ถือเป็นเดิมพันชีวิตครั้งใหญ่ที่สุดของเจ้าแม่วงการค้าปลีก “แป๋ม–ชฎาทิพ จูตระกูล” ที่ทุ่มเทหมดทั้งใจและสติปัญญาทุกอย่าง ระดมพลังสุดยอดฝีมือคนไทยจากทุกสารทิศ เพื่อปลุกปั้น “ไอคอนสยาม” อภิมหาโปรเจกต์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่า 54,000 ล้านบาท ให้เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของประเทศไทย ที่มีครบทุกมิติของอัตลักษณ์ความเป็นไทย เพื่อตอกย้ำว่าพวกเราโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดเป็นคนไทย และประเทศไทยของเรามีอนาคตรุ่งโรจน์ไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน
“เจ้าของไอคอนสยามคือคนไทยทั้งประเทศ สิ่งที่เราสร้างไม่ใช่เมือง แต่เป็นการสร้างอัตลักษณ์ความเป็นไทยของคนยุคนี้ แป๋มบอกเลยว่าไม่สามารถทำอะไรยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้อีกแล้ว เพราะ 5 ปีที่ผ่านมาทุ่มไปสุดตัวแล้วจริงๆ มีคนถามว่าทำไอคอนสยามอยากได้อะไรที่สุด สมัยก่อนต้องบอกว่าอยากได้ยอดขายหมื่นล้าน อยากได้คนเดินห้างวันละหลายแสนคน แต่ครั้งนี้สิ่งที่อยากได้ที่สุดคือ อยากให้คนไทยทุกคนที่เข้ามาเดินไอคอนสยามได้เรียนรู้เรื่องราวของเมืองไทยในทุกมิติ และกลับออกไปด้วยหัวใจที่รักประเทศไทย รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินที่เกิดเป็นคนไทย อยากให้ไอคอนสยามเป็นสถานที่เล่าเรื่องราวล้านเรื่องของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก อยากทำให้ประเทศไทยมีชื่อเสียงและสง่างามบนเวทีโลก อยากเรียกความเชื่อมั่นกลับมาอีกครั้ง หลังจากเมืองไทยของเราผ่านความวุ่นวายมาหลายปี” ...บอสใหญ่สยามพิวรรธน์บอกเล่าถึงความตั้งใจแน่วแน่
...
เมื่อ 5 ปีก่อน เมืองไทยเผชิญวิกฤติหลายอย่าง แต่ทำไมกล้าประกาศจะทำโครงการใหญ่ 54,000 ล้านบาท
ตั้งใจตั้งแต่วันแรกที่จับมือเป็นพันธมิตรกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ และแมกโนเลียฯ ว่าประเทศชาติกำลังอยู่ในช่วงอึมครึมมาก ไม่มีใครกล้าลงทุนอะไร ฉะนั้นเราต้องกล้าลงทุนให้ใหญ่ไปเลย เพื่อบอกทุกคนว่ามีความเชื่อมั่นในประเทศไทย คุณพ่อแป๋มพูดเสมอว่าเวลาที่ประเทศชาติมีวิกฤติเราต้องลงทุน ก็เหมือนเมื่อครั้งที่ตัดสินใจสร้างสยามพารากอน เพื่อเป็นการเรียกความเชื่อมั่นของคนไทยและคนต่างชาติ ถ้าเราทำธุรกิจในยุควิกฤติถามว่ายากไหมก็ยาก แต่มันก็มีส่วนดี เพราะจะไปกู้ธนาคารก็ง่ายขึ้น ค่าก่อสร้างก็จะไม่แพงมาก เราได้ดีลที่ดีมากในการก่อสร้าง เพราะ 5 ปีก่อนไม่มีใครกล้าสร้างอะไร และนี่คือโปรเจกต์ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ผุดโปรเจกต์ใหญ่ขนาดนี้ที่ฝั่งธน โดนสบประมาทไหมว่า จะไปไม่รอด
แป๋มโดนสบประมาทเยอะ หลายคนบอกว่าไปไม่รอดหรอกไปทำที่ฝั่งธน แต่เราเห็นศักยภาพของฝั่งธน ซึ่งใน 10 ปีที่ผ่านมา เติบโตมากกว่ากรุงเทพฯ รถไฟฟ้ามากกว่า 10 สาย มุ่งไปสู่ฝั่งธนหมด เวลาสยามพิวรรธน์ทำโครงการอะไรไม่ประสงค์ให้ใครเดือดร้อน แต่เราต้องประสานประโยชน์กับคนทั้งแม่น้ำ แล้วก็เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันให้มากที่สุด เราเล็งเห็นถึงปัญหาจราจรบนถนนเจริญนคร จึงทุ่มงบ 4,000 ล้านบาท สร้างทางรถไฟฟ้าสายสีทองให้ กทม. เพื่อเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว, สีแดง และสีม่วง เข้าด้วยกันในอนาคต ขณะเดียวกัน ได้สร้างท่าเทียบเรือ 4 ท่า เพื่อรองรับการสัญจรทางน้ำ ทำให้ไอคอนสยามเป็นจุดเชื่อมโยงการสัญจรทางรถ ทางราง และทางเรือ ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศ
