งานแต่งงานเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญในชีวิตของคู่บ่าวสาว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเราจะทำอย่างไร ? เกิดดราม่างานแต่งออกมาเรื่อยๆ ตามข่าวสารและโลกโซเชียลให้ได้เห็นกัน ซึ่งวันนี้มีอีกหนึ่งดราม่าเรื่องออแกไนซ์จัดงานแต่ง จากประสบการณ์จริงของคู่บ่าวสาวคู่หนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ดเพิ่งแต่งงานไปได้ไม่นาน ไทยรัฐออนไลน์ จึงได้ติดต่อไปทางเจ้าสาว ขอพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งเธอเต็มใจที่จะออกมาแชร์ประสบการณ์จริงเกี่ยวกับวันวิวาห์ให้ได้อ่านกันเป็นอุทาหรณ์...
ดราม่างานแต่งที่แชร์กระจายผ่านโลกโซเชียลจากฝ่ายเจ้าสาวโพสต์รูปและข้อความภาพงานแต่งงานตัวเองผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวแฉแหลกออแกไนซ์จัดงานห่วย งานแต่งงานเกือบพังเพราะออแกไนซ์ (อ่านโพสต์เต็ม)
...
เจ้าสาวเล่าย้อนเหตุการณ์สุดช้ำวันแต่งงาน
อ้อม - พลอยปภัส กุลนนท์เลิศสิน เจ้าสาวที่ต้องเจอกับเหตุหารณ์สุดชอกช้ำในวันแต่งงาน เล่าเหตุการณ์ว่า อ้อมได้จัดงานแต่งงานวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา ทางออแกไนซ์ได้เข้ามาจัดงานให้ในวันที่ 1 ก.ค. ประมาณช่วงสี่ทุ่ม ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็โทรสอบถามตลอดว่าเขาอยู่ไหนแล้วตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันที่ 1 ก.ค. เขาก็บอกกำลังไป หลงทางอยู่ จนสี่ทุ่มเขาก็มาถึง พอมาถึงเขาก็เริ่มดำเนินการ ซึ่งตอนนั้นอ้อมก็จะยุ่งกับงานส่วนอื่นอยู่ด้วยค่ะ เลยมาเห็นงานตอนเช้าวันงานพอดี หกโมงตอนเช้าที่เราตักบาตรอยู่เราก็เห็นบางส่วนแล้วว่างานยังทำไม่เรียบร้อย เราเห็นแล้วว่ามันเป็นยังไงแต่เราไม่ได้โวยวายอะไรกับเขา เราก็ปล่อยให้เขาทำงานไป ถึงเราจะเห็นว่างานไม่ได้เป็นไปตามที่คุยกัน เราก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเขา ซึ่งถามว่าเราเอ๊ะตั้งแต่แรกมั้ย เราก็มีรู้สึกนะคะ เราคิดว่าต้องมีปัญหาแน่นอน แต่เราก็ปล่อยให้เขาทำงานไปเพราะเรากลัวงานไม่เสร็จ
เจ้าสาวป้ายแดง ยังบอกอีกว่า เราคุยเรื่องจัดงานตั้งแต่ปลายเดือนเมษา น้องที่รู้จักกำลังจะแต่งงาน ก็แนะนำออแกไนซ์เจ้านี้ บอกคนนี้จัดสวยนะ เราก็ตามไปดูงานเขาในเฟซบุ๊กเห็นงานเขาก็โอเค ก็เลยเริ่มคุยกับเขาเรื่องราคารูปแบบต่างๆ เกือบสามเดือนที่คุยกัน เราตกลงให้เขามาดูแลเราคือประมาณต้นเดือนพฤษภาคม แพ็กเกจเขาค่อนข้างแพง ตอนแรกเราก็ปฏิเสธเจ้านี้ไปเพราะงบประมาณเราไม่ถึง เรามีงบแค่ 5-6 หมื่น เขาเลยบอกเราว่าน้องปรับขึ้นมาอีกนิดได้มั้ย ประมาณ 75,000 ก็ยังเกินงบเราก็ปฏิเสธเขาไปอีกครั้งจะไปหาเจ้าอื่นแทน เขาก็มีลูกล่อลูกชนบอกเราว่าถ้าจองไว้เดี๋ยวพี่ จะลดให้ 1 หมื่นบาท เป็น 65,000 เราก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ
หลังจากนั้นเขาก็ส่งข้อความมาถามว่าจะเอามั้ยยังไงดี เราก็ปรึกษากับแฟนเลยบอกว่าโอเคเดี๋ยวเราโอนมัดจำไปก่อน 2,000 บาทแล้วจะเข้าไปทำสัญญาที่บ้านเลยเพราะเขาไม่มีหน้าร้าน พอเราไปที่บ้านซึ่งมีอุปกรณ์ในการจัดงานแต่งเต็มไปหมด ซึ่งตอนนั้นที่เราไปบ้านเขากำลังจะไปจัดงานแต่งด้วย เราเห็นว่าหน้างานเขามีจริง เราก็ค่อนข้างมั่นใจในตัวเขาแล้ว 70% ก็เลยทำสัญญาและคุยกับเขาว่ามีงบเท่านี้ ทำอะไรได้บ้าง เราบอกว่าไม่ได้ต้องการงานหรู เราชอบเรียบๆ แต่ดูดีหน่อย เขาเสนองานเป็นแบบนี้ๆ เราก็โอเคชอบงานเขา ทำสัญญาเรียบร้อย
ทางออแกไนซ์บอกว่างานเราต้องใช้งบประมาณเยอะ ต้องสร้างโครงสร้างใหม่นู้นนี่ เราก็โอนเงินให้ซึ่งเราโอนไปแล้ว 50% และก่อนวันงานหนึ่งเดือน พอดีเขาเกิดอุบัติเหตุเราก็โทรไปถามเขาว่าไหวมั้ย จัดงานได้มั้ยถ้าไม่ได้เราจะได้ให้คนอื่นดูแล เขาบอกเราว่าพี่ทำได้แขนหักไม่ได้มือหัก เราก็เลยวางใจ เชื่อใจเขา จนกระทั่งมาถึงวันงาน งานเช้าเละแล้ว งานเย็นเละยิ่งกว่าค่ะ (หัวเราะ) ทั้งหมดเราจ่ายเขาไป 53,000 เหลืออีก 15,000 รองานเสร็จถึงจะจ่าย จริงๆ เขาขอก่อนวันงานแล้วแต่เรามองว่ายังไม่เห็นงานเลย ทำไมต้องเบิกไปทั้งหมด
...
