• ปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์แต่ละครั้ง ใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาที เอกชนคิดค่าใช้จ่ายครั้งละ 1,000 บาท
  • นักจิตบำบัด ช่วยพูดคุย จัดการความเครียด ความกังวล และช่วยประเมินระดับความเครียด แต่หากเป็นโรคซึมเศร้า โรคเครียด จะต้องพบจิตแพทย์เพื่อจ่ายยา
  • ปัจจุบันมีหน่วยงานที่ให้โทรปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตได้ฟรี คือ 1323 หรือสายด่วนสุขภาพจิต ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

รู้หรือไม่ว่า.. ปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์ครั้งหนึ่ง มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ นักเรียน นักศึกษา หรือคนวัยเริ่มทำงานหากอยากพบจิตแพทย์ แต่ไม่มีเงิน ต้องเริ่มต้นทำอย่างไรบ้าง วันนี้ใครที่มีปัญหาความเครียด ความกังวล จัดการสิ่งรบกวนใจไม่ถูก ลองมาดูวิธีการโทรปรึกษานักจิตบำบัด ปรึกษาจิตแพทย์ฟรีกับสายด่วนสุขภาพจิต 1323

ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต ออนไลน์ ไม่มีเงินก็ระบายได้ 

มนุษย์เราใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานร่างกายที่แข็งแรง และจิตใจที่เข้มแข็ง วันหนึ่งหากมีเรื่องรบกวนใจ จนกระทบกับสมาธิในชีวิตประจำวัน ก็ต้องพึ่งพาการรับฟังจากเพื่อนสนิท คนใกล้ชิด และครอบครัว แต่หากเรื่องนั้นมันเป็นเรื่องเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปรึกษาใครแล้วก็เหมือนจะไม่ดีขึ้น หรือไม่อยากให้ใครรู้ การเข้าหานักจิตบำบัดเพื่อประเมินอาการโรคเครียด โรคทางใจ ก็เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ควรทราบช่องทางไว้

...

รู้จักสายด่วนสุขภาพจิต 1323

สายด่วนสุขภาพจิต 1323 เป็นการบริการของรัฐ โดยมีหน่วยงานที่ดูแลคือสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ผู้รับสายจะเป็นทีมสหวิชาชีพของกรมสุขภาพจิต ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ผู้ใช้บริการจองคิวผ่านเว็บไซต์

https://1323alltime.camri.go.th ได้ และจะมีนักจิตบำบัดโทรมาหาในเวลาที่จองคิวไว้ (โดยที่การสมัครสมาชิกเว็บไซต์ต้องได้รับการยืนยันภายใน 24 - 48 ชั่วโมงก่อน)


ภายในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ผู้คนได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 บางคนมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ได้พบเจอกับเพื่อนๆ ไปจนถึงรูปแบบการเข้าห้องเรียนที่ต้องนั่งเรียนออนไลน์ ส่วนวัยทำงาน ก็ต้องพบกับปัญหาเศรษฐกิจ ต้องปรับตัวให้เข้ากับการทำงานที่บ้าน ไปจนถึงวัยครอบครัวที่ฐานะทางการเงินอาจมีปัญหาส่งผลต่อรายจ่ายอื่นๆ 

ข้อมูลจากสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ในเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้เข้ามาพบว่ามีผู้โทรเข้ามาขอคำปรึกษาทั้งหมด 7,781 คน เป็นเพศชาย 3,129 คน และเพศหญิง 4,329 คน กลุ่มอายุที่โทรเข้ามาปรึกษามากที่สุดคือ 20 - 59 ปี ประเด็นที่โทรเข้ามาปรึกษามากที่สุด (ไม่รวมการพูดคุยเรื่องทั่วไป บูลลี่และอื่นๆ) ได้แก่ ปัญหาครอบครัว, ปัญหาความรัก, ปัญหาการทำงาน, ปัญหาเรื่องเพศ และ ความสัมพันธ์กับเพื่อน


เมื่อพิจารณาปัญหา 5 อันดับแรก พบว่าเป็นเรื่อง

- ปัญหาครอบครัว             43.5%

- ปัญหาความรัก                25%

- ปัญหาการทำงาน            14.5%

- ปัญหาเรื่องเพศ               12.5%

- ความสัมพันธ์กับเพื่อน    4.7%


ทุกปัญหาที่เป็นสิ่งรบกวนใจ หากจัดการคนเดียวไม่ได้ ไม่รู้จะปรึกษาใคร ลองโทรปรึกษานักจิตบำบัดที่เบอร์ 1323 แต่มีวิธีการที่ง่ายกว่านั้น คือ เข้าไปนัดหมายผ่านเว็บไซต์ ลองอ่านตามคำแนะนำต่อไปนี้ดูค่ะ

1. วัดใจ.com

เว็บไซต์วัดใจ.com จะเป็นแบบประเมินสุขภาพจิต หากคุณรู้สึกว่ามีความเครียด มีความกังวลใจเล็กน้อย แต่ยังไม่อยากคุยกับใคร ก็ลองหาเวลาเข้าไปทำแบบประเมินดู แล้วหากผลการประเมินออกมาว่า คุณควรต้องหาคนคุยด้วยหรือเข้ารับการรักษาแล้วล่ะก็ ต้องเข้าไปนัดหมายพูดคุยปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์ต่อไป

...

เว็บไซต์ “วัดใจ.com” เป็นบริการแบบทดสอบออนไลน์ ที่ช่วยให้คุณสังเกตการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมและอารมณ์ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น หากรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงจากเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ทำให้คุณเครียดอยู่ในช่วงนี้ และเอาตัวเองออกมาจากวังวลนั้นไม่ได้ ควรโทร 1323 เพื่อพูดคุยกับนักจิตบำบัดต่อไป

2. สายด่วน 1323 หรือ 1323alltime.camri.go.th

...

