แอร์ (Air Conditioner) เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อปรับอุณหภูมิภายในห้อง ให้มีความเย็นตามที่ต้องการ โดยแอร์ในสมัยนี้ก็มีอยู่หลายรูปแบบ ช่วยให้ประเทศในแถบเขตร้อนอย่างบ้านเราได้รับความเย็นสบายขึ้นได้ วันนี้ไทยรัฐออนไลน์พามาดู แอร์ยี่ห้อไหนดีประหยัดไฟ 2566 

เลือกแอร์แบบไหนประหยัดไฟได้จริง ?

การเลือกแอร์ประหยัดไฟ 2566 ที่จะลดการใช้พลังงาน และมีราคาที่จับต้องได้ สามารถพิจารณาได้จากหลายองค์ประกอบ โดยอาจดูจากแอร์ที่ผ่านมาตรฐานฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือเลือกแอร์ที่ทำงานด้วยระบบ INVERTER ก่อนในเบื้องต้นก็ได้

นอกจากนั้นการเลือกแอร์ ที่มีขนาดเหมาะสมกับความกว้างของห้อง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการเลือกแอร์ให้ประหยัดไฟ และยังประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย ซึ่งราคาก็จะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์ รวมถึงขนาด BTU ที่ต่างกันด้วย

14 แอร์ยี่ห้อไหนดี 2566 ประหยัดไฟหายห่วง

แอร์ถือเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งตัวเลขของจำนวนของพลังงานที่ใช้ ว่าจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับชนิดของแอร์ ขนาด BTU และอีกหลายปัจจัย ซึ่งสมัยนี้ก็ได้มีผู้ผลิตพัฒนาแอร์ยี่ห้อไหนดี 2566 ที่เป็นส่วนหนึ่งเพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน และประหยัดค่าไฟที่ผู้ใช้งานต้องแบกรับกันเอาไว้มากขึ้น

ใครที่กำลังมองหาแอร์ยี่ห้อไหนดี 2566 ที่ประหยัดไฟ เพื่อมาเป็นตัวช่วยดับร้อน ไทยรัฐออนไลน์ก็ได้รวบรวมตัวเลือกทั้ง 15 ยี่ห้อเอาไว้ให้แล้ว

...

แอร์ยี่ห้อไหนดี 2566 ตัวใหม่ล่าสุดในขณะนี้ จาก Daikin มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 9,200 BTU/h ไปจนถึง 20,500 BTU/h ส่งความเย็นสดชื่นรวดเร็ว หลังเปิดใช้งานภายใน 1 นาที ด้วยระบบ POWERFUL MODE ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี AIR QUALITY FILTER ช่วยลดกลิ่นอับและเชื้อรา ป้องกันฝุ่น PM 2.5 โ

ราคา : 11,999 - 34,999 บาท

แอร์ราคาถูกประหยัดพลังงาน จากแบรนด์ Hisense รุ่น CD Series สามารถทำความเย็นได้ แม้อุณหภูมิภายนอกจะสูงเกิน 50 องศาเซลเซียส เนื่องจากมีการทำงานแบบ lSuper Cooling มีความทนทานใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น และมีคุณสมบัติถ่ายเทความเย็นได้ดีด้วย 100% Copper Pipe (คอยล์เย็นที่ผลิตจากทองแดงแท้) ผ่านมาตรฐานฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5

ราคา : 8,990 - 16,890 บาท

SAMSUNG หนึ่งในแอร์ยี่ห้อไหนดี 2566 ที่มีความสามารถในการดับร้อน และยังช่วยประหยัดค่าไฟ ให้กับผู้ใช้งานได้อีกทางหนึ่ง เนื่องจากทำงานด้วยเทคโนโลยี Digital Inverter Boost ประหยัดพลังงานได้ถึง 73% พร้อมฟังก์ชัน Air Direction Control ควบคุมการปล่อยลมอัตโนมัติในทุกทิศทาง ช่วยให้สามารถส่งความเย็นได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น

ราคา : 17,490 - 32,190 บาท

...

