เป็นนักสะสมผลงานศิลปะที่คร่ำหวอดอันดับต้นๆของไทย ล่าสุด “เสริมคุณ คุณาวงศ์” สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการศิลปะ ด้วยการก่อตั้ง “บ้านพิพิธภัณฑ์ เสริมคุณ คุณาวงศ์” เพื่อเป็นแหล่งรวมผลงานศิลปะหลากแขนง โดยขนผลงานศิลปะชิ้นเอกมาจัดแสดงมากกว่า 300 ชิ้น ครบครันทุกมิติทั้งหุ่นประเภทต่างๆ, เครื่องสวมศีรษะ, เครื่องถ้วยชามเบญจรงค์, งานฝีมือแบบไทย, โบราณวัตถุ, จิตรกรรมจากไทยประเพณีสู่งานสมัยใหม่, งานประติมากรรมไทย ตลอดจนเฟอร์นิเจอร์สมัยต่างๆทั้งไทยและยุโรป เพื่ออนุรักษ์ศิลปะไทยให้เป็นมรดกของชาติ

ในฐานะนักสะสมตัวยง ซึ่งเริ่มคอลเลกผลงานศิลปะของไทยตั้งแต่ปี 2535 เขาเล่าว่า ผลงานที่สะสมทั้งหมดตลอดระยะเวลา 27 ปี ครอบคลุมหลากหลายแขนง และมีการจัดเก็บในรูปแบบเดียวกับพิพิธภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น โบราณวัตถุ, พระพุทธรูป, จิตรกรรม, ประติมากรรม, หุ่นประเภทต่างๆ, เครื่องสวมศีรษะ, เครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ ตลอดจนงานฝีมือแบบไทย โดยแนวทางการสะสมจะต้องเดินทางไปพบศิลปินแต่ละท่านและพูดคุยถึงการทำงานด้วยตนเอง ก่อนตัดสินใจเก็บเข้าในคอลเลกชัน จากการเฟ้นหามาเกือบ 3 ทศวรรษ เขาสามารถรวบรวมผลงานศิลปะชั้นยอดมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ได้มากกว่า 300 ชิ้น เพื่อถ่ายทอดถึงพัฒนาการของศิลปะไทยจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

...

บนพื้นที่ 800 ตารางเมตร พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดสร้างเป็นอาคาร 3 ชั้น ภายในแบ่งพื้นที่เป็น 12 โซนย่อย แต่ละโซนมีแนวคิดที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน โซนไฮไลต์ยกให้ “โซนสวนประติมากรรมพุทธศาสนา” เป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานประติมากรรม ตั้งอยู่บริเวณสวนด้านหน้าบ้านพิพิธภัณฑ์ สะท้อนให้เห็นแนวคิดของพุทธศาสนา ธรรมะ ธรรมชาติ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ชีวิตของมนุษย์ในหลากแง่มุม โดยมีงานของศิลปินแห่งชาติมาเป็นแม่เหล็กสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นผลงานชุด “เมตตาค้ำจุนโลก” ของ “ปัญญา วิจินธนสาร”, ผลงาน “สัมพันธภาพ” ของ “นนทิวรรธน์ จันทะนะผลิน”, ผลงาน “ฝูงนกต่างพันธุ์” โดย “ฉัตรมงคล อินสว่าง” และผลงานชิ้นเอก “ฌาน” สร้างสรรค์โดย “นพดล วิรุฬชาตะพันธ์”

ภายในบ้านพิพิธภัณฑ์ฯยังมีโซนน่าสนใจ เช่น “ห้องมรดกไทย” สะท้อนความรักในศิลปะไทยประเพณีแบบโบราณของเจ้าของบ้าน โดยจัดแสดงความงดงามของศิลปะไทยที่มีอารยธรรมสืบทอดยาวนาน บริเวณผนังปรากฏงานจิตรกรรมไทยประเพณี ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอนุรักษ์จิตรกรรมไทยประเพณีสกุลช่าง “จักรพันธุ์ โปษยกฤต”

จากอุโบสถวัดตรีทศเทพวรวิหาร นำมาสร้างสรรค์จัดองค์ประกอบใหม่ลงบนผืนผ้าใบ นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงศิลปะเครื่องเคลือบสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ พระพุทธรูป ตู้พระ ชฎานาง รัดเกล้าเปลว และหีบพระธรรมคัมภีร์สมัย ร.4 บนตั่งไทยที่มีความประณีตงดงามในสมัย ร.4-ร.5 รวมไปถึงในตู้หุ่น ที่มีหุ่นและศีรษะโขนฝีมือชั้นบรมครูจากหลากสำนัก

อีกโซนถูกใจคออาร์ตรวมถึง “โถงภาพพอร์ตเทรต” ที่ติดภาพพอร์ตเทรตและประติมากรรมไว้บนผนัง ไม่ว่าจะเป็นภาพทนายความสวมใส่ชุดครุยสีดำ วาดด้วยสีน้ำมันบนผ้าใบ เมื่อปี 2391 สร้างสรรค์โดย “ชูล โจเซฟ อัลเล่” นอกจากนี้ ยังมีผลงานน่าสนใจที่เขียนโดยช่างฝรั่ง ซึ่งเมื่อหลายสิบปีก่อนศิลปินอิตาเลียนเดินทางมาเมืองไทยและเขียนภาพคหบดีชาวจีนที่เป็นบรรพบุรุษของเจ้าของพิพิธภัณฑ์ และพลาดไม่ได้คือ พระบรมรูป “ทรงงาน” ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลย เดช บรมนาถบพิตร ที่ยังตราตรึงอยู่ในใจคนไทยทุกคนตราบนานเท่านาน...พร้อมเปิดให้เข้าชมแล้วทุกวันเสาร์ที่ 3 ของเดือน คลิกดูข้อมูลที่ www.sermkhunkunawongmuseumhouse.com

...

...