ผิดหวังที่สุดในวันสำคัญ
"แวบแรกที่เห็นงานคือ ทำไมเป็นแบบนี้ มันผิดหวังเกือบทุกจุดเลยค่ะ แบล็กดรอปเอย เวทีเอย เรื่องเค้กด้วย เสียใจหนักมาก ซึ่งเราเพิ่มเงินไปในส่วนทางเดินไปตัดเค้กให้สวยงาม แต่สิ่งที่ได้คือโฟมอย่างที่เห็น เอาจริงๆ เราเสียใจเกือบทั้งงาน มาลัยคล้องคอบ่าวสาวยังไม่มี เราต้องให้ทางโรงแรมไปหามาให้ แต่ตอนนั้นเราก็พยายามสะกดอารมณ์ไว้ไม่ได้โวยตอนในวันงานเลย เรารอตอนงานเสร็จแล้วค่อยจัดการ"
แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า
เจ้าสาวคนสวย บอกว่า เจ้าบ่าวเป็นคนแก้ไขค่ะ เป็นคนจัดแจงให้ทางโรงแรมช่วยหามาลัยให้ จัดแจงเรื่องพรมเพราะพรมดำสกปรกมาก สั่งรื้อพรมใหม่เลย เค้กก็หาโต๊ะให้ใหม่ ซึ่งทางโรงแรมก็เป็นส่วนช่วยเหลือเราแก้ไขงานได้เยอะมากค่ะ ซึ่งวันนั้นวุ่นวายมาก กว่าเจ้าบ่าวจะได้จัดการแต่งตัวแต่งหน้าคือใกล้งานเริ่มแล้วค่ะ
...
สิ่งที่ทำหลังงานแต่งเสร็จสิ้น?
พลอยปภัส เจ้าสาวที่ต้องเผชิญเหตุการณ์ไม่คาดคิดในวันแต่งงาน บอกกับเราว่า ตอนนั้นยอมรับว่าเราไม่อยากคุยกับเขาแล้ว เราก็ไปโพสต์ข้อความทางหน้าเฟซบุ๊กของเขาเลยค่ะให้คนอื่นเห็นด้วยว่า "พี่ทำงานหนูพังนะ ทำไมพี่ทำกับหนูแบบนี้ มันเป็นวันสำคัญของอ้อมนะ" ประมาณนี้ค่ะ เขาเห็นก็รีบลบข้อความของเรา แล้วก็ทักอินบ็อกมาว่า ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจ เขาถามว่าพี่ต้องทำยังไงต่อ พี่ยังได้เงินส่วนต่างมั้ย เราก็บอกว่านอกจากพี่ไม่ได้เงินที่เหลือแล้วพี่ต้องคืนเงินอ้อมด้วย เขาก็ถามอีกว่าพี่ต้องคืนเท่าไหร่ เราก็บอกน่าจะเยอะอยู่นะเพราะงานพี่ไม่มีอะไรเลย เขาบอกว่าถ้าเยอะพี่คงไม่มีเงินจ่ายหรอก พี่ไม่มีเงินก้อน เราก็เลยบอกไปแข็งๆ เลยว่า ถ้าพี่บอกว่าไม่มีไม่ได้นะ ตอนพี่บอกให้อ้อมโอน อ้อมก็รีบโอนทำตามขั้นตอนทุกอย่าง
...
