การบินไทย และไทยสมายล์ สายการบินประจำชาติของไทย ได้ออกมาตรการยกระดับความปลอดภัย หลังจากมีการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบ จากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ โดยมีการบรรยายสรุปให้กับสื่อมวลชน และมีการสาธิตการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ และเช็ดทำความสะอาดภายในเครื่องบิน ณ โรงซ่อมเครื่องบิน (Hanger) ฝ่ายช่างการบินไทย สุวรรณภูมิ นำโดย นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย และผู้บริหารจากฝ่ายช่าง ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคง และมาตรฐานการบิน และฝ่ายบริการอุปกรณ์ภาคพื้น พร้อมสื่อมวลชนมากมายจากทุกสำนัก
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ให้ความมั่นใจถึงมาตรการความปลอดภัยที่การบินได้เพิ่มความเข้มงวดในการทำงาน รวมถึงการประสานงานกับหน่วยงานภายในและภายนอก เพื่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยทั้งหมด สามารถแบ่งได้ 7 มาตรการ คือ
1.มาตรการคัดกรองผู้โดยสาร โดยจะมีการสังเกตอาการผู้โดยสาร ณ จุดบริการ และมีการรายงานไปยังแพทย์ประจำสนามบิน ในกรณีที่มีอาการบ่งชี้ เพื่อให้ตรวจดูอาการและยืนยันความปลอดภัยก่อนเดินทาง
2.มาตรการให้บริการบนเครื่องบิน มีการสังเกตอาการผู้โดยสารระหว่างเดินทาง หากมีอาการต้องสงสัยให้แยกผู้โดยสาร และแจ้งด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศก่อนเครื่องลง จัดเตรียมหน้ากากอนามัยให้กับผู้โดยสาร ให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินสวมใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือในการให้บริการบนเที่ยวบินที่มีความเสี่ยง เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดห้องน้ำ
3.มาตรการจัดเตรียมอากาศยาน และฆ่าเชื้อโรค โดยการอบพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อโรค ทั้งในบริเวณห้องผู้โดยสาร และห้องนักบิน ในเที่ยวบินที่กลับจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยง จะใช้เวลาในการพ่นยา 15 นาที และปิดเครื่องบินเพื่อทำการอบฆ่าเชื้ออีก 30 นาที และมีการกรองอากาศด้วย HEPA FILTER
4.มาตรการทำความสะอาดภายในอากาศยาน โดยการทำความสะอาด Deep Cleaning และทำความสะอาด 36 จุดสัมผัสร่วม ใน 5 พื้นที่ ได้แก่ กระเป๋าหน้าที่นั่งผู้โดยสาร บริเวณภายในเครื่องบินทั่วไป ที่นั่งผู้โดยสาร ครัว และห้องน้ำ ซึ่งพนักงานจะต้องใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากาก และถุงมือ อย่างเคร่งครัด มัดปากถุงขยะให้แน่นก่อนนำลงจากเครื่องไปทิ้งในจุดที่กำหนด ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลล้างมือทุกครั้งหลังปฏิบัติงาน
5.มาตรการป้องกันและเฝ้าระวังสุขอนามัยพนักงาน โดยการเผยแพร่ความรู้ให้พนักงาน จัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลให้พนักงาน หากตรวจพบว่าพนักงานที่มีอาการต้องสงสัย ให้พบแพทย์ และหยุดพักจนกว่าจะหายเป็นปกติ
6.มาตรการการรับขนส่งสินค้าและไปรษณีย์ภัณฑ์ โดยหลีกเลี่ยงการส่งสินค้าที่มีความเสี่ยง ตรวจสอบหีบห่อให้ได้มาตรฐาน จัดการคลังสินค้าให้ถูกสุขลักษณะ
7.มาตรการด้านโภชนาการ ได้แก่ จัดซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน GAP ดำเนินการผลิตภายใต้ระบบประกันคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร เช่น HACCP, GMP, HALAL เครื่องมือ อุปกรณ์การผลิต และบริการทุกชิ้นผ่านการพาสเจอไรซ์ ผ้าที่ให้บริการในเที่ยวบิน ผ่านการซักอบรีดอย่างถูกสุขลักษณะ