ทำไมต้องเลือกทำโครงการริมแม่น้ำเจ้าพระยา แทนที่จะสร้างใจกลางเมืองตามสูตรสำเร็จ
วันเปิดสยามพารากอนยังไม่ทันหายเหนื่อย คุณพ่อเดินมาจับมือแป๋ม บอกว่าเธอกับพี่แอ๊วทำสยามพารากอนสำเร็จแล้วนะ แต่ถ้าเธอมีบุญจะได้ที่ดินริมแม่น้ำ แต่ต้องเมกชัวร์ว่าเป็นที่ดินผืนใหญ่ และอยู่ในทำเลไม่ไกล ซึ่งถ้าเธอมีบุญจริงๆขอให้ทำโครงการที่เชิดชูความเป็นไทย อย่าทำแบบสยามพารากอน เพราะวันนี้สยามพารากอนอาจชนะ แต่ในอนาคตคนจะไม่อยากไปศูนย์การค้าแล้ว สิ่งที่เธอทำคือต้องเชิดชูอัตลักษณ์ไทย ไม่ใช่สร้างศูนย์การค้า แต่ต้องสร้างความเป็นไทยสู่อนาคต ไม่ใช่ไทยแบบเอิงเอย แต่ต้องทำให้คนทั้งโลกอยากมาเที่ยว ประเทศไทย คุณพ่อแป๋มเป็นผู้ก่อตั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ท่านเชื่อว่าเราจะชนะคนทั้งโลกด้วยอัตลักษณ์ความเป็นไทย ท่านพูดเสมอว่าคนในอนาคตจะอยากเข้าพิพิธภัณฑ์ เพราะเป็นองค์ความรู้ เราต้องเอาคัลเจอร์สเปซมาอยู่ในคอมเมอร์เชียลสเปซให้ได้ ฉะนั้นควรจะสร้างพิพิธภัณฑ์ระดับโลกในโครงการด้วย
กว่าจะได้ที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาผืนใหญ่ 55 ไร่ ต้องบุกน้ำลุยไฟขนาดไหน
...
ใช้เวลาหาที่ดินผืนนี้อยู่ 8 ปี ปกติแป๋มชอบขับเรือเที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยา เคยขับผ่านที่ดินผืนนี้มาตลอด และรู้สึกถูกใจมาก แต่ได้ยินว่าเจ้าของที่ขายให้คนต่างชาติไปแล้ว อยู่มาวันหนึ่ง “คุณบี-ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์” โทร.หาแป๋ม ชักชวนว่าจะไปซื้อที่ดินผืนหนึ่งเพื่อทำคอนโดมิเนียม แต่ที่ดินผืนใหญ่มาก ทำคนเดียวไม่ไหว พี่แป๋มสนใจลงทุนร่วมกันไหม พอรู้ว่าเป็นที่ดินผืนนี้แป๋มขนลุกเลย!! แป๋มขอไปเดินเหยียบที่ดินจริง จำได้ว่าเข้าไปเป็นโกดังเก็บข้าวเก่ามากไม่มีใครอยู่เลย แป๋มพยายามไปหาศาลพระภูมิแต่หาไม่เจอ จึงกำธูป 9 ดอก เดินไปริมแม่น้ำอธิษฐานกับเจ้าที่ว่าเราอยากทำโครงการเชิดชูอัตลักษณ์ไทย อยากให้เรื่องราวของประเทศไทยไปสง่างามบนเวทีโลก ถ้าจะมีบุญได้ทำและมีคนมาช่วยทำให้สำเร็จ ก็ขอให้เจ้าของที่ดินยอมขายที่ดิน ปรากฏว่าเราสามารถซื้อที่ได้ภายในเวลาไม่ถึงเดือน พอได้ที่ดินปั๊บก็รู้เลยว่าต้องทำอะไร
“คุณแป๋ม” บอกเสมอว่า “ไอคอนสยาม” ไม่ใช่ศูนย์การค้า แล้วอภิมหาโปรเจกต์นี้คืออะไร
ไอคอนสยามคือสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เราสร้างขึ้นเพื่อเชิดชูเรื่องราวอันมีคุณค่าและเป็นความภาคภูมิใจจากทุกมิติของความเป็นไทยที่มีอยู่ในชาติ โดยหลอมรวมเป็นที่สุดของเอกลักษณ์และวิถีไทยอันสง่างาม เพื่อนำเสนอความเป็นไทยสู่เวทีโลก ไอคอนสยามรวมที่สุดของที่สุดไว้ทุกด้าน เพราะโครงการนี้จะเป็นไอคอนนิกแลนด์มาร์กใหม่ของประเทศไทย
...
