การรีโนเวตห้องใหม่เพียงเล็กน้อย หรือการออกแบบที่อยู่อาศัยใหม่ทั้งหลัง จำเป็นต้องคำนึงถึงการใช้งานบนพื้นที่ใช้สอยที่จำกัด หนึ่งในนั้นก็คือการเลือกกระเบื้องปูพื้นที่สวยและทำความสะอาดง่าย จึงเป็นที่มาว่าทำไมคนแต่งบ้านชอบเปลี่ยนมาใช้กระเบื้องยางปูพื้น
พื้นฐานการสร้างบ้านของคนไทยตั้งแต่เดิมใช้วัสดุทำจากไม้ แต่การดูแลรักษาไม้นั้นมีข้อจำกัด โดยเฉพาะการนำไม้มาปูพื้นหากเกิดรอยขีดข่วนจะทำให้พื้นผิวเป็นรอยไม่สวยงาม และทำให้ผู้อยู่อาศัยเดินไม่สะดวก ปัจจุบันเมื่อมีการคิดค้นการใช้พอลิเมอร์มาทำเป็นวัสดุแต่งบ้าน จึงมีการออกแบบลายกระเบื้องยางให้เหมือนไม้ เพื่อคงบรรยากาศแบบเดิม แต่ดูแลรักษาง่ายขึ้น
ผู้ที่เลือกใช้กระเบื้องยางคือผู้ที่ต้องการความสะดวก และย่นระยะเวลาเปิดใช้พื้นที่หน้างาน การปูกระเบื้องยางจะไม่ทำให้เกิดฝุ่น ซึ่งปัญหาฝุ่นนี้พบในการติดตั้งกระเบื้องเซรามิก กระเบื้องแกรนิต เนื่องจากต้องผสมปูนกาวซีเมนต์
กระเบื้องยาง กับ กระเบื้องยางไวนิล แตกต่างกันอย่างไร
กระเบื้องยางและกระเบื้องยางไวนิลทำมาจากวัสดุเดียวกันคือยางพารา แต่กระเบื้องยางไวนิลเป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนามาจากกระเบื้องยางแบบเดิม โดยเคลือบสารเคลือบผิวไว้หลายชั้น เพื่อป้องกันการขีดข่วน และสร้างความทนทานให้กับกระเบื้องมากขึ้น สรุปแล้วกระเบื้องทั้งสองชื่อนี้คือกระเบื้องประเภทเดียวกัน แต่มีรายละเอียดต่างกันนิดหน่อย ดังนี้
...
- กระเบื้องยาง นำมาประยุกต์ใช้ปูผนัง จึงมีสีสันให้เลือกเยอะกว่าและไม่มีสารเคลือบผิวป้องกันรอยถลอกจากการใช้งานเหมือนกระเบื้องยางไวนิล จึงมีราคาถูกกว่า
- กระเบื้องยางไวนิลมักออกแบบมาให้ประกอบด้วยคลิกล็อก เพราะจะมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น เนื่องจากการติดตั้งด้วยกาวจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าอายุการใช้งานของกระเบื้อง
- กระเบื้องยางไวนิล มักใส่สารที่เพิ่มความแข็งแรงทนทานไว้เยอะกว่ากระเบื้องยางธรรมดา เช่น สารดูดซับกลิ่น, สารเพิ่มคุณสมบัติป้องกันเชื้อรา
- กระเบื้องยางไวนิลมักทำมาจากยางที่เติมคุณสมบัติป้องกันการหดตัวระหว่างติดตั้ง และใช้งาน
- กระเบื้องไวนิลอาจเติมความพิเศษของสารเคลือบผิวหน้าเพื่อป้องกันการลื่น หรือป้องกันแสงยูวีทำลายสีกระเบื้อง
สรุปคือ กระเบื้องยางไวนิล มีการเติมสารเคมีเพิ่มคุณสมบัติของยางไปเยอะกว่า หากคุณต้องการกระเบื้องยางที่มีคุณสมบัติหลายอย่างก็เลือกเป็นกระเบื้องยางไวนิล แต่หากต้องการติดตั้งกระเบื้องยางสำหรับพื้นที่ใช้สอยทั่วไปในระยะสั้นก็เลือกเป็นกระเบื้องยางธรรมดาได้คุ้มค่ากับการใช้งาน
การเลือกใช้งานกระเบื้องยางและกระเบื้องยางไวนิล มีดังนี้
1. พื้นที่หน้างานมีเท่าไร
2. โทนสีของกระเบื้องยางที่ต้องการเป็นอย่างไร
3. การใช้งานของพื้นที่ ต้องการพื้นที่แข็งแรงแค่ไหน
