อาหารไทย...อร่อยที่สุดในโลก ไปบ้านไหนเมืองไหน ก็ไม่มีอาหารชาติใดเหมือนชาติไทยอีกแล้ว ด้วยความหลากหลาย ด้วยความพิถีพิถัน ด้วยความช่างเลือกช่างคิดช่างทำ ประดิดประดอยรังสรรค์สิ่งต่างๆ ออกมาเป็นอาหารในจานอย่างลงตัว เราต้องปรบมือให้แม่ครัวคนไทยรัวๆ นอกเหนือความอร่อยแล้ว ประเทศไทยยังมีความพิเศษในเรื่อง "อาหาร" ของแต่ละภาคด้วย อันนี้น่าสนใจเป็นพิเศษ
เพราะวันนี้ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จะพาทุกคนไปชิม "อาหารเหนือ" อาหารที่ไม่ธรรมดาอีกต่อไป ให้เราเรียกเรื่องราวของวันนี้ว่า "อาหารเซเลบ" เพราะอาหารเหนือมื้อนี้เกิดขึ้นที่ร้าน Sava All Day Dining ของ "หมู อาซาว่า" หรือ "พลพัฒน์ อัศวประภา" ดีไซเนอร์ผู้ทรงอิทธิพลวงการแฟชั่นไทย ที่วันนี้ขอจัดดินเนอร์การกุศล ขนเซเลบมาร่วมงาน "From Mountain to Table" เพื่อมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง โดยร่วมมือกับโครงการพัฒนาดอยตุง จังหวัดเชียงราย และเชฟแบม-วรรณพร พิมพิสุทธิ์ เชฟและฟู้ด ดีไซเนอร์ชื่อดัง มาร่วมรังสรรค์เมนูอาหารเหนือ ที่ขนวัตถุดิบทั้งหมดมาจากดอยตุง ตั้งแต่หมูดำ ไก่ดำ งา เครื่องปรุง รวมถึงแมคคาเดเมีย พูดแล้วก็น้ำลายไหล ไปดูไปชมพร้อมๆ กัน ว่ามีเมนูอะไรบ้าง
...
1. ข้าวตังน้ำพริกอาหม่อและผักตามฤดูกาล
หมูสับผงน้ำพริก เป็นน้ำพริกมาจากชนเผ่าอาข่า คลุกรวมกับหมูสับ มะเขือส้ม กระเทียมฝาน เอาไปผัดให้นัวเข้ากัน ใส่น้ำซุปเล็กน้อย เอาข้าวตังไปกริล ใส่ผักต่างๆ ที่มาจากโครงการ กระเจี๊ยบ, ขมิ้นขาว, ผักชีลาว, เปลือกส้ม, กากหมูซาว่า ซึ่งเป็นซิกเนอเจอร์ของซาว่า รสชาติจะออกเผ็ด หวาน เค็ม นิดหนึ่ง ดื่มคู่กับชาอู่หลงก้านอ่อน เป็นชาที่ขึ้นชื่อว่าหอม นุ่ม ชุ่มคอ และมีการปลูกบนพื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศไทย โดยโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ได้เข้ามาสนับสนุนด้านบรรจุภัณฑ์ให้กับเกษตรกรชาว ไร่ชา เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับชาอู่หลงก้านอ่อน และส่งเสริมอาชีพให้กับชาวบ้านอย่างยั่งยืน
2. อ่องปูน้ำจืด และข้าวเกรียบงาดำ
...
อ่องปูเป็นอาหารทางเหนือ เอามาผสมกับซอสมิลิน ซอสปรุงอาหารของญี่ปุ่น จะได้อารมณ์คล้าย "คานิมิโซะ" ของญี่ปุ่นเล็กน้อย ทานกับซัลซาสับปะรดภูแลจากเชียงราย และข้าวเกรียบงาดำจากจังหวัดพิจิตร ที่มักนิยมรับประทานเฉพาะงานมงคล รสชาติออกมันๆ เค็มๆ ตัดเลี่ยนด้วย รสเปรี้ยวของซัลซาสับปะรดภูแล เวลาทานจะได้เทกเจอร์เนื้อปู และความกรอบของข้าวเกรียบงาดำ เป็นการผสมผสานกลิ่นอายชาวเหนือของอ่องปู และความเมืองของซัลซานัวๆ กันออกมาทำให้รสชาติกลมกล่อม
3. ลาบคั่วไก่ดำ ใส่มะแขว่น และผักจากโครงการ
ไก่ดำดอยตุง เป็นไก่ที่มีสีดำตั้งแต่ ขา, เนื้อ, กระดูก เนื้อไก่จะมีความมันน้อยกว่าไก่ทั่วไป คล้ายๆ ไก่บ้าน คนจีนมักนิยมรับประทาน เพราะ "ไก่ดำ" เกิดจากสารที่เรียกว่า "ไมอานิน" เป็นสารสีดำที่มีประโยชน์ เนื้อของไก่ดำมีโปรตีนสำคัญที่ร่างกายต้องการ คือ แอนโดร และอะมิโนแอซิด อีกทั้งเนื้อไก่ดำมีปริมาณไขมันหรือโคเลสเตอรอลต่ำ จึงให้คุณค่าทางอาหารแก่ร่างกายโดยสมบูรณ์ โดยวิธีทำจะนำมะแข่วน หรือ พริกหอม ซึ่งเป็นสมุนไพรที่เกิดขึ้นในป่าภาคเหนือจะออกเฉพาะหน้าหนาว เอามาตำกับเครื่องลาบ แล้วนำไปคลุกกับไก่ดำดอยตุง และแฮมหมูดำรมควันจากกะลากาแฟ ใส่พริกป่น, พริกลาบ, หอมแดง, ผักชีใบเลื่อย หรือหอมเป คลุกรวมกันแล้วนำไปผัด จะได้ลาบคั่วไก่ดำใส่มะแขว่น ที่มีรสชาติเผ็ด เค็มนำ
...