อะไรคือความท้าทายที่สุดในการทำ “ไอคอนสยาม”
การสร้างสถาปัตยกรรมแห่งอนาคต ซึ่งไม่เคยทำมาก่อนในโลก โดยไอคอนสยามและไอคอนลักซ์ได้แรงบันดาลใจออกแบบจากการสักการะบูชาแม่น้ำของคนไทยด้วยกระทงและบายศรี โจทย์ใหญ่จึงอยู่ที่การทำกระจกพิเศษจับจีบซ้อนให้เหมือนกระทง โดยแป๋มอยากทำกระจกโครงสร้างไร้เสายาวที่สุดในโลก 300 เมตร เพื่อให้ได้รูปทรงกระทงแก้ว ต้องใช้เวลา 2 ปี ถึงจะหาคนสร้างได้เป็นชาวเยอรมัน ซึ่งเขาก็ไม่เคยทำมาก่อน
ความเป็นศูนย์รวมที่สุดแห่งอัตลักษณ์ไทยของ “ไอคอนสยาม” สะท้อนทางใดบ้าง
เรายกพื้นที่ 10 ไร่ บริเวณชั้น 1 สร้างเมืองมหัศจรรย์ “สุขสยาม” เพื่อรวบรวมผู้ประกอบการรายย่อย วิสาหกิจชุมชนในท้องถิ่นต่างๆ ตลอดจนศิลปินตัวจริงจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ มานำเสนอของดีประจำถิ่นและศิลปวัฒนธรรมที่เป็นความภูมิใจของไทย ทำให้โลคอลฮีโร่กลายเป็นโกลบอลฮีโร่ เราเอาดีเอ็นเอทุกอย่างของประเทศมารวมอยู่ในที่เดียวเพื่อสู้กับคนทั้งโลก แป๋มยังทำงาน
กับศิลปินท้องถิ่นทุกภาค, ศิลปินแห่งชาติ และศิลปินระดับโลก มากกว่า
100 คน เพื่อสร้างสรรค์ผลงานมาสเตอร์พีซเชิดชูอัตลักษณ์ความเป็นไทย โดยจะจัดแสดงอยู่ทั่วทุกมุมของโครงการ ทั้งรูปปั้น, ภาพเขียน, งานแกะสลัก, ประติมากรรมรูปแบบต่างๆ ตลอดจนการสร้างโคมไฟแชนเดอเลีย ที่ได้แรงบันดาลใจจากรูปแบบการร้อยมาลัยและบายศรี อัตลักษณ์ไทยเหล่านี้จะถูกเผยแพร่สู่สายตานักท่องเที่ยวที่มาเยือนไอคอนสยาม 20 ล้านคนต่อปี
...
ทำงานใหญ่ระดับชาติขนาดนี้เคยท้อไหม ทำยังไงถึงหลอมรวมใจคนได้มากขนาดนี้
ยอมรับว่าเหนื่อยเหนือบรรยาย อุปสรรคก็เกินจินตนาการ แต่ถ้าคิดว่าสิ่งที่ทำดีแล้ว ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง เราทำเพื่อคนอื่นด้วย ความสุจริตใจจะเป็นโล่ป้องกันเราจากทุกสิ่ง อยากให้ไอคอนสยามเป็นโคมไฟที่จุดแล้วสว่างไสว คนทั้งโลกมองเห็นแต่เรื่องดีๆของประเทศไทยอีกครั้ง เวลาเหนื่อยๆแป๋มจะไปยืนดูลูกค้าที่เดินเข้ามาในศูนย์การค้าของเราเพื่อเติมพลัง แป๋มถือเป็นวาสนาครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ทำโครงการนี้ มันเป็นบทเรียนชีวิตที่ยิ่งใหญ่ในการฟังคนอื่น เรียนรู้จากคนอื่น แล้วคิดต่อยอดให้กันและกัน คุณค่าของไอคอนสยามอยู่ที่การรวมพลังคนไทยทุกคน จะบอกว่าเราเก่งเราคิดได้เรามีเงิน ถึงมีเงินก็ซื้อใจคนเหล่านี้ไม่ได้ แป๋มไม่สามารถหาถ้อยคำใดที่จะขอบคุณทุกคนได้เท่ากับที่รู้สึก ไอคอนสยามสำเร็จได้ไม่ใช่เพราะแป๋ม แต่เพราะคนนับพันที่มาร่วมใจกันพยายามทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำเพื่อประเทศของเรา.
ทีมข่าวหน้าสตรี