การวิ่งกำลังเป็นเทรนด์ฮอตมาแรงของคนรักสุขภาพในปัจจุบัน ซึ่งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ระบุว่า ปัจจุบันมีคนมาวิ่งออกกำลังกายกันกว่า 12 ล้านคน และยังมีนักวิ่งหน้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกปีละกว่า 1.7 ล้านคน นับว่าเป็นเรื่องดีที่คนไทยหันมาออกกำลังกายและใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้นแต่จะวิ่งอย่างไรให้ถูกต้องและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ
ครูดิน หรือ อาจารย์สถาวร จันทร์ผ่องศรี อดีตนักวิ่งทีมชาติ กูรูด้านการวิ่ง ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการวิ่งที่ถูกต้อง และวิ่งอย่างไรให้เบิร์นไขมัน โดยเริ่มจากการระบุเป้าหมายให้ชัดเจนก่อนว่าต้องการลดเพื่ออะไร เช่น เพื่อให้หุ่นดี ซึ่งเป้าหมายนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้เราในการวิ่งให้ประสบความสำเร็จ สู้อย่างไม่ท้อถอย เพราะบางครั้งอาจเกิดภาวะโยโย่ น้ำหนักตัวอาจเพิ่มมากกว่าเดิม ลักษณะนี้เป็นเรื่องปกติ ให้เดินหน้าอย่าท้อ นอกจากนี้ ต้องหาความรู้และมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการวิ่ง บางคนใส่ เสื้อหนาๆวิ่ง เพื่อรีดน้ำ รีดไขมัน ซึ่งมันลดได้ก็จริง แต่มันเป็นเหงื่อ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ น้ำในเลือดลด เลือดข้น เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลง การวิ่ง เพื่อให้เกิดการเผาผลาญไขมันจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร และใช้ความต่อเนื่อง
ครูดิน ได้แนะเทคนิคในการวิ่งเพื่อลดไขมันคือ การวิ่งช้า โดยใช้หลักการว่า วิ่งให้อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้นเพียง 1 องศา ซึ่งจะทำให้เอนไซม์ไลเปสในตับอ่อนที่ช่วยสลายไขมันทำงานได้ดี หรือวัดจากความหนักของการวิ่งก็ได้ ร่างกายของเราจะเผาผลาญไขมันได้ดีที่สุดเมื่อวิ่งในระดับความหนัก 60-70% ของอัตราการเต้นของชีพจรสูงสุด ซึ่งคำนวณโดยใช้ 220-อายุ ส่วนวิธีเช็กสามารถดูได้จากนาฬิกาที่บอกอัตราการเต้นของชีพจร หรือฝึกจับความรู้สึกของตัวเอง แบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ เหนื่อยหอบเบาๆ, เหนื่อยหอบปานกลาง, เหนื่อยหอบหนัก และเหนื่อยแบบทนไม่ไหว การวิ่งที่ความหนัก 60-70% จะรู้สึกเหนื่อยหอบเบาๆ สามารถพูดคุยได้ตามปกติ ส่วนระยะเวลาที่เหมาะสม คือ 20 นาที เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายดึงไขมันมาใช้มากกว่าดึงน้ำตาล ถ้าวิ่งเกิน 20 นาที ร่างกายจะดึงน้ำตาลมาใช้มากกว่า แต่สำหรับบางคนที่วิ่งสม่ำเสมอจะทำให้อัตราการใช้ไขมันต่อเนื่องยาวนานขึ้นได้ สำหรับความถี่ที่เหมาะสม คือ วิ่ง 3 วัน พัก 1 วัน อย่างไรก็ตาม การวิ่งไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องการลดน้ำหนักเสียทีเดียว ควรควบคู่กับการคุมอาหาร และควรเล่นเวทเสริม เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงก็จะช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้นด้วย ท้ายสุดคือคนที่จะวิ่งเพื่อลดน้ำหนัก “อย่าหักโหม” เร่งตัวเอง คนที่จะประสบความสำเร็จคือ คนที่ไม่ท้อและเดินหน้าทำอย่างสม่ำเสมอ.
...