4. สันคอหมูดำย่าง ข้าวฟืนกับส้ามะเขือแจ้ เห็ดเผาะและพริกข่า
นำสันคอหมูดำดอยตุง มาหมักกับมะแขว่น พริกหอมย่าง ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำมัน และซอสปรุงรส นำไปย่างไฟอ่อนๆ รับประทานคู่กับข้าวฟืนไทลื้อ ซึ่งทำจากถั่วเหลืองเอามาตำจนเป็นแป้งเอาไปต้มเทลงโมปล่อยให้เย็น แคะออกมา และนำมาตัด จากนั้นนำข้าวฟืนไปกราแตง ใส่ใต้ความร้อน รสชาติ จืดๆ มันๆ โรยด้วยน้ำพริกข่าแห้งเพิ่มรสชาติ ทานคู่กับส้ามะเขือแจ้ ซึ่งทำมาจากการนำเอาพริกหนุ่มมาเผาและลอกหนังพริกหนุ่มออก คลุกกับน้ำปูใส่กะปิ ตะไคร้ หอมแดง ตำและคลุกรวมกัน ได้รสชาติเผ็ดๆ นัวๆ
5. แกงฮังเลหมูดำน้ำอ้อยและแมคคาเดเมีย กับข้าวหนุกงาขี้ม้อนและผักกาดจอ
...
นำหมูดำดอยตุงมาเคี่ยวใช้เวลาข้ามวันจนเนื้อมีความหยุ่นๆ ทานกับข้าวหนุก ซึ่งเป็นข้าวทางเหนือที่นิยมกินตอนฤดูหนาว เพราะให้พลังงานเยอะ โดยนำ งาหอม หรือ งาขี้ม้อน มาคั่วก่อนแล้วเอามาตำ หลังจากนั้นเอาข้าวหนุกมาคลุกกับงาและเกลือก่อนห่อใบตอง และเอาไปปิ้งให้หอมอยู่ในใบตอง กินกับผักกาดจอ ซึ่งเป็นอาหารที่คนเหนือทุกคนต้องมีในครัว เวลาทำจะเอาผักกวางตุ้งมาหั่นและล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นไปเตรียมน้ำสำหรับจอ โดยการนำเอาน้ำอ้อยมาใส่ส้มมะขามหรือมะขามเปียก กะปิ หอมแดงเผา ตำรวมกันก่อนจะนำไปต้ม จากนั้นให้ใส่น้ำปลาร้า แล้วจึงนำผักกาดมาจอตามประเพณีชาวเหนือ
6. ไอศกรีมกะทิ ข้าวแต๋นน้ำอ้อยงาหอม และขนมเหนียว
อินสไปร์มาจากข้าวแต๋นทางภาคเหนือที่เป็นของว่างเพื่อรับแขกในแบบฉบับของชาวเหนือ นำน้ำอ้อยมาเคี่ยวกับงาดำ แล้วนำไปราดที่ข้าวแต๋น ทานกับขนมเหนียวของภาคกลาง และไอศกรีมกะทิราดข้าวพอง
โอ๊ย...อร่อยติดลิ้น ผ่านไป 3 วัน 8 วัน "อาหารเซเลบ" 6 จานพิเศษนี้ เพราะรสชาติยังคงละมุนละไมกลมกล่อมอยู่ในปากอย่างลงตัว แถมพิเศษด้วยเครื่องปรุงและของแซมอย่างกากหมู แฮมหมูดำรมควันผสมอยู่ในจาน เอาเป็นว่า...อลังการเว่อร์วังไปทั้งปากทั้งร้าน งานนี้ไม่ได้มาขายของนะจ๊ะ เพราะเค้าไม่ทำขายจ้า ทำเพื่อการกุศลทั้งสิ้น งานนี้ใครอยากกิน ต้องรังสรรค์กันเอง เพราะงานนี้เชฟแบมใจดี แจกสูตรให้เสร็จสรรพ เอาไปทำตามกันดูจ้ะ
แต่!!! ถ้าอยากกินจริงๆ มีเพียง 1 เมนูพิเศษเท่านั้น คือ "แกงฮังเลหมูดำน้ำอ้อยและแมคคาเดเมีย กับข้าวหนุกงาขี้ม้อนและผักกาดจอ" ที่จะมีขายในวันที่ 1-31 ธันวาคมนี้เท่านั้น ไปชิมกันที่เดอะเฮลิกซ์ เอ็มควอเทียร์นะจ๊ะ.