ตอนสุดท้ายของการออกฤทธิ์ของกัญชาและประโยชน์ซึ่งเรียบเรียงมาจาก “Cannabis Therapeutics and the Future of Neurology” ใน frontiers in Integrative Neuroscience
โรคต่อไปที่กล่าวถึงจะเป็นกันเกลื่อนทั่วโลกคือ โรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ ถ้าไม่หาวิธีป้องกันให้ได้ในเร็ววันนี้ เป็นโรคที่น่ากลัว เพราะเมื่อโรคดำเนินไปจะมีอาการไม่พึงประสงค์ เช่น กระวนกระวาย นอนไม่เป็นเวลา อารมณ์แปรปรวน ทำให้การดูแลที่ยากอยู่แล้วยากขึ้นไปอีก
ปัญหาคือจะป้องกันหรือรักษาอย่างไร เมื่อตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าอัลไซเมอร์เกิดขึ้นเพราะว่าอะไร ความคิดที่ว่าเป็นจากโปรตีนผิดปกติ (beta amyloid) ก็ไม่รู้ว่าเป็นต้นเหตุหรือปลายเหตุกันแน่
แต่ที่รู้แน่ๆ คือหลังจากเริ่มมีโปรตีนผิดปกติเกาะตัวในเนื้อสมอง คาดว่าจะสายเกินไปแล้วที่จะรักษา เพราะการก่อตัวของโปรตีนผิดปกติทำให้แหล่งผลิตพลังงานในเซลล์ (mitochondria) ด้อยประสิทธิภาพ มีสารอนุมูลเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติจนเป็นพิษต่อเซลล์สมอง จนการทำงาน เช่น การ ส่งสัญญาณระหว่างเซลล์เสียหาย ที่กล่าวมาเป็นวงจรที่จะทำให้การทำงานของสมองแย่ลงเรื่อยๆ
ฉะนั้นจะรักษาจะป้องกันก็ควรจะเริ่มแต่เนิ่นๆ ที่ตื่นเต้นเพราะระบบ endocannabinoid อาจจะเป็นระบบที่เราหาอยู่ในการหยุดการดำเนินต่อของโรคสมองเสื่อม การกระตุ้นระบบนี้อาจจะทำให้สมดุลของระบบและสมดุลของสมองกลับมาเป็นปกติ ช่วยให้สมองกำจัดโปรตีนผิดปกติได้เร็วขึ้น และตัวระบบกัญชาเองมีฤทธิ์ลดสารอนุมูลผิดปกติ และลดเซลล์สมองเสียหายจากระบบทำลายตัวเอง (glutamate excitotoxicity) ได้อย่างดี
ส่วนตัว CBD เองช่วยลดการอักเสบได้โดยลดการผลิตสารกระตุ้นการอักเสบ (inducible nitric oxide, TNF-alpha and IL-1B expression and release) และยังช่วยบำรุง เซลล์สมองอีกด้วย เริ่มมีการใช้ในปี 1997 กับคนไข้อัลไซเมอร์ที่ไม่ค่อยอยากอาหาร พบว่ากินข้าว และเพิ่มสารอาหาร น้ำหนักขึ้นได้ดี การใช้ในคนไข้สมองเสื่อมอีกกลุ่มก็พบว่าเมื่อใช้กัญชาจะสามารถลดยากดประสาทและทำให้นอนได้ดีขึ้น นอกจากที่กล่าวมายังอารมณ์ดีขึ้นอีกด้วย เยี่ยมไปเลย
...
และส่วนตัวที่หมอมีประสบการณ์ในการรักษา พบว่าคนป่วยแม้ว่าจะมีอาการมากจนดูแล ตนเองไม่ได้ ต้องการคนช่วยดูแล 24 ชั่วโมง ติดต่อสื่อสารทางภาษาไม่ได้ กลับดีขึ้นเรื่อยๆ จนช่วยตนเองได้เมื่อเริ่มใช้กัญชาจนปัจจุบันผ่านไป 9 เดือนแล้ว (ถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2562) และคนป่วยอีกหลายรายรวมทั้งคนป่วยพาร์กินสัน
เรื่องสำคัญเรื่องต่อมา น่าจะเป็นเรื่องสำคัญ มากสุดๆของประเทศไทยที่มีอัตราการตาย พิการ จากอุบัติเหตุทางท้องถนนสูงที่สุดในภูมิภาคหรือประมาณ 20,000 คน พิการ อีกเกิน 60,000 คน สูญเสียเงินไปกับสิ่งนี้ไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท นึกว่าสงคราม
ทำอย่างไรดี ยังดีที่การลดอุบัติเหตุกำลังจะไม่ถูกละเลยเพราะกำลังจะเป็นวาระแห่งชาติ แต่จะทำอย่างไรให้ลดได้จริง และลดได้อย่างยั่งยืน ใครคิดออกช่วยเสนอหน่อย ตอนนี้หมอแสวงหาวิธีลดการเกิดความพิการหลังสมองกระทบกระเทือนก่อนแล้วกัน พ่อแม่จะได้เลี้ยงดูลูกที่พิการหลังกะโหลกยุบ เลือดออกในสมอง ได้ง่ายหน่อย
