ระยะนี้มีการพูดถึงโรคปอดอักเสบรุนแรงที่เรียกว่า EVALI หรือ E-cigarette or Vaping product use Associated Lung Injury ที่เกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเริ่มพบผู้ป่วยมากขึ้น เช่นเดียวกับการแพร่ขยายของตลาดบุหรี่ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

ประมาณ 5 ปีก่อนหน้านี้ แพทยสมาคมแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้บุหรี่ไฟฟ้า หลังพบว่าไม่ปลอดภัย และมีผลกระทบต่อการเกิดโรคปอดซึ่งเป็นวิกฤติทางด้านสาธารณสุขของประเทศ ขณะที่ในเวลานั้นมีรายงานผู้ป่วยปอดอักเสบที่มีโอกาสสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าประมาณ 450 ราย และพบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจจำนวนมาก และมีผู้ป่วยเสียชีวิต 7 รายในระยะเวลาเพียงแค่ 2 เดือน

หลังจากนั้นไม่นาน ศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐฯ (CDC, Center of disease control and Prevention) ได้ประกาศและเฝ้าระวังโรค EVALI หลังมีรายงานโรคจากทั่วประเทศ 50 รัฐ รวมถึงเขตโคลัมเบีย และเขตปกครองของสหรัฐอเมริกา 2 แห่ง คือเปอร์โตริโกและหมู่เกาะเวอร์จิน โดยจำนวนผู้ป่วยพุ่งขึ้นเรื่อยๆ มีจำนวนผู้ป่วยที่ต้องนอนใน รพ.มากกว่า 3,500 ราย เสียชีวิตมากกว่า 70 ราย โดยทุกรายมีประวัติว่ามีความสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าทั้งสิ้น

...

ประเทศไทยเราเองก็เริ่มมีการพบผู้ป่วยปอดอักเสบรุนแรง EVALI เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะผู้ป่วยที่อายุน้อยยังอยู่ในวัยรุ่น และส่วนใหญ่มีความเข้าใจผิดอย่างมากๆว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่ธรรมดา หรือไม่มีอันตราย ซึ่ง “ไม่จริง” เพราะจริงๆแล้ว ควันไอละอองจากบุหรี่ไฟฟ้ามีฝุ่นขนาดเล็ก PM 1.0 และ PM 2.5 มีสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น ฟอร์มาร์ลดีไฮด์ ไดอะซิทิล และอโครลิน รวมทั้งโลหะหนักที่เป็นพิษ เช่น นิกเกิล ดีบุก และตะกั่ว ซึ่งที่มาของโลหะหนักอาจจะมาจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์สูบที่โลหะหนักหลุดลอยจากขดลวดที่ชุบน้ำยา ขณะที่สารปรุงแต่งกลิ่นรสที่มีนับพันชนิดที่ถูกความร้อนจนเกิดเป็นไอระเหย และมีผลกระทบต่อสุขภาพ

จากรายงานที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร New England Journal of Medicine เรื่อง Pulmonary illness related to e-cigarette use in Illinois and Wisconsin preliminary report ซึ่งรายงานกรณีศึกษาผู้ป่วยจำนวน 53 คนในช่วงเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ.2019 พบว่าผู้ป่วยส่วนมากอายุเฉลี่ยเพียง 19 ปี และมีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่มีสาร THC ประกอบประมาณ 80% แต่มี 20% ที่ไม่ได้ใช้ THC ก็สามารถเกิด EVALI ได้ โดย 95% ของผู้ป่วยมีอาการไข้หนาวสั่น ไอ หายใจลำบาก ปวดเมื่อยตามตัว คล้ายการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย แต่พบว่า 77% ของผู้ป่วยมีอาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ซึ่งผู้ป่วยทุกคนมีภาพ x-ray และ CT scan ปอดที่ผิดปกติ ปอดจะเป็นฝ้าขาว อาการของคนไข้มักจะหายใจไม่ไหว

รายงานเรื่องเดียวกันในวารสารเดียวกันปี 2020 รายงานการตรวจพบ vitamin E acetate ในน้ำล้างปอดของผู้ป่วย EVALI ถึง 94% ซึ่ง vitamin E acetate ถูกใส่อยู่ในบุหรี่ไฟฟ้าหลายยี่ห้อตั้งแต่ปี ค.ศ.2018 เป็นไปได้ว่าการสูดสาร vitamin E acetate ที่โดนความร้อนจนระเหย ทำให้เกิดการบาดเจ็บของปอดและทำให้การทำงานของปอดผิดปกติไป และที่น่าตกใจไปกว่านั้น CDC ของสหรัฐอเมริกาเผยว่า อายุเฉลี่ยของผู้ป่วย EVALI อยู่ที่ 24 ปี โดยในจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบเฉียบพลันจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 2,022 ราย พบว่า 14% สูบบุหรี่ไฟฟ้าเฉพาะที่มีสารนิโคติน 33% สูบบุหรี่ไฟฟ้าเฉพาะที่มีสารกัญชา และ 53% สูบบุหรี่ไฟฟ้าหลายประเภท ทำให้น่าเชื่อถือได้ว่า วิตามินอีอะซีเตตในสารกัญชาเพียงอย่างเดียวอาจมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดปอดอักเสบรุนแรง ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้านั้นสูบเพียงไม่นานก็พบอาการของปอดจนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ขณะที่บุหรี่มวนต้องใช้เวลานานกว่าที่โรคถุงลมโป่งพองต้องใส่ท่อช่วยหายใจ

นอกจากโรคปอดอักเสบรุนแรงเฉียบพลันแล้ว บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ โรคเส้นเลือดสมอง ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหดตัว เหนื่อยง่าย ในคนที่อายุน้อย

...

ทั้งนี้ บุหรี่ธรรมดาใช้เวลา 80 ปี กว่าที่นักวิทยาศาสตร์จะรู้ว่า เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต่างๆ แต่สำหรับบุหรี่ไฟฟ้าที่เพิ่งใช้กันมากเมื่อประมาณ 10 ปี ระยะนี้จึงอยู่ใน “ระยะฟักตัวของโรคต่างๆ” ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต.

คลิกอ่านคอลัมน์ "สมาร์ทไลฟ์" เพิ่มเติม