ผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ไปได้ไม่กี่วัน แต่บรรยากาศการฉลองก็ยังกรุ่น วันนี้คุณชาย 4 มีนัดเลี้ยงรุ่นกับเพื่อนๆ แม้จะไกลกรุงเทพฯไปสักหน่อย ที่ร้านเบียร์วุ้นริมเขื่อน ถนนพระพันวษา ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
จากกรุงเทพฯ ขับรถไปใช้เวลา 2 ชั่วโมงก็ถึงหน้าร้าน เวลาห้าโมงเย็นพอดี ลมพัดอ่อนๆรับกับแสงจากดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตกลับขอบฟ้า ริมเขื่อนมีคนเดินออกกำลังกาย พ่อแม่จูงลูกเดินเล่น ฯลฯ
ร้านเบียร์วุ้นริมเขื่อนร้านนี้ เพื่อนบอกว่ามีดีตรงอาหารรสชาติแซ่บ แถมเบียร์วุ้นก็ลื่นคอมาก เพื่อนที่มากันก่อนสั่งอาหารไปแล้วก็หลายจาน มีเบน หรือธัญญพัฒน์ พิพัฒโภคผล เจ้าของร้านคอยบริการ
เบนแนะนำเมนูเพิ่มอีก เช่น หมูขยำ ไก่คั่วริมเขื่อน ลาบทูน่า ไข่ตุ๋นต้มยำ ปลาทับทิมสองใจ ต้มยำผู้กอง ปลากะพงแยกร่าง ณ เวลานี้หิวมาก จัดมาเลยทุกเมนู
อาหารทยอยออกมาเสิร์ฟ บรรยากาศวันนี้เป็นกันเอง
เบนชวนแม่นี แม่ครัว และแม่นกหน้าเขียงออกมาช่วยกันเล่าถึงวิธีการทำแต่ละเมนู
เริ่มจากลาบทูน่า แม่นีเลือกใช้ทูน่าอย่างดี เปิดเอาทูน่ามายีให้เป็นชิ้นเล็กแล้วพักไว้ จากนั้นทำน้ำลาบ เครื่องปรุงมีน้ำมะนาว น้ำปลา ตัดรสด้วยน้ำตาลนิดหน่อย ใส่ทูน่า พริกคั่ว ข้าวคั่ว ลงไปคลุกให้เข้ากัน โรยหอมแดง ผักชีฝรั่ง ต้นหอมซอย สะระแหน่
...
เห็นจานนี้แล้วน้ำลายสอ ชิมเนื้อทูน่าเข้ากันกับเครื่องลาบได้ดี เรียกน้ำย่อยก็ว่าได้
มาถึงไข่ตุ๋นต้มยำ เบนบอกว่า เมื่อก่อนเมนูนี้ยังไม่มี เหตุเกิดจากลูกค้าที่มาอยากกินอะไรแปลกๆ บอกให้ลองทำดู แม่นีเองเคยทำแต่ไข่ตุ๋น ก็ลองเปลี่ยนด้วยการเติมเครื่องต้มยำเข้าไป เกิดเป็นเมนูนี้ขึ้นมา
ส่วนผสม มีกุ้ง ปลาหมึก ไข่ไก่ เครื่องปรุง น้ำตาล น้ำปลา เครื่องต้มยำ ตีไข่ผสมน้ำกระบวยครึ่ง ใส่กุ้ง ปลาหมึกและเครื่องปรุงต่างๆแล้วตุ๋น 15 นาที เป็นอันเรียบร้อย
หน้าตาหม้อนี้สีส้มสวยงาม ชิมไข่เนื้อนุ่ม รสชาติเป็นต้มยำ ถือว่าแปลกดี
ต่อด้วยต้มยำผู้กอง เบนได้ชื่อนี้จากร้านที่ไปกินประจำ
เมนูนี้แม่นกขอเล่าบ้าง เริ่มจากตั้งน้ำใส่ผักกาดดองต้มให้เดือดได้ที่ เอาหมูสับที่ปั้นเป็นก้อนใส่ลงไป เติมเครื่องปรุงน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลนิดหน่อย ทุบพริกขี้หนูสด ผักชีโรย ซดน้ำเข้าไปแล้วรสชาติแซ่บอ่อนๆอร่อยดี
มาถึงเมนูปลาทับทิมสองใจ แม่นกเอาปลาทับทิมไปล้างทำความสะอาด แล่เอาแต่เนื้อหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋า เหลือโครงก้างเอาไปทอดกรอบ
ส่วนเนื้อปลาที่หั่นเป็นชิ้นเอาไปคลุกด้วยแป้งทอดกรอบ เวลาทอดจะได้ไม่ติดกระทะ จากนั้นเตรียมเครื่องผัดฉ่า มีพริกแดง พริกไทยอ่อน กระชาย ใบมะกรูด ถั่วฝักยาว เอามาผัดแล้วปรุงรส
ส่วนอีกหน้าเอามาผัดเม็ดมะม่วง ส่วนผสมมีหอมใหญ่ พริก ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย เหล้าจีน ใส่เนื้อปลา เม็ดมะม่วงลงไปผัดต่อแล้วปรุงรส
...
