การเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมอย่างมีสติ จะช่วยให้เราผ่านพ้นเรื่องราวและโรคร้ายเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กันได้ โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019-2020 นี้ ที่เกิดผู้ติดเชื้อกว่า 100,000 รายทั่วโลกแล้ว และในประเทศไทยเองแม้ว่าจะพบผู้ติดเชื้อไม่มากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น แต่ก็มีมาตรการระวังการติดเชื้อระบาดจากภาครัฐบาล รวมถึงบริษัทประกันภัยก็ได้ออกแผนประกันโรคโควิดออกมาเยอะมาก และได้รับความสนใจสูง แต่นอกจากวิธีเลือกซื้อประกันโควิด-19 แล้ว คุณควรรู้ขั้นตอนการเคลมเอาไว้ด้วย เพื่อจะได้ไม่พลาดได้เงินคืนในทุกค่าใช้จ่าย
วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ขอแนะนำวิธีการเคลมสินไหม ในกรณีถ้าเราติดเชื้อขึ้นมาแล้วต้องเคลม มีขั้นตอนการเบิกสินไหมอย่างไร ?
1. ตามหากรมธรรม์ประกันโควิดให้เจอ
จำเป็นต้องรู้ว่ากรมธรรม์เก็บไว้ที่ไหน เพื่อจะได้นำมาตรวจสอบว่าจะได้รับเงินส่วนใดคืนบ้าง อาทิ ค่ารักษาพยาบาล, ค่าชดเชยรายได้รายวัน และใครเป็นผู้รับผลประโยชน์ เพื่อที่ว่าจะได้เบิกเคลมได้ครบทุกรายการ และจะได้เตรียมเอกสารครบตามที่บริษัทร้องขอ
...
2. ดูชื่อบริษัทประกันอย่าให้ผิด
ระวังการติดต่อผิดบริษัท เพราะเป็นเหตุที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ เนื่องจากบริษัทประกันภัยมีชื่อคล้ายกันมาก และมีสีโลโก้ที่คล้ายกัน ซึ่งความผิดพลาดนี้มักเกิดจากการจดจำชื่อสลับกัน หรือพูดชื่อสลับกันบ่อย ๆ
3. จดเลขกรมธรรม์ไว้เคลม
ถ้ามีเลขที่กรมธรรม์ จะช่วยให้เจ้าหน้าที่หาข้อมูลสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทได้ง่ายมาก ลดระยะเวลาขั้นตอนไปได้หลายอย่างทีเดียว เพราะฉะนั้นหลังทำประกันโควิดไปแล้วต้องตรวจสอบการรับกรมธรรม์ให้สำเร็จด้วย
4. สะกดชื่อ นามสกุล และวันเดือนปีเกิด ของผู้เอาประกันภัยให้ถูก
มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าจะมีผู้เอาประกันภัยชื่อเดียวกัน นามสกุลคล้ายกัน ทำประกันไว้กับบริษัทเดียวกัน เพราะฉะนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทราบข้อมูล 3 อย่างนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประสานงานให้กับเราได้อย่างชัดเจน
5. ถ่ายเอกสาร 3 อย่างนี้รอไว้
โดยปกติแล้ว ทางบริษัทประกันภัยจะขอเอกสารเพื่อเคลมสินไหมให้ และเอกสาร 3 อย่างนี้เราสามารถถ่ายเอกสารเตรียมรอไว้ได้เลย เพราะจะได้ใช้แน่นอน ได้แก่ 1) บัตรประชาชนผู้ป่วย, 2) สำเนาบัตรประชาชนผู้รับผลประโยชน์ (ถ้ามี), 3) สำเนาสมุดบัญชีหน้าแรกที่มีเลขบัญชี,
6. ขอเอกสารเคลมประกันสินไหมจากบริษัทประกัน
(เอกสารสำคัญ) ทุกบริษัทประกันภัยที่ออกประกันโควิดจะให้คุณกรอกใบคำร้อง ซึ่งเป็นเอกสารที่ต้องกรอก 1-3 หน้ากระดาษ A4 เรียกว่า “แบบฟอร์มเรียกร้องค่าสินไหม” ย้ำว่าถ้าไม่มีใบนี้ ประกันจะยังไม่ทำเรื่องเบิกสินไหมให้แน่ ๆ เพราะเขาจะไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ และรับผลประโยชน์เท่าไหร่ ?
