ทุกวันนี้ความต้องการสมัครเน็ตไม่ได้มีไว้แค่ดูหนังออนไลน์ หรือใช้เพื่อความบันเทิงเท่านั้น เมื่อมีสายอาชีพที่ต้องทำงานนอกสถานที่ก็มีความต้องการความเร็วเน็ตที่ตอบโจทย์พอสมควร และประเทศไทยก็เริ่มใช้ 5G เป็นครั้งแรกในปี 2020 นี้เอง
ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ประเทศไทยถูกจัดอันดับว่ามีจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นอันดับที่ 18 ของโลก โดยมีผู้ใช้งานทั้งหมด 57 ล้านผู้ใช้ และจัดเป็นประเทศที่มีความเร็วอินเทอร์เน็ตดีเป็นอันดับที่ 45 ของโลก (โดยวัดจากอัตราการดาวน์โหลด) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 18.21 Mbps วันนี้ไทยรัฐออนไลน์สำรวจราคา และแพ็กเกจเน็ตบ้านเปรียบเทียบกับเน็ตมือถือ 4G, 5G มาให้คุณแล้วที่นี่
เคยใช้วิธีเช็กความเร็วเน็ตบ้าน และเน็ตมือถือดูหรือยัง?
เพียงคุณ Search ค้นหา “Speed Test” บนเบราว์เซอร์ทั่วไปก็จะพบเว็บไซต์ที่ให้บริการทดสอบความเร็วเน็ตให้เลือกมากมาย ซึ่งคุณจำเป็นต้องทำเป็นประจำ เพื่อตรวจสอบว่าเราได้ใช้เน็ตในความเร็วที่คุ้มกับค่าสมัครแพ็กเกจเน็ตหรือเปล่า
...
เน็ตบ้าน กับ เน็ตมือถือไม่เหมือนกัน เมื่อก่อนเน็ตบ้านจะเร็วกว่าเน็ตมือถือเสมอ เนื่องจากใช้ระบบการส่งข้อมูล อุปกรณ์ และสายไฟที่รับส่งข้อมูลที่ไม่เหมือนกัน อินเทอร์เน็ตบ้านที่มีความเร็วสูงจะใช้ระบบใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 1 Gbps (เท่ากับการอัปโหลดรูปภาพ 100 รูป ขึ้นโซเชียลมีเดียในเวลาไม่ถึง 1 นาที) แต่ปัจจุบันระบบส่งสัญญาณไร้สายแบบ 5G นี้สามารถทำได้ใกล้เคียงกัน แต่ต้องใช้อุปกรณ์ที่รองรับ 5G เท่านั้น
เน็ตมือถือ 4G, 5G ความเร็วเน็ตแค่ไหน ทำอะไรได้บ้าง ?
เราใช้อินเทอร์เน็ต ดูทีวีออนไลน์ ฟังเพลง เปิดแผนที่นำทาง และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่อาจจะยังไม่เคยทราบว่ากิจกรรมเหล่านี้ใช้อินเทอร์เน็ตเท่าไร
- ความเร็วเน็ต 1 Mbps : ใช้ฟังเพลงสตรีมมิ่ง อ่านอีเมล และเข้าเว็บไซต์ทั่วไป ดูหนังออนไลน์ด้วยความละเอียดภาพทั่วไป
- ความเร็วเน็ต 4 Mbps : ดูหนังออนไลน์แบบสตรีมมิ่งได้ และตั้งแต่ความเร็วเน็ต 4 Mbps ขึ้นไปใช้เล่นเกมออนไลน์ ไม่กระตุก
- ความเร็วเน็ต 6 Mbps : ใช้ดูหนัง ดูคลิปวิดีโอ Youtube ด้วยความละเอียดแบบ HD ได้ไม่สะดุด
- ความเร็วเน็ต 10 Mbps : ความเร็ว 10 เม็กขึ้นไปนี้ใช้ดูหนังสตรีมมิ่งทางเน็ตฟลิกซ์ได้ลื่นไหล ใช้ดู Live แบบสตรีมมิ่งได้สบายมาก เหมาะสำหรับกลุ่มแม่ค้าออนไลน์ที่ใช้งาน Live บ่อย ๆ รวมถึงการทำงาน Work from Home ด้วยการแชร์สัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่าน Hot Spot
