ศาสตราจารย์ Luc montagnier (ได้รับรางวัลโนเบลในการพบไวรัสเอชไอวี) และคณะรายงานผู้ป่วย 26 ราย ที่มีอาการแบบผิดแผก แตกต่างจากโรค CJD ทั่วไป ที่ปกติแล้วเจอได้หนึ่งในล้านคนโดยที่เกิดอาการของโรคโดยเฉลี่ย 11.38 วันหลังจากได้รับวัคซีนไฟเซอร์ โดยมี 2 รายได้ โมเดอร์นา และ 3 ราย แอสตราฯ 20 ราย มีชีวิตอยู่ได้เฉลี่ย 4.76 เดือน หลังจากได้รับวัคซีนและแปดรายภายใน 2.5 เดือน อีกหกรายที่เหลือที่ยังมีชีวิตก่อนเปิดเผยรายงานนี้ก่อนตีพิมพ์ ในกุมภาพันธ์ 2022 และการติดตามต่อมา อีกห้าราย ตายในเดือนสิงหาคม 2022

การวินิจฉัยรัดกุม ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของอาการที่เกิดจนกระทั่งภาพคอมพิวเตอร์สนามแม่เหล็กไฟฟ้าของสมอง รวมทั้งการตรวจด้วยเวชศาสตร์นิวเคลียร์ PET scan รวมทั้งการตรวจน้ำไขสันหลัง และลักษณะผิดปกติของคลื่นสมองแบบจำเพาะของโรคนี้

อนึ่ง ไม่สามารถตรวจศพและสมองได้ เนื่องจากมีความหวั่นเกรง การติดเชื้อจากเนื้อสมองและไขสันหลังรวมทั้งอวัยวะภายในบางส่วน รายละเอียดฉบับเต็มสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ในวารสาร ข้อมูลของผู้ป่วย การดำเนินโรคที่รวดเร็วผิดปกติ ในรายงานยังได้ทำการวิเคราะห์ ลักษณะที่เรียกว่า “glycine zipper motif” GxxxG ที่มีส่วนสำคัญที่เอื้ออำนวยการเกิดโรคและกรดอมิโน Y Q N G ที่เป็นตัวแปรที่สำคัญ และทำการวิเคราะห์โดยใช้ PLAAC software ในส่วนรหัสกรดอมิโนที่เอื้ออำนวยการเกิดพรีออน (Prion) และใช้ Master Code of DNA ในการทดสอบ และยืนยันหน้าที่ของโปรตีน พรีออน ที่ผิดปกติ

...

แต่เรื่องของวัคซีนโควิดนี้ ถือเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ และเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นรวดเร็ว รุนแรงและเสียชีวิตทั้งหมดเช่นกัน

ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเกิดโรคคูรู CJD วัวบ้า จนกระทั่งติดต่อถึงมนุษย์ โดยมีลักษณะพิเศษ เรียกเป็น variant CJD และการปนเปื้อนในเนื้อเยื่อที่มาเปลี่ยนถ่ายให้มนุษย์จนกระทั่งถึงการใช้ฮอร์โมนที่สกัดจากศพและการปนเปื้อนในเครื่องมือแพทย์ในการผ่าตัด...หมอได้มีโอกาสเรียนกับผู้ที่ทำเรื่องนี้คือศาสตราจารย์ นพ.ริชาร์ด จอห์นสัน (Richard T Johnson) และยังได้พบกับเพื่อนสนิทท่าน ดร.คาร์ลีตัน การซ์ดูเซก (Carleton Gajdusek) ที่ได้รับรางวัลโนเบล จากการค้นพบโรคคูรู (Kuru) และพิสูจน์ว่าสามารถติดต่อได้ในลิง

คูรู เป็นชื่อโรคและตามภาษาพื้นเมืองของชนเผ่าโฟร์ ปาปัวนิวกินี หมายถึงอาการสั่นสะท้านจากไข้หรือหนาว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอาการของผู้ป่วยที่มีอาการสั่นกระตุกเกร็ง การทรงตัวผิดปกติ ไม่สามารถก้าวเดินด้วยตัวเองได้จนกระทั่งในที่สุดนอนติดเตียงและมีอาการควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เช่น หัวเราะหยุดไม่ได้ (pseudubulbar palsy) และมีบันทึกก่อนหน้านี้ตั้งแต่ประมาณปี 1900 ในพื้นที่ต่างๆที่อยู่ไม่ห่างไกลกันนัก จนกระทั่งมากระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