สายด่วนสุขภาพจิต 1323 เป็นบริการทางการแพทย์ที่เปิดให้ประชาชนโทรฟรีมากว่า 10 ปีแล้ว ในแต่ละปีมีคนโทรเข้ามากว่า 5 แสนคู่สาย แต่กำลังของทีมงานสามารถรับสายได้ 1 แสนคู่สายเท่านั้น บางคนโทรเข้ามาแล้วติดรอสายนานๆ ก็วางไป วันนี้ทางสายด่วนสุขภาพจิตก็ปรับปรุงบริการ ให้ผู้ใช้งาน Log In เข้ามาจองคิว เพื่อพูดคุยกับนักจิตบำบัดได้ตั้งแต่คิวแรกคือเวลา 08.30 น. และคิวสุดท้าย 21.30 น.

ช่วงเวลาพีกๆ คือหลังเลิกงาน ถึงช่วงค่ำ หากใครที่ไม่อยากรอสายนาน ก็สามารถนัดหมายคุยกับนักจิตบำบัดได้ตั้งแต่ช่วงเช้า สมองจะได้ปลอดโปร่ง โล่ง ไปทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ต่อ

วิธีการจองคิวสายด่วนสุขภาพจิต 2566/2023

เข้าไปที่เว็บไซต์ 1323alltime.camri.go.th หลังจากนั้นกรอกข้อมูลเลขบัตรประจำตัวประชาชน และชื่อ นามสกุลที่ถูกต้อง ที่ต้องให้ข้อมูลครบถ้วนทุกอย่างนี้ เมื่อประเมินสุขภาพจิตในขั้นตอนสุดท้าย หากผู้สนทนาต้องพบแพทย์ ทางนักจิตบำบัดก็จะได้ช่วยอธิบายช่องทางเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป แต่ถ้าคุณไม่สะดวกให้ข้อมูล ก็จะใช้บริการนี้ไม่ได้

...

กดยินยอม และจองคิวในช่วงเวลาที่ว่าง ในระบบออนไลน์จะจองล่วงหน้าได้เร็วสุด 1 วัน โดยก่อนจะเริ่มการพูดคุย จะมีโทรศัพท์เข้ามาสอบถามก่อน ว่าสะดวกพูดคุยหรือไม่

การจองคิว จองล่วงหน้าได้ 1-2 วัน ผู้สนทนาเลือกเวลาที่สะดวกได้ เช่น เวลาก่อนเริ่มเรียน เวลาหลังเลิกงาน แต่หากช่วงเวลาที่เลือกเต็ม ก็เลือกเป็นวันถัดไปได้

  • กระบวนการพูดคุย ผู้ที่โทรเข้ามาหาเรา จะเป็นนักจิตบำบัดจากหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย เริ่มต้น จะสอบถามช้อมูลความถูกต้อง ว่าใช่คุณที่ลงทะเบียนหรือไม่
  • ลำดับต่อมาก็ให้ผู้สนทนาเตรียมตัว เล่าเรื่องที่เกิดขึ้น และนักจิตบำบัดจะช่วยแยกข้อมูล สรุปข้อมูล ก่อนช่วยเฟ้นหาทางเลือกเพื่อตัดสินใจ
  • นักจิตบำบัดช่วยแยกระหว่าง “ความเครียด” และ “ความกังวล” และอธิบายวิธีการจัดการกับทั้งสองสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ตอนนั้น รวมถึงพูดคุยเพื่อหากระบวนการแก้ไข
  • เมื่อจบการสนทนา ก็จะได้รับการประเมินสุขภาพจิต หากผู้สนทนาอยู่ในระดับความเครียดสูง นอนไม่หลับ เป็นกังวล ก็จะต้องสังเกตตัวเอง และเข้ารับการรักษากับจิตแพทย์ต่อไป

เมื่อพูดคุยกับนักจิตบำบัดแล้ว หากพบว่าตัวเองมีความเครียดสูง ต้องการพบกับคุณหมอต่อไป ก็ตรวจสอบสิทธิ์การรักษา หากจำเป็นต้องรับยาจากแพทย์ ก็เข้ารับบริการกับประกันสังคม หรือสิทธิ์ตาม สปสช. ที่เรามี  

โดยสรุปแล้ว การใช้บริการสายด่วนสุขภาพจิต เป็นช่องทางการรักษาสุขภาพทางใจที่ฟรี เพราะเมื่อเทียบราคากับบริการเอกชน จะมีค่าบริการอยู่ที่ครั้งละ 1,000 บาท ต่อ 1 ชั่วโมง ซึ่งหากบางคนยังไม่พร้อมกับค่าใช้จ่ายตรงนั้น ก็เลือกโทรพูดคุยกับนักจิตบำบัดเบื้องต้นก่อนได้ ส่วนข้อมูลการพูดคุยก็เป็นความลับ เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ผู้กังวลใจในเรื่องราวชีวิตของตัวเอง ไร้ที่ปรึกษา ไม่อยากบอกใคร ก็ลองให้นักจิตบำบัดช่วยตกตะกอนความคิด โดยที่คุณเป็นผู้หาทางออกเอง สบายใจ ก้าวสู่สังคมใช้ชีวิตต่อไปได้

ขอบคุณข้อมูล : นักจิตบำบัด สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์

ที่มาส่วนหนึ่งจาก : สายด่วนสุขภาพจิต 1323 พัฒนาระบบจองคิวรับคำปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต.(9 พฤษภาคม 2566), https://www.nhso.go.th/news/4000 [สืบค้น 27 มิถุนายน 2566]