ถ้าตัวเราสกปรก เราต้องไปอาบน้ำให้ร่างกายสะอาดหมดจด แล้วห้องอาบน้ำล่ะคะ เขาเคยอาบน้ำ ได้รับการทำความสะอาดอย่างดีหรือเปล่า อย่าละเลยเพิกเฉยต่อคราบสะสมเชียวนะคะ ไม่ว่าจะเป็นคราบสบู่ตามผนัง บนเพดาน หรือจะเป็นพื้นที่เล็กๆ ตามซอกยาแนวกระเบื้องที่พื้น เนื่องจากห้องอาบน้ำเป็นบริเวณที่เกิดเชื้อราได้ง่ายมาก เพราะมี อุณหภูมิ ความชื้น และสารอาหารที่เจ้าพวกเชื้อราชอบ หากเผลอละเลยแค่นิดเดียวรับรองโดนเชื้อราบุกแน่ เราจึงขอจูงมือ คุณไปชี้เป้าแหล่งพักพิงของเชื้อรา พร้อมวิธีทำความสะอาดห้องอาบน้ำแบบง่ายๆ ชนิดที่เหนื่อยน้อยแต่สะอาดนานกันค่ะ
คราบสกปรกเกิดขึ้นได้อย่างไร
บริเวณ ผนังอ่างอาบน้ำ
น้ำสบู่หรือฟองสบู่จากการอาบน้ำ กระเด็นมาโดน
แคลเซียมและแมกนีเซียมในน้ำ รวมตัวกันกับไขสบู่
กลายเป็นคราบสีขาว ๆ ติดอยู่ตามผนังห้องอาบน้ำ
หากไม่รีบทำความสะอาด ปล่อยทิ้งไว้จนแห้ง คราบจะยิ่งฝังแน่น

บริเวณ เพดาน
ฝุ่นจากการเปิดประตูเข้า – ออก ลอยไปติดบนเพดาน
...
เมื่อฝุ่นและคราบไคลที่สะสมอยู่บน เพดานได้รับความชื้นเพิ่มขึ้น บวกกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นจากการ อาบน้ำ ทำให้คราบกลายเป็นเชื้อรา

บริเวณ ยาแนวกระเบื้อง
ไขสบู่และคราบไคลจากการอาบน้ำ เกาะติดบริเวณกระเบื้องและยาแนว เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นดีของ สปอร์เชื้อราเลยละค่ะ
อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นระหว่างการอาบน้ำ ในแต่ละครั้งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด เชื้อราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็น คราบราสีดำเกาะติดบริเวณยาแนว

อุปกรณ์และสารชะล้าง

ผ้าขี้ริ้ว - เบกกิ้งโซดา - ไม้ดันฝุ่น - น้ำยาทำความสะอาด และน้ำยาล้างห้องน้ำ - แปรงสีฟันเก่า - แปรงขัดห้องน้ำ - ฟองน้ำ
พร้อมแล้วก็มาทำความสะอาดกันเถอะ

บริเวณเพดานห้องน้ำให้ใช้ไม้ดันฝุ่น หุ้มผ้าขี้ริ้วเช็ดคราบ หากเป็น คราบฝังแน่น ให้ใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ ผสมน้ำเปล่าเจือจางเช็ดคราบออก
...
บริเวณผนังและพื้นให้เปิดน้ำอุ่น จากฝักบัวแล้วล้างคราบสกปรก ออกด้วยฟองน้ำ เมื่อขัดเสร็จแล้ว ราดด้วยน้ำเย็นซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้ อุณหภูมิลดลงเป็นการช่วยป้องกันเชื้อรา
บริเวณพื้นกระเบื้อง เทน้ำยา ทำความสะอาดลงบนพื้นแล้วใช้แปรง ขัดห้องน้ำขัด ตามซอกยาแนว ให้ใช้แปรงสีฟันเก่าขัด ทำความสะอาด

หากคราบบริเวณผนังเริ่มฝังแน่น ให้ใช้เบกกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 1 ลิตร ฉีดลงบนผนัง
ขัดซ้ำด้วยฟองน้ำอีกครั้ง เพียงเท่านี้ถึงคราบสกปรกที่ติดอยู่ จะฝังแน่นขนาดไหนก็หลุดออก ได้อย่างง่ายดายไม่เปลืองแรงเลย