ยุคหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้ว ในวงการสุขภาพมีการแชร์วิธี "ลดน้ำหนัก" ด้วยสูตร "ซุปผัก" พร้อมวิธีการกินใน 7-10 วัน และเคลมว่าช่วยให้ "ลดน้ำหนัก" ได้เร็ว น้ำหนักลง 5 กก. ได้ภายใน 1 คอร์ส OMG! แต่ก็มีหลายคนออกมาโต้แย้งว่า กินน้อยขนาดนี้ น้ำหนักไม่ลงได้ไง แถมโปรตีนต่ำอีกต่างหาก ระวังโยโย่ทีหลังนะ!

Thairath Women เลยจะชวนสาวๆ มา "ลดน้ำหนัก" ด้วยการกินซุปผักแบบใหม่ ปรับวิธีกินให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้น เพื่อช่วยป้องกันภาวะ "โยโย่เอฟเฟกต์" ที่อาจตามมาได้ง่ายจากการกินแบบผิดๆ 

How to กินซุปผัก "ลดน้ำหนัก" ให้สุขภาพดี

โดยทั่วไปซุปผักรวม 1 ถ้วย (ประมาณ 225 กรัม หรือ 8 ออนซ์) จะให้พลังงานอยู่ที่ 70-80 แคลอรี ดูเผินๆ เหมือนเป็นเมนูแคลต่ำ กินได้อิ่มท้องและไม่อ้วน แต่สูตรเดิมใส่ซุปก้อนลงไปถึง 2 ก้อน จึงทำให้มีโซเดียมสูง ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

ดังนั้น ควรปรับการปรุงรสใหม่ ใส่เกลือหรือซอสปรุงรสให้น้อยๆ เข้าไว้จะดีกว่า เน้นความหวานจากผักสด ไม่ต้องใส่น้ำตาล ส่วนวิธีการกินก็ควรปรับใหม่ ให้เน้นกินโปรตีนมากขึ้น กินคาร์โบไฮเดรตให้เหมาะสม ควบคู่กับการออกกำลังกายเบาๆ นะจ๊ะ คอร์สนี้ใช้ระยะเวลา 1 เดือน 

...

สัปดาห์ที่ 1

- วันที่ 1 : กินซุปผักทั้ง 3 มื้อ คู่กับผักสดจิ้มน้ำพริก ให้เพิ่มไข่ต้ม 2 ฟอง+ข้าวกล้อง 1 ทัพพีในมื้อใดมื้อหนึ่ง

- วันที่ 2 : กินซุปผักทั้ง 3 มื้อ คู่กับผลไม้สดน้ำตาลน้อย (งดกล้วย) เพิ่มปลานึ่ง+ข้าวกล้อง 1 ทัพพีมื้อใดมื้อหนึ่ง

- วันที่ 3 : กินซุปผักทั้ง 3 มื้อ คู่กับผักจิ้มน้ำพริกและผลไม้สด (งดกล้วย) เพิ่มไข่ดาวน้ำ 2 ฟอง+ข้าวกล้อง 2 ทัพพี

- วันที่ 4 : กินซุปผักทั้ง 3 มื้อ คู่กับผักจิ้มน้ำพริก ให้เพิ่มปลานึ่ง+กล้วยน้ำว้า 5-6 ผล+นมสด+ข้าวกล้อง 2 ทัพพี

- วันที่ 5 : กินซุปผัก 1 มื้อ คู่กับผลไม้สด ส่วนอีก 2 มื้อให้กินอกไก่นึ่ง, ไข่ต้ม+ข้าวกล้อง 2 ทัพพี

- วันที่ 6 : กินซุปผัก 1 มื้อ คู่กับผักจิ้มน้ำพริก ส่วนอีก 2 มื้อให้กินอกไก่นึ่ง, ไข่ต้ม+กล้วยน้ำว้า+ข้าวกล้อง 1 ทัพพี

- วันที่ 7 : กินซุปผัก 1 มื้อ คู่กับผลไม้สด ส่วนอีก 2 มื้อให้กินสเต๊กเนื้อ, หมู ไม่ติดมัน+ผักต้ม+มันอบ, ข้าวกล้อง 1 ทัพพี