จัดแต่งด้วยการเอาโครงก้างที่ทอดกรอบวางไว้ตรงกลาง สองข้างมีปลาผัดฉ่าและปลาผัดเม็ดมะม่วง จานนี้ได้ชิมถึง 2 รส จึงเป็นที่มาของปลาทับทิมสองใจ
คุณชาย 4 ยืนยันได้ใจสำหรับนักดื่มหรือครอบครัวที่มากินแน่นอน
เบนนำเสนอเมนูปลาต่ออีกจาน ปลากะพงแยกร่าง
แม่นกบอก เวลาทำก็แบ่งปลากะพงเป็นสองท่อน ส่วนหัวเอาไปนึ่ง จากนั้นทำน้ำจิ้มซีฟู้ด ส่วนผสมมีพริก กระเทียม รากผักชีเอามาปั่นให้ละเอียด ปรุงรสด้วยมะนาว น้ำตาล น้ำปลา เติมน้ำต้มสุกเล็กน้อย พอนึ่งปลาจนสุกก็เอาน้ำจิ้มซีฟู้ดราดลงบนตัวปลาจัดจานด้วยแครอทนึ่ง ผักกาดขาวนึ่ง มะนาวฝานวางข้างจาน
...
ส่วนท่อนล่าง เอาไปทอดแล้วคลุกกระเทียมพริกไทย กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด
เบนบอกว่า ราคาปลาคิดเป็นตัว ตัวละ 250 บาท เอามาทำได้ถึงสองเมนูแล้วแต่ลูกค้าจะเลือกสั่ง
ต่อด้วยไก่คั่วริมเขื่อน แม่นีใช้ไก่ส่วนสะโพกสับเป็นชิ้นๆ เตรียมเครื่องพริกคั่ว มีหอมแดง ข่า ตะไคร้ มะกรูด และพริกคั่วด้วยไฟอ่อนๆ จากนั้นเอามาตำพอหยาบ แล้วเอาลงไปผัดกับน้ำมัน ใส่ไก่ลงไป ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาล น้ำมันหอย ใส่พริกสด ใบมะกรูด มะเขือเทศ ลงไปผัดอีกเล็กน้อยแล้วตักใส่จานเสิร์ฟ
ไก่คั่วริมเขื่อนจานนี้มีความเผ็ดร้อนของพริกคั่วสมุนไพร รสชาติอร่อยลิ้น
มาถึงจานสุดท้าย หมูขยำ แม่นีเอาหมูสับไปลวกพอสุก ซอยตะไคร้ หอมแดง ผักชีใบเลื่อย ต้นหอม เอามาเคล้ากับหมูสับ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล เสร็จเรียบร้อยออกมาเป็นเมนูหมูขยำ
...
จานนี้ให้รสชาติเปรี้ยวนำ เผ็ดและหวานตาม รสจัดจ้านกินแกล้มกับแตงกวาและถั่วฝักยาว ซดด้วยเบียร์วุ้นเย็นๆ ชื่นใจเป็นที่สุด
เบนบอกว่า ร้านเปิดตอนเย็น ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพี่ๆเพื่อนๆที่ทำงานเก่าอำเภอเมืองสุพรรณบุรี และพวกข้าราชการจากที่ต่างๆพาครอบครัวมานั่งกิน เมนูปลาแพงสุดราคา 250 บาท นอกนั้นราคาถูกมากจับต้องได้สบาย เพราะร้านเป็นบ้านของครอบครัว ไม่ได้เสียค่าเช่า
ตอนเช้าอาจะขายอาหารตามสั่งและกาแฟสด เปิดตั้งแต่เก้าโมงเช้าจนถึงบ่ายสอง ส่วนร้านเบนเปิดตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน วันจันทร์ถึงเสาร์ ปิดวันอาทิตย์ โทรศัพท์ 09-0986-7179
ร้านเบียร์วุ้นริมเขื่อนหาไม่ยาก อยู่ตรงริมเขื่อน ข้างโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช สะพานอาชา-สีหมอก กับสะพานวัดพระรูป ลงจากริมเขื่อนเลาะมาเรื่อยๆจะเห็นร้านอยู่ซ้ายมือ มีอยู่ร้านเดียว
เบนบอกลูกค้าเสมอว่า เวลามาร้านก็เหมือนมาเที่ยวบ้าน นั่งกันสบายๆ เบนดูแลลูกค้าเองทั้งหมด มีอะไรติชมได้ ลูกค้าอยากจะหิ้วอะไรมากินก็ยินดี.
คุณชาย4