4. มีงบประมาณสำหรับติดตั้งกระเบื้องเท่าไร
5. ต้องการอายุการใช้งานนานแค่ไหน
ปัจจัยที่มีผลต่ออายุการใช้งานของกระเบื้องยาง คือ กาวปูกระเบื้องยาง ซึ่งตัวกระเบื้องยางเองมีอายุการใช้งาน 10 ปีขึ้นไป แต่ตัวกาวมีอายุราว 5 ปี จึงทำให้ต้องปูทับใหม่ หรือเลือกเป็นกระเบื้องยางที่ประกอบด้วยการล็อก
กระเบื้องยางมีลายอะไรบ้าง
ด้วยคุณสมบัติที่ติดตั้งง่าย จึงมักมีผู้นำกระเบื้องยางมาใช้กับงานปูพื้นและปูผนัง ทางผู้ผลิตจึงได้ออกแบบลายกระเบื้องยางที่ตอบโจทย์ดีไซน์ของการตกแต่งประเภทต่าง ๆ โดยกระเบื้องยางมีลวดลายที่นิยม ดังนี้
- กระเบื้องยางลายไม้
- กระเบื้องยางลายหินอ่อน
- กระเบื้องยางลายหินขัด
- กระเบื้องยางลายหินธรรมชาติ
- กระเบื้องยางลายปูนเปลือย
- กระเบื้องยางลายปูนขัดมัน
- กระเบื้องยางลายอิฐ
กระเบื้องยางกับกระเบื้องยางไวนิลราคาต่างกันไหม
สิ่งที่ทำให้ราคาของกระเบื้องยางและกระเบื้องยางไวนิลต่างกันคือ “สี” และ “คลิกล็อก” สองอย่างนี้จะทำให้กระเบื้องยางประเภทนั้นมีราคาสูงขึ้น เพราะทำยากขึ้นและใช้เทคนิคประกอบมากขึ้น
- กระเบื้องยางสีที่เป็นความต้องการตลาด มีการผลิตออกมามากราคาก็จะถูกกว่า สีที่นิยม ได้แก่ กระเบื้องยางสีไม้อ่อน, กระเบื้องยางลายอิฐ, กระเบื้องยางลายหินอ่อน
- กระเบื้องยางแบบประกอบตัวล็อก จะมีราคาสูงกว่า เพราะช่างต้องใช้อุปกรณ์มาช่วยตัดให้พอดี เนื่องจากเนื้อวัสดุหนากว่ากระเบื้องยางทั่วไป
- และสีสั่งผลิตเพิ่มเติมก็จะทำให้กระเบื้องยางแต่ละแบบมีราคาสูงขึ้น
วิธีติดตั้งกระเบื้องยาง
...
1. ทำความสะอาดพื้นที่หน้างานไม่ให้มีเศษปูน เศษฝุ่น และต้องทำผิวให้เรียบ เพื่อไม่ให้กระเบื้องยางนูนขึ้นมาไม่เสมอกัน
2. ปูแผ่นเต็มในบริเวณที่เห็นชัดเพื่อความสวยงาม และแผ่นที่ไม่เต็มส่วนแล้วต้องโดนตัดจะนำไว้บริเวณมุมห้อง
3. เว้นระยะบัวหน้าไว้ประมาณ 1 - 1.50 cm. เผื่อการหดตัวขยายตัว
4. วางแผ่นกระเบื้องยางทีละแผ่น บริเวณที่ตัดได้ไม่เต็มแผ่นใช้อุปกรณ์ตัดแผ่นกระเบื้องช่วย
5. เก็บมุมลงบัวด้วยซิลิโคนยาแนว
ระหว่างปู ช่างจะตรวจสอบการประกอบกระเบื้องทีละแผ่น จึงเป็นงานที่ใช้เวลาและฝีมือที่ละเอียดอ่อน ข้อดีของการปูพื้นด้วยกระเบื้องยางคือพื้นที่ติดตั้งจะไม่มีฝุ่นฟุ้งกระจาย ไม่มีกลิ่นกาว พื้นไม่บวม จึงพร้อมเปิดพื้นที่ใช้งาน นิยมใช้กับ ห้องเด็ก ห้องผู้สูงอายุ คลินิก โรงพยาบาล ห้องนอน และพื้นที่อยู่อาศัยทั่วไป
ระหว่างติดตั้งหากมีเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่สามารถขนย้ายออกจากห้องไปได้ ก็สามารถเคลื่อนย้ายมาไว้บริเวณที่ปูพื้นเสร็จแล้วทีละส่วนได้ ไม่ต้องรอกาวแห้งนานเหมือนกับการปูกระเบื้องเซรามิก การปูกระเบื้องยางจึงเป็นที่นิยมเพราะสะดวก และหาซื้อวัสดุง่าย ติดตั้งได้ด้วยตัวเองได้อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม
...