มีเชื้อนับถือทางทรงเจ้าเข้าผีมาก่อนในอดีต ถ้าไม่มีเชื้อก็เข้าไม่ได้ พูดง่ายๆคือเป็นพวกเดียวกัน และบางทีที่สิงเด็กเล็กมากกว่าเด็กโต
หรือ...เข้าสิงเด็กผู้หญิงมากกว่าเด็กผู้ชาย เพราะจิตใจอ่อนไหวกว่า แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่แต่อ่อนไหวง่ายและมีเชื้อติดมาจากอดีตก็เข้าสิงง่าย
ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด-19 เป็นอีกมรสุมใหญ่ที่กระทบกับหลายๆคนหลายๆอาชีพ ทำให้หลายคนเจอปัญหาเรื่องการทำงานและการปรับตัวเพื่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมมากมาย ไม่น้อยก็เบนเข็มต้องออกไปหาที่พึ่งทางใจภายนอก
...
“กุมารทอง” เป็นอีกหนึ่งศรัทธาความเชื่อที่พึ่งในยามนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนหันมามีไว้ในบ้าน ในร้าน ที่ทำงาน เพราะหวังว่า หลังจากหมดวิกฤติโควิด-19 แล้วชีวิตการงานต่างๆจะดีขึ้นๆ
กระนั้นแล้วก็อย่าลืมข้อเตือนใจสำคัญที่ว่า ...สิ่งที่ได้ขอ ได้รับมานั้นเป็นเสมือนการเบิกบุญมาใช้ก่อน แน่นอนว่า...ไม่มีอะไรฟรี สักวันต้องใช้คืน?
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อ โปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก-ยม