7. ใบรับรองแพทย์ตัวจริง
(เอกสารสำคัญ) เอกสารนี้ถ้าไม่มีก็เบิกไม่ได้เช่นกัน และต้องเป็นตัวจริงด้วย โดยแพทย์ต้องระบุชัดเจนว่าเป็นอาการติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงทางบริษัทประกันภัยอาจขอดูใบรายการการตรวจทางห้องปฏิบัติการจากทางโรงพยาบาลเพิ่มเติมด้วย
Trick : สำหรับผู้ที่ทำประกันโควิดไว้หลายบริษัท จำเป็นต้องขอใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลไว้หลายใบได้ โดยแจ้งกับทางโรงพยาบาลว่าจะใช้ไปเบิกประกัน คุณหมอเจ้าของไข้จะเป็นผู้เซ็นรับรองสำเนาอีกครั้ง
8. ใบเสร็จตัวจริง
(เอกสารสำคัญ) เช่นเดียวกันกับใบรับรองแพทย์ ที่ต้องใช้ตัวจริงเท่านั้น และไม่ว่าจะมีกี่หน้าต้องตรวจสอบให้ครบ เพราะทางบริษัทประกันภัยจะตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่เกิดจากโรคโควิด-19 และโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ด้วย
Trick : สำหรับผู้ที่ทำประกันโควิดไว้หลายบริษัท ผู้เอาประกันภัยจะไปถ่ายสำเนาเองไม่ได้ จะต้องเป็นการทำสำเนาจากทางโรงพยาบาล โดยมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเซ็นรับรองความถูกต้อง
9. รอตรวจสอบ
ระยะเวลาที่บริษัทประกันภัยตรวจสอบนั้น มีตั้งแต่ยืนรอรับเงินสดที่เคาน์เตอร์ได้เลย หรือรับผ่านบัญชีธนาคาร หรือรับเป็นเช็คสั่งจ่ายในชื่อผู้รับผลประโยชน์ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท เช่น บางบริษัทบอกว่าหากต้องสั่งจ่ายเงินสดเกิน 20,000 บาท จะต้องรับเป็นเช็คเท่านั้น
10. รับเงิน
และหลังจากรับเงินมาต้องตรวจสอบให้ครบตามจำนวน และตามสัญญาในกรมธรรม์ไม่ให้ผิดพลาด ถ้ามีขาดหรือเกินมา ต้องแจ้งกับบริษัทประกันภัยทันที เพราะจะมีระบุระยะเวลาไว้ว่าเกินกี่วันแล้วจะทักท้วงไม่ได้
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการเบิกเคลมสินไหมประกันสุขภาพที่ทุกบริษัทถือปฏิบัติเหมือนกัน จะมีต่างกันก็ตรงที่แบบฟอร์มของแต่ละบริษัทที่ให้กรอกข้อมูลมากน้อยไม่เท่ากัน รวมถึงระยะเวลาพิจารณาจ่ายเบี้ยคืนด้วย แต่หากเอกสารครบ ก็รอค่าสินไหมไม่นาน รวมถึงหากทำประกันโควิดแล้วรักษาตัวในโรงพยาบาลคู่สัญญา ก็ทำ Fax Claim ได้โดยไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้า
เพราะฉะนั้นการทำประกันสุขภาพถือว่าจำเป็น แต่ปัจจัยการเลือกของแต่ละบุคคลนั้นไม่เหมือนกัน จึงมีแผนประกันโควิดออกมาหลายรูปแบบ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเองให้มากที่สุด ต้องมีเวลานั่งศึกษาเงื่อนไขอย่างละเอียด หรือปรึกษาตัวแทนประกัน
...
หากมีข้อสงสัย รีบติดต่อกับบริษัทประกันทันที
ที่มา :
1.การประกันภัยสุขภาพ (Health Insurance) http://www.oic.or.th/th/education/insurance/health
2. การยื่นเบิกเคลมค่าใช้จ่ายประกันสุขภาพ กรณีมีหลายสิทธิประกัน http://www.oic.or.th