พอคุยไปเขาก็เริ่มเงียบแล้ว เราถามเขาว่าคืนได้วันไหนเราให้เวลาถึงวันที่ 12 ก.ค. ซึ่งเราไม่ได้ขอคืนทั้งหมด หักให้เขาในกรณีที่เขาขนของมา 12,000 เราก็คำนวณราคาจากสิ่งที่เห็น ซึ่งแฟนเรายังบอกว่าไม่น่าจะให้ถึงขนาดนั้นเพราะงานแย่มาก เอาจริงๆ เราก็สงสารเขาแต่ก็สงสารตัวเองด้วย สรุปแล้วเราให้เขาคืนเงินมา 41,000 เขาก็บอกว่าไม่มี ต้องไปผ่าตัดเอาเหล็กออกนู้นนี่ เราก็บอกไปว่างั้นคืนเงินวันที่ 14 ก.ค. แล้วกัน เขาก็ไม่โต้ตอบอะไรนะคะเงียบไป เราก็เลยไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก พูดถึงเหตุการณ์นี้เป็นยังไง เขาก็รีบอินบ็อกมาเลยค่ะ ไม่ใช่ว่าไม่จ่ายแต่ขอเวลาได้มั้ย 14 ก.ค. พี่รับทราบแล้ว เราก็คิดว่าก็วันนั้นเห็นนิ่งไม่ได้มาบอกรับทราบอะไร แต่เราก็บอกโอเค 14 ก.ค. คืนเงินนะคะ อ้อมไม่ลบโพสต์นะคะจนกว่าจะได้เงิน
พอมาถึงวันที่ 14 เขาก็เงียบไปอีก เราก็เลยให้แฟนโทรไปคุย เขาก็บอกยังไม่มีเงินมาคืน นู้นนี่ แฟนก็เลยบอกว่าไม่มีไม่ได้หรอกเราคุยกันแล้ว เขาก็เงียบไปไม่โทรกลับมา เราก็โพสต์ลงเฟซบุ๊กอีกครั้ง หลังจากนั้นเพจร้อยเอ็ด กับพี่บุ๋ม ปนัดดา ก็เอาไปลงข่าวก็เลยค่อนข้างกระจายในโลกโซเชียล
ความคืบหน้าจากออแกไนซ์ต้นเรื่อง
เจ้าสาวหมาดๆ บอกด้วยความเสียใจว่า เขาเห็นเราลงในเฟซบุ๊กแรงๆ เลยบอกว่า ทำไมบอกว่าพี่ไม่รับผิดชอบ เราก็เลยบอกว่าก็เห็นพี่เงียบไป เขาเลยบอกว่าเงียบไปเพราะทานยานอน เราเบื่อคำแก้ตัวเขามาก เรานัดเขามาที่ไหนเขาก็ไม่มา เขาไม่กล้ามาเก็บของหรือมาเจอหน้าเราเลยค่ะ ก็เลยนัดแบบเจอกันมีลายลักษณ์อักษรว่าจะเอายังไงดี เรานัดที่โรงพักเย็นเมื่อวานค่ะ (18 ก.ค.) แต่เขาก็ไม่ได้มาตามนัด เราโทรไปตามเขาให้ใครสักคนรับสายแจ้งว่าไม่มา ให้เจอที่ชั้นศาลได้เลย เพราะเขาแจ้งว่าเราไม่มีสิทธิ์ประจานเขา แล้วก็ตัดสายไปเลยค่ะ สรุปตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าค่ะ
ฝากถึงคนจัดงานแต่ง หรือคู่บ่าวสาวที่กำลังจะจัดงานวิวาห์
เจ้าสาวป้ายแดง ทิ้งท้ายฝากถึงคนจัดงานออแกไนซ์ทั้งหลายว่าควรที่จะมีจรรยาบรรณในการจัดงาน คุณจะรับงานนี้ได้ในราคาเท่าไหร่ รับได้มั้ย ทำงานให้กับลูกค้าได้ไม่ได้ควรจะคุยกับลูกค้าก่อน อ้อมคิดว่าคู่บ่าวสาวก็คงเข้าใจถ้ามีการคุยก่อนเพราะเขาก็อยากให้มีงานดีๆ ออกมา ส่วนด้านคู่ที่กำลังจะแต่งงานก็อยากให้ศึกษาให้ดีก่อนว่าจะจ้างเจ้าไหน ออแกไนซ์ไหนเป็นยังไง เป็นร้านที่น่าเชื่อถือมั้ย คือมันต้องมีการสอบถามคนที่เคยใช้บริการนู่นนี่ ซึ่งเราอาจจะยังไม่รู้เลยว่าสถานะการเงินของร้านนั้นว่าเป็นยังไงถ้าหากว่าเราไม่ศึกษาก่อน ส่วนตัวเรายอมรับว่าศึกษาน้อย แต่เรารอบคอบชัดเจนที่สุดแล้ว เรามีแม้กระทั่งสัญญาจ้าง เรามั่นใจว่าเราไม่ได้ผิดในเรื่องนี้เรามีสัญญาว่าจ้างเท่าไหร่ มีรูปแบบงานชัดเจนในสัญญา ซึ่งมันสวนทางกับที่ออกมาทั้งหมด ถ้าสวนทางแล้วออกมาดีเราจะไม่ว่าแต่นี่ยังไม่ถึง 20% ที่เขาทำเลย เราเสียใจมากๆค่ะ