โดยเฉพาะที่ไม่ใส่หมวกกันกระแทก แล้วกัญชามาช่วยในจุดนี้ได้อย่างไร กลไกเดียวกับที่กล่าวด้านบนในการลดสารอนุมูลผิดปกติและลดเซลล์สมองเสียหายจากระบบทำลายตัวเอง (glutamate excitotoxicity) ซึ่งเกิดขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากการกระทบกระเทือนและเป็นเหมือนชนวนให้เซลล์ตายไปตามๆกัน เพราะเกิดการอักเสบรุนแรง เราหวังว่ากัญชาจะไปหยุดวงจรที่วนเวียนนี้และลดการอักเสบต่อเนื่องที่ไม่ใช่ผลดีหลังจากเกิดอุบัติเหตุ เมื่อผ่านจุดอันตรายต่อชีวิตไปแล้ว ในผู้ป่วยสมองพิการหลายคนจะได้รับผลกระทบในระยะยาวเพราะส่วนของสมองได้ทำงานผิดปกติไปแล้วและยังไม่สามารถหาจุดสมดุลใหม่ได้ (chronic traumatic encephalopathy)
และที่พบได้บ่อย คืออาการ เช่น คลื่นไส้ นอนไม่หลับ กระวนกระวาย และประสาทหลอน และกัญชาสามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ ยังไม่จบที่อุบัติเหตุเท่านั้น แต่อาจจะยังครอบคลุมไปถึงเส้นเลือดตีบตันในสมอง (ischaemic stroke) และเส้นเลือดแตกด้วย (haemorrhagic stroke)
เพราะสองสิ่งนี้ก็คือการกระทบกระเทือนของสมองเฉกเช่นเดียวกับที่เกิดจากอุบัติเหตุและมีเซลล์ตายต่อเนื่องหลังจากเกิดเหตุแบบเดียวกันจึงน่าจะสามารถใช้ได้เหมือนกัน
สุดท้ายแล้ว เคยบอกเรื่องความเกี่ยวข้องของอาหารการกิน กับจำพวกของแบคทีเรียในลำไส้ โยงไปถึงสุขภาพของหัวใจ โอกาสเป็นมะเร็ง รวมไปถึงสิวอีกด้วย คราวนี้มาถึงลำไส้ สมอง (Gut brain axis) และกัญชากันบ้าง แบคทีเรียในลำไส้มันสำคัญยังไง ก็ต้องอึออกมาอยู่ดีไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่เช่นนั้นเสียทีเดียวเพราะแบคทีเรียจำนวนมากอาศัยอยู่ในลำไส้เรา ที่จริงแล้วมันอาศัยอยู่มากกว่า 100 ล้าน ล้านตัว (microbiome)
เยอะกว่าชุดดีเอ็นเอ (genome) ทั้งหมดของเรารวมกันสัก 100 เท่าเห็นจะได้
การศึกษาพบว่าในคนน้ำหนักเกินจะมีแบคทีเรียดีน้อยกว่า (Bacteroides) และมีแบคทีเรียไม่ดีมาแทน (Firmicutes) แต่มันเกี่ยวข้องกันอย่างไรกับสมอง เริ่มจากการปลูกถ่ายอุจจาระที่มีแบคทีเรียจำพวกดีในหนูจำลองโรคพาร์กินสัน พบว่าหนูขยับได้ดีขึ้น และมีการสันนิษฐานว่าการอักเสบจากลำไส้เป็นเพราะเศษแบคทีเรีย (lipopolysaccharide) ที่หลุดรอดผ่านผนังเส้นเลือดเข้าไปในเลือด ต่อมาก็มีการสังเกตว่าการกินอยู่และใช้ชีวิตแบบยุโรปนั้นจะทำให้เกิดสิวมากขึ้น เมื่อเทียบกับคนป่านั้นไม่มีสิวเลย คนป่าก็ไม่มีโรคเบาหวานอีกด้วย
...
จนมาถึงในช่วง 5 ปีหลังนี้ ที่มีการให้ความสำคัญในเรื่องการอักเสบเรื้อรังในร่างกายกับเนื้อสมองนั้นเป็นตัวกระตุ้นของสมองเสื่อม จึงสำรวจจำนวนของแบคทีเรียก่อสิว (Propionibacterium acnes) ในคนเป็นอัลไซเมอร์และพบว่ามีจำนวนแบคทีเรียกลุ่มนี้ในช่องปากและลำไส้มากกว่าคนที่ไม่ได้เป็น 5-10 เท่าเลยทีเดียว
ที่หนักกว่าคือเมื่อนำสมองคนเป็นอัลไซเมอร์มาเพาะเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียตัวนี้มันดันโตน่ะสิ มีแบคทีเรียอยู่ในสมองได้อย่างไร ไม่แน่อาจจะแค่มีการเจือปนก็เป็นได้ ยังไงไม่รู้แน่ชัด
แต่กัญชาและพี่น้องของมันมีฤทธิ์ป้องกันการเกิดโปรตีนบิดเกลียวผิดปรกติได้ และยังมีฤทธิ์ป้องกันการโตของแบคทีเรียก่อสิวตัวนี้อีกด้วย ฉะนั้นจริงๆส่วนหนึ่งของฤทธิ์ลดการอักเสบอาจจะมาจากการหยุดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียพวกนี้ก็ได้ นั่นก็รวมถึงแบคทีเรียที่อยู่บนผิวหนังอีกด้วย แบบนี้เรียกว่าหน้าใสสมองดีเลยล่ะ
สรุปหลังพูดมายืดยาว คือเมื่อเป็นยาต้องใช้ให้ถูกจะได้มีประโยชน์อย่างสูงสุด และอันตรายต่ำสุด ข่าวดีอีกข่าวก็เห็นจะเป็นนโยบายหยุดการใช้สารเคมีฆ่าหญ้า ฆ่าแมลงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและสุขภาพของคนไทย แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะดูแลสุขภาพประชาชนอย่างแท้จริง ด้วยความเป็นห่วงครับ
หมอดื้อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
...