อาหารการกินกับผู้คนแต่ละชนชาติ มีบางอย่างน่าสังเกต...
ยกตัวอย่าง คนญี่ปุ่น ถือคติว่า การกินเป็นศิลปะ อาหารญี่ปุ่นขนานแท้แต่ละเมนู จึงมักผ่านการตกแต่งมาอย่างประณีตบรรจง เทียบกับ คนจีน ถือว่า จะกินทั้งทีควรให้มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคไปในตัว หลายเมนูอาหารจีน จึงมีส่วนผสมของยาโป๊ ยาโด๊ป บำรุงโน่นนี่นั่นเพียบไปหมด
คนฝรั่งเศส ถือว่า การกินเป็นพิธีการ แต่ละมื้ออาหารแบบ french style จึงมีพิธีรีตอง ตั้งแต่การแต่งกาย ลีลาการจับช้อน ส้อม มีด กระทั่งการจับก้านแก้วไวน์ให้ถูกที่ ...แนะนำว่า ใครที่หิวตาลายจนจะกินช้างได้ทั้งตัว ถ้าถูกเชิญไปร่วมโต๊ะอาหารฝรั่งเศส ก่อนไป...ควรซัดข้าวหลามรองท้องสักกระบอก!!!
พอกันกับ ผู้ดีอังกฤษ มองว่า การกินแต่ละครั้ง...ควรกินแค่พอเป็นมารยาท ไม่ใช่กินเหมือนผีป่าซาตาน กระหายเนื้อควายดิบ ตรงข้ามกับ อเมริกันชน กว่าร้อยละ 80 ถือคติ ยัด...เน้นเอาอิ่มเข้าไว้ก่อน ไม่ว่าฮอตด็อก แฮมเบอร์เกอร์ น้ำอัดลม หรือ นมเนย แต่ละเมนูจึงมักจัดหนัก มากันแบบบิ๊กไซส์
...
ส่วนพี่ ไทย เรา...เน้นกินเอารสชาติเป็นที่ตั้ง ประเภทร้านไหนมีอะไรดี ลือกันว่าเด็ด อย่าให้รู้ถึงหูครูอังคณา...แห่กันไปที...ร้านแทบพัง...สารภาพครับ “ชาย 1” เองก็รวมอยู่ในนั้นด้วย อิ อิ อิ!!!
พูดถึงรสชาติอาหารแล้ว พลอยนึกไปถึงรสชาติการใช้ชีวิตของคนเรา มีคนเคยทำวิจัยไว้ว่า ผู้ชายที่ผู้หญิงส่วนใหญ่แอบปิ๊งจริงๆนั้น...โดยมากมักไม่ใช่ผู้ชายหงิมๆ ประเภททำตามทุกอย่างที่แม่สั่ง หรือพ่อห้าม
แต่เป็นผู้ชายที่มีลีลาการใช้ชีวิตแบบ Bad Boy นิดๆ ผสมกับ Best Boy หน่อยๆ
หรือพูดอีกอย่าง ชายที่ผ่านการใช้ชีวิตมาอย่างโชกโชน โลดโผน ประเภทเรื่องเก เรื่องชั่วเคยมี เรื่องดีเคยปรากฏ...ใช้ชีวิตครบรสเหมือนน้ำซุปในก๋วยเตี๋ยวต้มยำ...นั่นแหละ...ใช่เลย!!
ว้าวๆๆ...พูดถึงก๋วยเตี๋ยวต้มยำแล้ว นึกเปรี้ยวปากขึ้นมาทันทีครับ วันนี้ “ชาย 1” มีร้านเด็ดในดวงใจอยู่ร้าน อยากแนะนำแฟนคอลัมน์ ชื่อว่า “ร้านนั่งห้อยขา @ นครชัยศรี”
พิกัดของร้านนี้ ถ้ามาจากแยกตลาดท่านา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มุ่งหน้าไปทาง อ.ดอนตูม ราว 1 กม. ก่อนถึงร้านต้องข้ามทางรถไฟ ผ่านโรงเรียนภัทรญาณวิทยาเลี้ยวขวาไปตามโค้งสัก 100 เมตร จะเห็นร้านหลังคามุงจาก ริมบึงน้ำใหญ่ อยู่ขวามือ หรือถ้ามาจากฝั่งวัดสัมปทวน ผ่านหน้าวัดมาแค่ 100 เมตร ร้านจะอยู่ฝั่งซ้าย
อยากบอกว่า เป็นร้านที่เหมาะยิ่งกับวิถีคอต้มยำ ผู้รักความแซ่บเว่อร์ เพราะไม่ว่าจะเป็นเมนู เกาเหลาต้มยำหมูชาม ที่เสิร์ฟหมูเด้งปั้นเป็นรูปชาม ไซส์ล้นๆ มาบนน้ำต้มยำรสเข้มข้น
...
หรือจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำหมูเด้งยักษ์ ต้มยำไข่ยางมะตูม มาม่าไข่ออนเซน ราเมนไข่ออนเซน ที่ระดมใส่มาทั้งหมูเด้ง หมูสับ กับไข่แดงเยิ้มๆ ยั่วเย้าใจให้เอาช้อนทิ่มจิ้มใส่ปาก... แต่ละเมนูล้วนรสชาติปัง ส่วนใครที่ไม่ใช่คอก๋วยเตี๋ยว ถนัดข้าวมากกว่า เค้าก็มีเมนู เล้งแซ่บ กับ ข้าวหมูแดง–หมูกรอบ เป็นอีกทางเลือก
เสน่ห์ดึงดูดใจของก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ เป็นที่ร่ำลือ ไม่เพียงแม่ค้าหน้าตาดี ส่งยิ้มหวานให้ที ลูกค้าแทบหัวใจละลาย...ร่วงลงมาจากเก้าอี้!!! ตัวน้ำซุปยังหอม หวาน กลมกล่อม เข้ากับหมูเด้งเลิศรส เนื้อนุ่มชวนเคี้ยว โอบกอดกับน้ำมะนาวแท้สด ถั่วบด และพริกป่น...ยังไม่ต้องตักชิม แค่เห็น คอก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ก็พากันน้ำลายไหลแล้ว!!!
...
กรรณิกา สวนเวียง หรือ หมิว ผู้เป็นทั้งเจ้าของร้าน และเจ้าของสูตรเด็ด ต้มยำหมูเด้งแซ่บเว่อร์ เบอร์ 1 ขวัญใจมหาชน แขกรับเชิญของคอลัมน์เราวันนี้ แย้มถึงที่มาของความอร่อยอย่างไม่ปิดบังว่า...
เธอปรุงน้ำซุปครั้งละ 12 ลิตร (วันละ 5-6 ครั้ง) โดยใช้ น้ำเปล่า 12 ลิตร เล้ง 2 กก. ผสมกับ น้ำปรุงรสก๋วยเตี๋ยวสำเร็จรูป (ยี่ห้อฟ้าไทย) 350 กรัม น้ำตาลปี๊บ 40 กรัม น้ำตาลกรวด 100 กรัม น้ำกระเทียมดอง 1 แก้ว คนอร์ 2 ก้อน รสดี 5 ช้อนชา ใบเตย กับ หัวไชเท้า พอประมาณ หอมหัวใหญ่ 1-2 แว่น มะระ หั่นท่อน 3-4 ชิ้น กะหล่ำปลี 2 กาบ ตามด้วย รากผักชี กระเทียม พริกไทย ห่อใส่ไว้ในผ้าขาวบาง 1 กำมือ
ต้มส่วนผสมทั้งหมดด้วยไฟกลาง 2 ชั่วโมงเศษ จะได้น้ำซุปออกมา รสชาติปัง!! อย่างกับนางเอก
ส่วน หมูเด้ง ที่รสชาติเทียบได้กับพระเอก หมิวเฉลยว่า เพื่อความสะดวก เธอใช้หมูเด้งแบบปรุงสำเร็จ ที่มีส่วนผสมของหมูเยอะ แป้งน้อย (ยี่ห้อเจ๊ใหญ่) วันธรรมดาใช้ 25 กก. เสาร์-อาทิตย์ วันละ 30-35 กก.
...
โดยนำหมูเด้งปรุงสำเร็จมาผสมเพิ่มกับหมูสับบดละเอียด ในสัดส่วนหมูเด้ง 3 กก. ต่อหมูสับ 2 กก. เพิ่มความหอมและหวานกลมกล่อม ด้วยการเติม น้ำมันงา ลงไป 6 ช้อนโต๊ะ กับ น้ำตาลทรายแดง 4 ช้อนโต๊ะ
“เมนูหมูเด้งชาม หมิวจะใช้หมูเด้งประมาณ 3 ขีด ปั้นขึ้นรูปลักษณะคล้ายชาม ด้วยทัพพีในชามสเตนเลส ใส่ถุงแช่ตู้เย็นไว้เป็นร้อยถุง พอมีลูกค้าสั่ง ก็จะนำลงไปลวกสดๆทั้งชามสเตนเลส แต่ถ้าเป็นเมนูหมูเด้งยักษ์ จะยัดไข่ต้มยางมะตูมเอาไว้ด้านในอีกชั้น วิธีทำไข่ต้มยางมะตูม ก็แค่ต้มไข่เป็ดในน้ำเดือด 7 นาที แล้วรีบเอาขึ้น”
ส่วนเมนูไข่ออนเซน เธอว่า ใช้ไข่ไก่ทั้งเปลือก ครั้งละ 30 ฟอง ใส่ลงไปในน้ำเดือดจัด 12 นาที เติม แป้งมันสำปะหลัง ลงไป 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อว่าเวลาที่ตอกออกมาจะได้เป็นรูปทรงสวยงาม ไม่เหลวเหมือนไข่ลวก
อย่างที่ว่าไว้แต่ต้นครับ ไปถึงร้านนี้ เจออะไรในเมนูที่มีคำว่า “ต้มยำหมูเด้ง” สั่งไปเลย รับรองไม่ผิดหวัง เพราะสอบผ่านทุกเมนู นอกจากนี้ยังมีเล้งแซ่บ เมนูในตระกูลไข่ยางมะตูม และไข่ออนเซนอีก ที่ไว้ใจได้ในรสชาติ
ร้านนี้เปิดขายทุกวัน ตั้งแต่ 09.00-15.00 น. หยุดขายเฉพาะวันพุธ มีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ 09-2119-4913 และ 08-6356-3565 หรือทางไลน์ : Michaellx
คุณชาย 1