TOSHIBA รุ่น GEN-Z R32 เป็นหนึ่งในแอร์ประหยัดไฟ 2023 ระบบ INVERTER ที่เหมาะกับการใช้งาน เพื่อเพิ่มความเย็นสบายสดชื่น ในช่วงที่อากาศร้อนแบบสุดๆ อย่างบ้านเรา นอกจากนั้นยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจ คือ มีกล่องป้องกันแผงวงจร ลดปัญหาสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเข้าไปติดหรือทำรัง ตลอดจนสะสมสิ่งสกปรกต่างๆ อยู่ภายในตัวเครื่อง

ราคา : 10,999 - 32,999 บาท

แอร์ยี่ห้อไหนดี 2566 จาก SHARP รุ่นนี้ สามารถสร้างความเย็นแบบประหยัดพลังงาน ด้วยระบบการทำงานแบบ INVERTER ควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ตลอดการใช้งาน มีขนาดอยู่ที่ 12,000 BTU ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมกับห้องที่ไม่กว้างมากนัก มาพร้อมกับโหมด Super Jet ช่วยกระจายลมเย็น เพื่อลดอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียง 5 นาที

ราคา : 9,990 บาท

...

ใครที่กำลังมองหา แอร์ผ่อน 0% 10 เดือน (รายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาสอบถามก่อนสั่งซื้อ) แบรนด์ Haier ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก โดยในรุ่นนี้มีความสามารถในการประหยัดไฟ ด้วยระบบ PID Inverter และ ECO Mode ซึ่งประหยัดไฟได้สูงถึง 60% ทั้งยังเร่งความเย็นให้เร็วขึ้น ด้วยการเปิดใช้งานโหมด Turbo Cool ได้อีกด้วย

ราคา : 10,380 - 21,400 บาท

...

แอร์ยี่ห้อไหนดี 2566 จากแบรนด์ Hitachi ช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 93% ด้วยระบบ Frost Wash และยังมีระบบการทำงานอื่นๆ ซึ่งช่วยตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น Air Sleep Timer และ Auto Restart เป็นต้น

ราคา : 12,990 บาท

แอร์ LG Jet Cool รุ่น NCL หนึ่งในแอร์ยี่ห้อไหนดีประหยัดไฟ 2566 ช่วยเพิ่มความเย็นอย่างรวดเร็วทันใจ สู้ความร้อนจากอากาศภายนอก หลังเปิดใช้งานด้วยเมนู Jet Mode ไม่ว่าจะนั่งอยู่มุมไหนของห้อง ก็ได้รับความเย็นทั่วถึงด้วยโหมด Auto Swing เพิ่มความมั่นใจในการใช้งานด้วย Volt Care แผงวงจรแบบ PCB ป้องกันตัวเครื่องเมื่อเกิดไฟตก หรือไฟกระชาก

ราคา : 9,469 - 21,990 บาท

แอร์ยี่ห้อไหนดี 2566 จาก CENTRAL AIR เป็นแอร์ติดผนัง ซึ่งสามารถเลือกขนาด BTU ได้ตามความเหมาะสมของขนาดห้อง ตัวเครื่องทำงานด้วยแผงคอยล์เย็นและคอยล์ร้อนแบบ Golden Fin ซึ่งช่วยให้ระบายความร้อนได้ดี และลดการกัดกร่อนได้อีกด้วย ใช้งานโดยไม่ต้องกังวลถึงความอับชื้น และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ด้วยแผ่นกรอง Activated Carbon Filter

ราคา : 9,999 - 25,999 บาท

แอร์ยี่ห้อไหนดี 2566 SAIJO DENKI 2566 ทำงานด้วยแผงคอยล์ขนาดใหญ่ ส่งผลให้ระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้น มีการใช้สารเคลือบที่ทนต่อการกัดกร่อนของไอเกลือได้มากถึง 700 ชั่วโมง พัฒนาประสิทธิภาพของตัวมอเตอร์ ให้สูงขึ้นด้วยการใช้มอเตอร์ BLDC และรองรับการใช้งานในโหมดเงียบ เพื่อลดการรบกวน