- ความเร็วเน็ต 100 Mbps : นอกจากเรื่องการดูหนังออนไลน์แล้ว ยังใช้ใช้อัปโหลด Live Streaming ร่วมกับการแชร์เน็ตให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ ไว้เล่นเน็ตได้ด้วย
- ความเร็วเน็ต 300 Mbps : ใช้อัปโหลดไฟล์งานหรือเรียกดูข้อมูลผ่าน Cloud ได้ทั้งไฟล์ภาพ เสียง วิดีโอ รวมถึงการแชร์เน็ตให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ ทั้ง PC, Tablet, Mobile
เราพอจะทราบแล้วว่า ความเร็วเน็ตแค่ไหน ทำอะไรได้บ้าง ? หากใช้งานที่กินปริมาณเน็ตมากกว่านี้อย่างเช่น ส่งไฟล์ภาพกราฟิก หรือดาวน์โหลดวิดีโอไฟล์ใหญ่ ๆ ควรใช้อินเทอร์เน็ตบ้านผ่านการใช้งาน Wi-fi แต่การใช้งานทั่วไป ในอนาคต 5G จะทำได้สบายเกือบเทียบเท่าเน็ตบ้านแล้ว
เช็กลิสต์..ทำงานอยู่บ้านบ่อย ๆ ควรใช้โปรแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบไหน ?
แม้ว่าจะมีโปรโมชั่นเน็ตบ้าน เน็ตมือถือ อยู่จำนวนมาก แต่ก็มีแพ็กเกจที่รวบรัดมาเฉพาะกลุ่มผู้ทำงาน Work from Home ได้ไม่กี่แพ็กเกจ ซึ่งสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงคือ ปริมาณงาน ว่าต้องใช้การดาวน์โหลด อัปโหลดมากน้อยแค่ไหน หลังจากนั้นค่อยพิจารณาเงื่อนไขเสริมอื่น ๆ อีก 5 ข้อ ได้แก่
1. ใช้งานกี่เครื่อง กี่อุปกรณ์
2. ใช้งานกี่วัน
3. มีงบประมาณต่อเดือนหรือต่อสัปดาห์แค่ไหน
4. ต้องติดตั้งอุปกรณ์หรือเดินสายใหม่หรือเปล่า
5. มีบริการหลังการขายอย่างไรบ้าง
...
เรียนออนไลน์ ควรใช้โปรแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบไหน ?
หากต้องการใช้ความเร็วอินเตอร์เน็ตสำหรับดูคลิปวิดีโอสตรีมมิ่งในการเรียนออนไลน์ ควรเลือกแพ็คเกจความเร็วเน็ต 4 Mbps ขึ้นไป และเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ยังส่งผลให้ต้องเรียนออนไลน์อยู่ขณะนี้ ทางผู้ให้บริการเครือข่ายบางค่าย แจกซิมสำหรับนักเรียน นักศึกษาโดยเฉพาะ ลองสอบถามกับค่ายมือถือต่าง ๆ ดู
สรุปแล้วการเลือกโปรโมชั่นแพ็กเกจเน็ตควรเลือกตามความจำเป็นของคุณ บางทีโปรโมชั่นเสริมก็เพิ่มอะไรที่เราไม่จำเป็นใช้ขึ้นมา รวมถึงการบริการคู่กับการเปิดเบอร์ การแจกกล่องดูทีวีออนไลน์ ดูบอลออนไลน์ แต่ถ้าหากคิดว่าได้ใช้อยู่แล้วถือว่าคุ้มมาก ๆ ลองเปรียบเทียบแพ็กเกจกันดูครับ
ที่มา :
1. ceoworld.biz
2. The Consumers Guide to Internet Speed www.highspeedinternet.com