ใครอยากมีผิวหนัง ผิวหน้าอ่อนเยาว์ หรือหน้าอ่อนกว่าวัย 30 ปี เริ่มมีความหวังมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงวัยอายุเลย 50 ปีขึ้นไป หลังจากผลทดลองที่อังกฤษขั้นแรกออกมาอย่างน่าพอใจ และไม่เพียงเพื่อความงามของผิวพรรณ และดูหน้าเด็กลงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงโอกาสการรักษาผิวหนัง เมื่อมีบาดแผลที่รักษายาก รวมไปถึงการรักษาโรคอื่น เพื่อให้สุขภาพดี แม้จะเข้าสู่วัยชราก็ตาม อย่างไรก็ตามยังต้องทดลองกันต่อไป เพราะยังมีความเสี่ยงอยู่

ย้ำอีกครั้งว่าความก้าวหน้าของการทำให้ผิวกลับมาอ่อนกว่าวัยถึง 30 ปีนี้ ยังอยู่ในช่วงการทดลองในห้องทดลอง ซึ่งสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานเรื่องนี้กันอย่างคึกคักว่า ทีมนักวิจัยของสถาบันวิจัยบาบราแฮม  (Babraham Institute) ที่เมืองแคมบริดจ์ (Cambridge) สหราชอาณาจักร ได้ทดลองโครงการนี้ กับเซลล์ของคนวัย 53 ปี และได้ผลว่าเซลล์ของผิวกลับอ่อนกว่าวัย ทำให้ผิวหน้าอ่อนกว่าวัย เทียบเท่าอายุ 23 ปีเลยทีเดียว ซึ่งนักวิจัยเอง ก็ระบุในเอกสารเผยแพร่ของสถาบันฯ ว่า เป็นผลที่น่าตื่นเต้นจริงๆ

อย่างไรก็ตาม การทดลองนี้ยังคงอยู่ในห้องทดลอง ยังไม่ได้นำมาทดลองกับกลุ่มอาสาสมัคร หรือคนทั่วไป เพราะยังมีความเสี่ยงต่อเซลล์ในการก่อให้เกิดมะเร็ง

สำหรับวิธีการคืนความเยาว์วัยให้ผิวล่าสุดนี้ ได้ดัดแปลงจากเทคนิคที่เรียกว่า iPS หรือ iPSC (Induced pluripotent stem cell) ที่เมื่อ 16 ปีที่แล้ว คิดค้นโดยศาสตราจารย์ชินยะ ยามานากะ นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว เจ้าของรางวัลโนเบล เมื่อปี 2555 หลังจากเมื่อปี 2549 เขาทดลองและค้นพบวิธีการทำให้เซลล์โตเต็มวัยจากมนุษย์ โดยสกัดเซลล์จากผิวหนัง หรือเลือด มาทำให้มีคุณสมบัติเหมือนกับเซลล์ตัวอ่อน (สเต็มเซลล์) จนนำมาสู่การวิจัย และทำให้เข้าใจกลไกการก่อโรคต่างๆ และพัฒนาวิธีการรักษา อย่างเช่นก่อนหน้านี้นำมาใช้กระตุ้นเซลล์สมองให้ผลิตสารโดพามีน เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน

...

การดัดแปลงเทคนิค iPS โดยทีมนักวิจัยของสถาบันวิจัยบาบราแฮมทำให้ลดระยะเวลาเหนี่ยวนำเซลล์ผิวหนังด้วยสารเคมีจาก 50 วันเหลือ 13 วัน และผิวยังทำงานเหมือนวัยหนุ่มสาว โดยผลิตคอลลาเจนได้เพิ่มขึ้น ผลการทดลองนี้ยังอยู่ในห้องทดลอง และทีมวิจัยมีเป้าหมายพัฒนาเพื่อรักษาผู้ป่วยแผลไฟไหม้ หรือมีบาดแผลรักษายาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุต่อไป

อ้างอิงข้อมูล : bbc news, insider, elife