ราคา : 9,399 - 24,999 บาท

แอร์ยี่ห้อไหนดี 2566 จากแบรนด์ TCL ขนาด 12,000 BTU เหมาะกับการใช้งานภายในห้องขนาด 14-18 ตารางเมตร เป็นแอร์ระบบ Smart Inverter ตัวช่วยประหยัดพลังงานสูงสุดถึง 60% หมดห่วงเรื่องสิ่งสกปรก ที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศด้วย Healthy Filter Pure Air & Healthy Life (แผ่นกรองป้องกันมลพิษ)

ราคา : 29,980 บาท

แอร์ยี่ห้อไหนดีประหยัดไฟ 2566 จาก Midea (AE PRO series) มีให้เลือกหลายรุ่น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานตามความต้องการที่หลากหลาย เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในช่วงอากาศร้อนที่ประหยัดค่าไฟได้จริง ด้วย Easy Save- XTreme Save Technology ทั้งยังการันตีด้วยมาตรฐานฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ในระดับ 3 ดาว (ระดับสูงสุด)

ราคา : 13,490 - 39,990 บาท

แอร์ CANDY รุ่น N-Series มีให้เลือกใช้ได้สูงสุดอยู่ที่ 18,000 BTU ทั้งยังมีระบบป้องกันความเสียหายของตัวเครื่อง ที่อาจจะเกิดจากปัจจัยทางธรรมชาติ หรือการทำงานผิดพลาดของแรงดันไฟฟ้า ด้วย Quadruple Protection PCB ลดการสะสมของเชื้อโรคและสิ่งสกปรก ด้วยโหมดการทำความสะอาดตัวเอง

ราคา : 8,790 - 14,990 บาท

อีกหนึ่งตัวเลือกของแอร์ผ่อน 0% 10 เดือน เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ไม่สะดวกจ่ายเงินก้อน โดยแอร์จากแบรนด์ GREE ถูกออกแบบมาให้ถอดล้างทำความสะอาดง่าย ไม่ต้องง้อช่าง พร้อมระบบ Auto Cleaning (X-Fan) ป้องกันการเกิดเชื้อรา มั่นใจในการใช้งานด้วยแผ่นกรอง Multi-Function Filter คุณภาพสูงจากสารเคลือบถึง 6 ชนิด

ราคา : 9,900 - 21,500 บาท

ค่า BTU ของแอร์คืออะไร 

BTU (British Thermal Unit) คือ หน่วยวัดพลังงานความร้อน ซึ่งเป็นมาตรฐานในระดับสากล โดยข้อมูลเหล่านี้จะเป็นตัวบอกว่าแอร์เครื่องนั้น มีความสามารถในการถ่ายเทความร้อน (เพื่อทำความเย็น) ได้ดีขนาดไหนภายในเวลา 1 ชั่วโมง

(1 BTU = ปริมาณความร้อนที่ทำให้น้ำ 1 ปอนด์ มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นหรือลดลง 1 องศาฟาเรนไฮต์)

ตัวเลขของ BTU ที่เห็นได้ทั่วไป จึงสามารถช่วยให้คำนวนคร่าวๆ ได้ว่าขนาดของแอร์ยี่ห้อไหนดี 2566 ที่เลือกนั้น เหมาะสมกับการใช้งาน หรือขนาดของห้องประมาณเท่าไร ซึ่งยิ่งมีค่า BTU สูง ก็เท่ากับว่าแอร์เครื่องนั้นมีความสามารถในการทำความเย็นได้ดี เพราะฉะนั้นก่อนการเลือกซื้อแอร์ ควรพิจารณาค่า BTU ให้สัมพันธ์กับขนาดของห้อง เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธภาพมากขึ้นด้วยนั่นเอง

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง :