อีกหนึ่งเมนูอาหารฝรั่งที่คนไทยชอบรับประทาน เพราะมีครบทุกรสทั้งเปรี้ยวหวานมันเค็ม และสามารถทานกับข้าวสวย ได้อย่างเข้ากันอีกด้วย โดยมีวิธีทำอันหลากหลายสไตล์ใครก็สไตล์คนนั้น แต่มาจบที่รูปและรสเดียวกัน สำหรับเมนูสตูว์ไก่ในวันนี้ เป็นสูตรที่ คุณน้ำหวาน-พัสวี พยัคฆบุตร เจ้าของสถาบันความงามแบบเซลส์บำบัด “ฟิลอร์ก้า คลินิก” จากฝรั่งเศส สาขาเดียวในเอเชีย ได้มาจากคุณป้าที่อังกฤษ ซึ่งชอบเรียนรู้การทำอาหารเช่นเดียวกับเธอ
คุณน้ำหวานเล่าว่า คุณแม่ของเธอต้องทำอาหารให้ครอบครัวทานด้วยตนเองทุกวัน โดยมีเธอคอยเป็นลูกมือบ้าง ตามไปช่วยจ่ายตลาดบ้าง เลยได้เรียนรู้แบบครูพักลักจำทั้งสูตรอาหารและเคล็ดลับในการปรุง และเมื่อโตขึ้นเธอเลยได้ช่วยแบ่งเบาความเหน็ดเหนื่อยในการทำอาหารจากคุณแม่ไปได้มากทีเดียว ประกอบกับที่บ้านจะทานอาหารรสเผ็ดไม่ได้ อาหารที่ทำส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์กึ่งยุโรป พวกสตูว์ แต่เนื่องจากคุณพ่อเป็นคนเหนือ น้ำหวานจึงได้สูตรอาหารเหนือพ่วงมาด้วย และไม่เพียงแต่เป็นมือแทนคุณแม่ในการทำอาหารให้ที่บ้านได้ทานเท่านั้น หุ้นส่วนทางธุรกิจทุกคนยังมาฝากท้องไว้ที่บ้านเธออีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น เวลาที่ไปดูงานหรือเจรจาธุรกิจในต่างประเทศ คุณน้ำหวานยังต้องมีหน้าที่ลงครัวอีกด้วย ซึ่งเธอก็เต็มใจทำ เพราะรักและชอบการทำอาหาร เป็นความสุขอย่างหนึ่งค่ะ นอกจากนี้ ยังทำให้เธอได้เรียนรู้และทำความรู้จักกับเครื่องปรุงอาหารของแต่ละประเทศไปด้วย ถือเป็นประสบการณ์ความรู้ที่ไม่สามารถหาได้จากโรงเรียนไหนๆ
...
เมนูที่ขึ้นชื่อของคุณน้ำหวาน นอกจากสตูว์ไก่แล้ว ยังมีข้าวต้มกระดูกหมู ซี่โครงแกะทอดเนยราดไวน์แดง โดยอาหารส่วนใหญ่ที่ทำ คุณน้ำหวานจะคิดทำขึ้นในสไตล์ของเธอเอง โดยขึ้นอยู่กับเครื่องปรุงที่หาได้เป็นหลัก และใช้เวลาอันจำกัด
สำหรับเครื่องปรุงสตูว์ไก่ : ไก่ 2 กก./หอมซุป (หอมใหญ่หัวเล็กๆ) 12 หัว/มันฝรั่ง 12 หัว/เนยเทียมเค็ม 2 ก้อน/ซอสแม็กกี้ 4ชต./ซีอิ๊วขาว 4ชต./ซอสมะเขือเทศ 300 กรัม/ซอส Lea & Perrins 1ชต./พริกไทย 1ชต./น้ำตาล 1 ชต./แป้งมัน 1ชช./เกลือ
วิธีทำ 1) ล้างไก่ให้สะอาดก่อนนำไปหมักกับซอสมะเขือเทศ 150 กรัม และเนยเทียม 1 ก้อน พร้อมด้วยเครื่องปรุงอื่น โดยคลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ประมาณ 3 ชม. 2) จากนั้นนำไก่ไปทอดกับเนยเทียมที่เหลือ และน้ำมัน 3ชต.ด้วยไฟอ่อนๆ พอหอมและหนังไก่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองกำลังดี 3) นำไก่ที่ทอดใส่หม้อ เติมน้ำเปล่า 600 มล. ตั้งไฟจนเดือด จึงใส่มันฝรั่ง หอมซุป พร้อมด้วยซอสมะเขือเทศที่เหลืออีก 150 กรัม และน้ำมันที่เหลือจากการทอดไก่ ให้เทน้ำมันทิ้งเหลือแต่น้ำซอส เทลงในหม้อ ตุ๋นไปพร้อมกับไก่อีกประมาณ 2 ชม. โดยระหว่างตุ๋นค่อยๆเติมน้ำเพื่อไม่ให้น้ำแห้ง และถ้ารสชาติอ่อนไป ค่อยๆเติมเกลือลงไป 4) หลังจากตุ๋นไก่ได้ที่แล้ว ก่อนปิดไฟ ให้เติมแป้งมัน 1ชช. ผสมกับน้ำลงในหม้อตุ๋น ทิ้งไว้อีกประมาณ 10 นาทีค่อยปิดไฟ และถ้าจะให้ได้รสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น ควรทิ้งไว้ 1 คืนค่อยรับประทาน โดยทานได้ทั้งกับข้าวสวย เส้นสปาเกตตี หรือขนมปัง สุดแต่จะชอบสไตล์ไหน.