"สิว" เป็นปัญหาที่กวนใจใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นสิวที่ใบหน้า หรือสิวที่หลัง เมื่อเป็นแล้วมักจะฝากรอยสิว รอยดำ รอยแดงไว้เสมอ ทำให้บางคนเลือกที่จะสวมแมสก์เพื่อปกปิดใบหน้า รวมทั้งสาวๆ ส่วนใหญ่ที่ต้องใช้เวลาแต่งหน้านานขึ้นกว่าเดิม เพื่อทำให้รอยสิวดูจางลง แต่ทั้งนี้ การลดรอยสิวก็สามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน ไทยรัฐออนไลน์ขอแนะนำ 5 วิธีลดรอยสิว ที่แม้แต่คนผิวแพ้ง่ายก็สามารถทำตามได้

5 เคล็ดลับเร่งด่วน "ลดรอยสิว รอยดำ รอยแดง" ผิวแพ้ง่ายก็ทำตามได้

ก่อนที่จะเริ่มลดรอยสิวเร่งด่วน ควรทำความเข้าใจก่อนว่าสิวของเรานั้น เกิดจากสาเหตุอะไร เช่น สิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน สิวฮอร์โมนช่วงใกล้มีประจำเดือน การใช้ยาบางชนิด การแพ้เครื่องสำอาง ความเครียด การสูบบุหรี่ ฯลฯ เพื่อที่จะได้เลือกวิธีลดรอยสิว รอยดำ รอยแดง ที่เหมาะสมกับตัวเอง ยกตัวอย่างดังต่อไปนี้

1. อย่านอนดึก ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
หลายคนอาจมองข้ามเรื่องการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ แต่จริงๆ แล้วการนอนดึกเป็นประจำ หรืออดนอนติดต่อกันนานๆ มักจะส่งผลให้สภาพหน้าโทรม ร่างกายอ่อนเพลีย ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายลดลง อาจทำให้หลายคนเป็นสิวได้เมื่อนอนดึกบ่อยๆ นอกจากนี้การดูแลสุขภาพด้วยการดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือประมาณวันละ 6-8 แก้ว ก็ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของการดูแลผิว ทำให้ผิวหน้าผ่องใส ไม่แห้งกร้าน และยังลดปัญหาสิวได้อีกด้วย

...

2. กู้หน้าด้วยมาสก์จากธรรมชาติ
การมาสก์หน้าด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ จะช่วยลดรอยสิวในคนที่ผิวแพ้ง่ายได้ เพราะไม่มีการใช้สารเคมีเจือปน เช่น การใช้น้ำมะนาว+น้ำผึ้งผสมกัน ก่อนนำไปพอกหน้า จะช่วยลดรอยสิว ทำให้สิวแห้ง รอยแดงจากสิวจางลง ผิวหน้าชุ่มชื้นมากขึ้น หรืออาจใช้สูตรมะขามเปียก+นมสดก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีภูมิปัญญาไทยที่คนโบราณนิยมทำกันเมื่อเป็นสิว นั่นคือการทาใบหน้าด้วย "ว่านหางจระเข้" ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดรอยสิว และลดการอักเสบของรอยแดงที่เกิดจากสิวได้

3. กินวิตามินเสริมสำหรับลดรอยสิว ผิวแพ้ง่าย
การลดรอยสิวที่หลายคนนิยมทำกันคือ การเลือกกินวิตามินเสริมอาหาร โดยเลือกวิตามินที่ช่วยเรื่องการดูแลผิวพรรณ ลดรอยสิว เช่น วิตามินซี วิตามินอี สารสกัดจากเมล็ดองุ่น สารสกัดจากมะเขือเทศ ฯลฯ เหมาะสำหรับคนที่อยากลดรอยสิว ผิวแพ้ง่าย ไม่อยากเสี่ยงทายา หรือมาสก์หน้า ก็สามารถเลือกกินวิตามินสูตรที่เหมาะสมได้ง่ายๆ แต่ที่สำคัญควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือ ได้รับการรับรองว่าไม่เป็นอันตราย และควรเสริมควบคู่ไปกับรับประทานอาหารมีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่

4. ทายาลดรอยสิว และพบแพทย์ผิวหนัง 
สำหรับคนที่มีปัญหาสิวอักเสบ ทำตามหลายวิธีแล้วรอยดำ รอยแดง และแผลเป็นจากสิวก็ยังไม่จางลง ทำให้ขาดความมั่นใจไป ก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะช่วยตรวจหาสาเหตุของการเกิดสิว เพื่อที่จะได้หาวิธีรักษาและลดรอยสิวอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการลดรอยสิวที่หน้า หรือลดรอยสิวที่หลังก็ตาม แพทย์อาจสั่งยาในรูปแบบครีมหรือเจลลดรอยสิว มีทั้งยาทาเฉพาะที่ และสำหรับรับประทาน หลักๆ แล้วจะเป็นตัวยาที่ช่วยป้องกันการอุดตันของรูขุมขน ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ ช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิว 

5. เลเซอร์ลบรอยสิว รอยดำ รอยแดง
ใครที่ต้องการลดรอยสิวเร่งด่วน ก็อาจต้องหันมาพึ่งการทำเลเซอร์ที่มีบริการตามคลินิกผิวหนัง หรือคลินิกเสริมความงาม แต่ราคาก็อาจจะแพงขึ้นมาตามประเภทของการทำเลเซอร์ หลักๆ แล้วการใช้เลเซอร์ลดรอยสิวมักจะเป็นการกำจัดเซลล์ผิวเก่าออก และกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ รวมไปถึงการทำฉายแสง เพื่อช่วยทำลายเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว โดยหลังจากทำเลเซอร์แล้วจะต้องทาครีมกันแดด พยายามหลบแสงแดด และรอประมาณ 1 สัปดาห์ รอยสิวก็จะค่อยๆ จางลงนั่นเอง

...

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในปัจจุบันนี้ การลดรอยสิวสามารถทำได้หลายวิธี แต่การแก้ปัญหาสิวที่ปลายเหตุก็อาจไม่ใช่ทางออกเสมอไป เพราะคุณอาจกลับมาเป็นสิวอีกก็ได้ หากไม่หันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน รวมถึงดูแลสุขภาพตัวเองอย่างถูกวิธี ทางที่ดีควรรักษาสิวควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะไม่เพียงแต่รอยสิวที่ลดลง แต่ยังได้สุขภาพดีกลับมาเป็นของแถมด้วย

อ่านเพิ่มเติม