จากรายงานของ ดร.Gajdusek และ Zigas ในปี 1957 เป็นการค้นพบที่สำคัญและพิสูจน์ในระยะต่อมาว่าสามารถติดต่อได้ ทั้งนี้เนื่องด้วยจากประเพณีของการกินศพแทบทุกส่วนยกเว้นถุงน้ำดี (นัยว่ามีรสชาติขมเกินไป) ของญาติมิตรที่เสียชีวิต (Endocannibalism) ซึ่งแตกต่างจากการกินศพของศัตรู (exocannibalism) ทั้งนี้ ผู้หญิงและเด็กจะเป็นผู้ปฏิบัติการโดยการตัดมือและเท้าออก หลังจากนั้นจะทำการเลาะเปิดกล้ามเนื้อ และต่อมาทำการเปิดกะโหลกเพื่อเก็บเนื้อสมอง ดังนั้นเนื้อ เครื่องในและสมองจะถูกเก็บกินหมดรวมกระทั่งถึงไขกระดูก จะถูกดูดออกมากิน ส่วนตัวกระดูกนั้นบางครั้งเอามาป่น และต้มกินกับผัก

...มีการพยายามสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการเกิดโรคตั้งแต่ปี 1951 และในท้ายสุด ดร.Gajdusek สรุปว่า การติดเชื้อสามารถผ่านได้จากการที่เนื้อสมองปะปนเข้าทางเยื่อบุตา ผิวหนังที่มีแผลและการกิน และปรากฏในบทหนึ่งของตำราไวรัสวิทยาที่ ดร.Gajdusek เขียนเกี่ยวกับเรื่องคูรูในเวลาต่อมา

ในระยะแรกนั้นคณะผู้ทำงานทั้งหมดยังคงเชื่อว่าเกิดขึ้นจากไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคช้าๆ (slow virus) แต่น่าประหลาดตรงที่ว่า เมื่อตรวจสมองจะพบว่ามีช่อง (vacuole) ในเซลล์สมอง เหมือนกับที่พบในแกะที่มีอาการ คล้ายคลึงกัน คือมีอาการคัน สั่น และมีอาการทางสมอง เรียกว่าโรค scrapie และไม่ได้มีลักษณะของการอักเสบที่มีเซลล์อักเสบแทรกเข้าไปในเนื้อสมองเหมือนกับที่เจอในโรคสมองอักเสบทั่วไป นอกจากนั้นมีลักษณะอื่นๆที่เรียกว่าเป็นการกระจุกตัวของโปรตีน อมิลอยด์ ร่วมกับความเปลี่ยนแปลงอื่นๆของเซลล์สมองและเซลล์ประกอบอื่นๆ...การที่เรียกว่าเป็น slow virus เนื่องจากจะมีระยะเวลาก่อนที่จะเกิดโรคเป็นปีอาจจะยาวนานตั้งแต่ 3 ปีถึง 6 ปี ไปจนกระทั่งถึง 10 ถึง 14 ปี และเมื่อเกิดโรคแล้วกว่าจะเสียชีวิตก็เป็นหลายๆเดือนถึงเป็นปี

...

การทดลองต่อมาพิสูจน์ว่าเนื้อสมองจากคนป่วยที่เป็นโรคสามารถถ่ายทอดไปยังสัตว์ในตระกูลลิงและยังรวมไปถึงแพะ หนู กินนีพิค เกอร์เบิล แฮมสเตอร์ เฟอเร็ท มิ๊งค์ โดยที่มีระยะฟักตัวต่างๆกัน ทำให้ ดร. Gajdusek ได้รับรางวัลโนเบลในปี 1976