สัปดาห์ที่ 2

มื้อหลัก 3 มื้อ : ทั้ง 7 วันของสัปดาห์นี้ ให้เริ่มกลับกินอาหารปกติได้ แต่ยังเน้นอาหารประเภทแกง (ไม่ใส่กะทิ) ต้ม นึ่ง ย่าง ยำ สลัด เป็นหลัก เช่น แกงจืดตำลึงหมูสับ (90 แคลอรี), ซุปไก่ใส่มันฝรั่ง (120 แคลอรี), ยำวุ้นเส้นรวมมิตร (120 แคลอรี) ในแต่ละมื้อกินข้าวกล้องได้ 1 ทัพพี

ระหว่างมื้อ : ให้กินผลไม้สดน้ำตาลน้อย เช่น ชมพู่ ฝรั่ง ส้มโอ กีวี่ แอปเปิ้ล มะละกอ เบอร์รี่ต่างๆ ฯลฯ รวมถึงดื่มน้ำชาหวานน้อยหรือกาแฟดำหวานน้อยได้

WorkOut : ในสัปดาห์นี้ควรเริ่มออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดิน, วิ่งจ๊อกกิ้ง 15-20 นาทีต่อวัน ทำวันเว้นวัน

...

สัปดาห์ที่ 3

มื้อหลัก 3 มื้อ : กินเหมือนสัปดาห์ที่สอง เมนูแนะนำ ได้แก่ ต้มยำน้ำใส (90 แคลอรี), ต้มจับฉ่าย (90 แคลอรี), ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก (180 แคลอรี), ซุปมิโซะเต้าหู้ขาวและสาหร่าย (50 แคลอรี) แต่ละมื้อกินข้าวกล้องได้ 1 ทัพพี

ระหว่างมื้อ : ผลไม้สดน้ำตาลน้อย นมอัลมอนด์ ถั่วต่างๆ โยเกิร์ตไขมันต่ำ น้ำผลไม้แยกกาก

WorkOut : ออกกำลังกายด้วยการเดิน, วิ่ง และ BodyWeight เช่น สควอต วิดพื้น ซิตอัพ รวมๆ 15-20 นาทีต่อวัน 

สัปดาห์ที่ 4

มื้อหลัก 3 มื้อ : กินเหมือนสัปดาห์ที่ 2 และ 3 เมนูแนะนำ ได้แก่ แกงส้มกุ้งผักรวม (120 แคลอรี), แกงเลียงกุ้งสด (90-100 แคลอรี), ส้มตำไทย (60 แคลอรี)+ไก่ย่างไม่หนัง (167 แคลอรี), สลัดน้ำใสอกไก่ย่าง (100 แคลอรี) แต่ละมื้อกินข้าวกล้องได้ 1 ทัพพี

ระหว่างมื้อ : ผลไม้สดน้ำตาลน้อย ชาหวานน้อย กาแฟดำหวานน้อย โยเกิร์ตไขมันต่ำ ถั่วต่างๆ 

WorkOut : เดินหรือวิ่งให้น้อยลง แต่เน้น BodyWeight มากขึ้น สควอต วิดพื้น ซิตอัพ รวมๆ 20-30 นาทีต่อวัน

...

นี่เป็นเพียงวิธีหนึ่งในการ "ลดน้ำหนัก" อย่างมีสุขภาพดีเท่านั้น เพื่อนๆ สามารถเอาไปปรับใช้ให้เหมาะกับร่างกายของตัวเองได้อย่างเหมาะสม ไม่ต้องทำเป๊ะๆ ตามนี้ก็ได้ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียให้เลือกทำตามก็แล้วกัน หากทำอย่างมีวินัย ก็น่าจะช่วยให้น้ำหนักลดลงอย่างเห็นได้ชัด แถมยังสุขภาพดี ไม่มีโยโย่เอฟเฟกต์ด้วยจ้า

ติดตามอ่านเรื่องราวที่น่าสนใจและความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ "ผู้หญิง" ได้ที่นี่ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ

เคล็ดไม่ลับเพิ่มเติม จากอาหารเสริม lazada ส่วนลด แจกให้คุณได้คุ้มก่อนใคร

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

...