เมนูขึ้นสำรับวันนี้ จะเป็นต้มยำก็ไม่ใช่ หรือจะเป็นแกงเลียงก็ไม่เชิง แม้ดูจากเครื่องปรุงแล้ว จะคล้ายๆกับทั้งสองเมนูที่กล่าวมาก็ตาม ส่วนที่เรียกว่า “แกงรัญจวน” นั้น มันสืบเนื่องจากเมนูนี้ซึ่งใช้เนื้อวัวเป็นหลัก ซึ่งเปรียบความหอมของกลิ่นเนื้อ เหมือนกลิ่นกายคนที่หอมรัญจวน เมนูนี้จึงได้ชื่อว่าแกงรัญจวนด้วยประการฉะนี้

ส่วนที่มาของเมนูนี้ เล่าต่อๆกันมาว่า ต้นเครื่อง ในรัชกาล 5 จะจัดเตรียมน้ำพริกกะปิไว้ขึ้นสำรับเครื่องเสวย เวลาที่เสด็จฯประพาส เมื่อเครื่องเสวยที่จัดเตรียมไปยังมีเหลือ ก็จะไม่ทิ้งให้เสียของ สามารถนำมาดัดแปลงเป็นเมนูอื่นๆได้อีก ทั้งเป็นน้ำพริกลงเรือบ้าง ทำเป็นซุปบ้าง ดังเช่น “แกงรัญจวน” ที่ คุณเจี๊ยบ-พัสวี ภัทรพุทธากร หนึ่งในผู้บริหารร้านรสดีเด็ดต้นตำรับ สยามสแควร์ สาขาบรรทัดทอง ได้นำเสนอ

คุณเจี๊ยบ-พัสวี เล่าว่า ก่อนหน้าที่เธอจะหันมาสืบทอดธุรกิจของที่บ้าน เธอเคยทำงานกับพรรคการเมือง ด้วยความที่ชอบเรื่องการบ้านการเมืองมาแต่ไหนแต่ไร แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์พลิกผัน ทำให้เธอไม่อาจหนีพ้นกลิ่นอายของอาหารไปได้ ต้องหันกลับมาจับธุรกิจอาหาร ที่เธอคลุกคลีมาตั้งแต่เด็กๆ และเพื่อจะเรียนรู้การทำอาหารที่ไม่เหมือนกับที่บ้าน เธอจึงไปสมัครเรียนที่กอร์ ดอง เบลอ ดุสิตธานี ขณะนั้นก็ยังได้สร้างความมั่นใจให้ตัวเองด้วยว่า เธอทำได้ โดยไปเข้าแข่งขันในงานไทยเฟล็กซ์ปี 2013 และได้รางวัลเหรียญเงินมาครอง ปัจจุบันนอกจากทำร้านอาหารของตัวเองที่ต่อยอดมาจากธุรกิจร้านอาหารของครอบครัวแล้ว คุณเจี๊ยบยังร่วมกับเพื่อนๆเปิดบริษัทรับเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้จะทำธุรกิจร้านอาหารอีกด้วย

...

คุณเจี๊ยบยังบอกถึงรายละเอียดของแกงรัญจวนว่า มักใช้เนื้อวัวเป็นหลัก เพราะจะนุ่มกว่า โดยเธอจะใช้ส่วนที่เรียกว่าเนื้อน่องลาย เพราะเวลาทานจะมีความกรุบกรอบ ส่วนรสชาติจะต้องกลมกล่อม ทั้งเค็มนิดๆ เปรี้ยวเบาๆ และมีความเผ็ดติดปลายลิ้นหน่อยๆ โดยจะไม่ปรุงรสด้วยน้ำปลา เพราะจะมีกลิ่นคาวไปกลบกลิ่นหอมของกะปิหมด นอกจากนี้กะปิก็มีรสเค็มอยู่แล้ว แต่ถ้าเค็มไม่พอก็เติมเกลือได้

เครื่องปรุง : เนื้อลาย / น้ำมะนาว / ตะไคร้ (บุบแล้วหั่นแฉลบ) / กระเทียมบุบ 10 กลีบ / หอมแดงบุบ / ใบโหระพา / พริกขี้หนูแดงจินดาบุบ / ซุปเนื้อ / น้ำพริกกะปิ (น้ำตาลปี๊บ/กะปิเผา/กระเทียม/พริกขี้หนู นำส่วนผสมทั้งหมดโขลกรวมกัน)

วิธีทำ 1) นำน้ำซุปเนื้อตั้งไฟจนเดือด 2) ใส่พวกเครื่องสมุนไพร ตะไคร้ หอมแดงบุบ กระทียมบุบ พริกแดงบุบ แล้วรอจนเดือด 3) ใส่น้ำพริกกะปิ พอน้ำเดือด 4) ใส่เนื้อลงไป (คอยช้อนฟองออก) พอเนื้อสุก ใส่ใบโหระพาแล้วปิดไฟ จากนั้นจึงใส่น้ำมะนาว เป็นอันเสร็จเคล็ดลับ ควรใส่น้ำมะนาวหลังจากที่ปิดไฟแล้ว เพื่อไม่ให้น้ำซุปออกรสขม.