ในระยะต้นมีการเปรียบเทียบโรคคูรู กับโรคทางสมองที่ค่อยๆเป็นทีละน้อยที่เรียกว่า CJD (Creutzfeldt-Jakob disease) แต่อาการไม่เหมือนกันนัก โดยที่คูรู อาการเด่นเป็นเรื่องของการเคลื่อนไหว ทรงตัว แต่ใน CJD เป็นเรื่องความจำผิดปกติก่อน แต่ในที่สุดก็มีความเชื่อมโยงกับ CJD ที่เกิดจากกรรมพันธุ์โดยมีรหัสพันธุกรรมที่ควบคุมการสร้างโปรตีนพรีออน (prion) แปรเปลี่ยนไป และนอกจากนั้นอาการและอาการแสดง ความเร็วช้าของการดำเนินโรค ยังถูกควบคุมด้วยรหัสพันธุกรรมในตำแหน่งจำเพาะ ที่ 129 (codon 129) และด้วยชนิดของโปรตีน (prion strain) อีกด้วย

ในปี 1997 ดร.Stanley Prusiner ได้รับรางวัลโนเบลจากการที่พิสูจน์ว่า โรคทั้งหลายที่ได้กล่าวไปทั้งหมดเกิดขึ้นจากโปรตีนที่ติดต่อได้ เรียกว่า Prion โดยมาจากคำว่า PRotein และ infectION และเป็นรูปแบบของโปรตีนที่มีเกลียวผิดปกติหรือ misfolded protein และสามารถทนต่อการทำลายได้ทุกชนิดไม่ว่าจะด้วยสารเคมี ความร้อนที่ใช้กัน อยู่ในปัจจุบัน ยกเว้นแต่การให้ความร้อนสูงในแรงอัดมากขึ้น จะทำให้ความสามารถในการติดต่อลดลง...โรคโปรตีนบิดเกลียวนี้ เป็นแกนกลางในการอธิบายการเกิดโรคสมองเสื่อมทุกชนิดตั้งแต่อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน และแม้แต่โรคไขสันหลังฝ่อ (ALS หรือ motor neuron disease)

จากปฐมบทของคูรูในเวลาต่อมาทำให้สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างชัดเจนกับโรค CJD ทั้งชนิดที่เกิดแบบกรรมพันธุ์และแบบที่เกิดขึ้นเอง (sporadic) และพ้องกับโรคที่เกิดในแกะ ลา กวาง

...

จนกระทั่งเมื่อเกิดระบาดสะท้านโลก นั่นก็คือโรควัวบ้าในประเทศอังกฤษ โดยเริ่มตั้งแต่ปี 1986 และอีก 10 ปีต่อมาคือในปี 1996 จึงเกิดโรควัวบ้าในคน ที่เรียกว่า variant CJD ที่ติดต่อโดยการกินเนื้อที่ปนเปื้อนด้วยเศษของเส้นประสาทหรือการกินเนื้อบด ไส้กรอกที่ทำจากส่วนต่างๆ รวมกระทั่งถึงอวัยวะภายในที่มีใยเส้นประสาทปนอยู่

การเกิดวัวบ้าในวัวนั้นอธิบายจากการที่เอาเนื้อของแกะและกระดูกมาบดป่น โดยการให้ความร้อน แต่เนื่องจากต้องการประหยัดจึงลดความร้อนลงและเอามาให้วัวกิน โดยปกติโรคพรีออน จะไม่สามารถติดต่อผ่านจากสิ่งมีชีวิตจากตระกูลหนึ่งไปยังอีกตระกูล เนื่องจากมีมาตรการป้องกันธรรมชาติ (species barrier) แต่ถ้าเมื่อใดที่โปรตีนติดเชื้อมีปริมาณสูงก็จะสามารถทำลายปราการป้องกันนี้ได้

และข้อสำคัญคือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิดตามรายงานนี้ ทำให้ต้องมีความตระหนักผลกระทบและอาจจะทำให้พลาดโอกาสในการวินิจฉัยโรคนี้ว่า เป็นสาเหตุเกี่ยวพันกับวัคซีน เพราะคิดไม่ถึง เนื่องจากเสียชีวิตในระยะเวลาสั้นเพียงสองสามเดือนเท่านั้น.

หมอดื้อ

คลิกอ่านคอลัมน์ “สุขภาพหรรษา” เพิ่มเติม