“ยำขนมจีน” เป็นเมนูอาหารทำง่าย ใช้เวลาเพียงไม่กี่ขั้นตอน แต่อร่อยถูกปากและถูกใจคนไทยเนื่องจากมีรสจัดจ้าน ทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม และเผ็ด อุดมไปด้วยสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่จากเส้นขนมจีน เนื้อสัตว์ และผัก ความพิเศษของเมนูนี้คือ สามารถปรุงเพิ่มหรือใส่วัตถุดิบได้ตามใจชอบ รับรองว่าได้ยำขนมจีนจานเด็ด รสชาติแซ่บโดนใจ
วัตถุดิบยำขนมจีนรสแซ่บ
- ขนมจีน
- ถั่วฝักยาวซอย
- เนื้อปลาทูทอด
- หมูยอลวก
- ต้นหอมซอย
- หอมแดงซอย
- น้ำปลาร้า
- พริกขี้หนู หรือพริกป่น
- น้ำมะนาว
- น้ำตาลปี๊บ
- น้ำปลา
ทั้งนี้ ปริมาณของวัตถุดิบของยำขนมจีนขึ้นอยู่กับความชอบและความเหมาะสม
วิธีทำยำขนมจีนง่ายๆ พร้อมเสิร์ฟภายในไม่กี่ขั้นตอน
วิธีทำยำขนมจีนสามารถทำได้ง่ายๆ ภายใน 3 ขั้นตอน ดังนี้
1. ใส่น้ำปลาร้า เติมน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะนาวคนจนเข้ากันดี
2. ใส่พริกขี้หนู หรือพริกป่น จากนั้นใส่ปลาทูทอด หมูยอลวก ถั่วฝักยาวซอย ต้นหอม และหอมแดงซอย
3. ใส่เส้นขนมจีน คลุกเคล้าให้เข้ากัน จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
...
สูตรยำขนมจีนแต่ละที่ต่างกันอย่างไร?
ตามปกติแล้ว แม้ว่าจะเป็นอาหารเมนูเดียวกัน แต่หากอยู่คนละพื้นที่ก็มักจะมีสูตร หรือความพิเศษแตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกับ สูตรยำขนมจีน ซึ่งในบางพื้นที่จะมีการใส่น้ำปลาร้าสูตรเฉพาะ ใส่เห็ดเข็มทอง มะเขือเทศ กุ้ง พริกคั่ว ไข่แดงเค็ม ใบสะระแหน่ ถั่วลิสง ไข่ต้ม หรือเมล็ดกระถินลงไปด้วย
แม้ว่าสูตรยำขนมจีนแต่ละพื้นที่จะต่างกัน แต่วิธีทำยำขนมจีนก็ยังคงคล้ายคลึงกัน โดยเน้นปรุงน้ำยำ ใส่เครื่องอื่นๆ ลงไป ก่อนจะตามด้วยเส้นขนมจีน เนื่องจากวิธีนี้จะไม่ทำให้เส้นเละเกินไป
ขนมจีนกี่แคล คนลดความอ้วนกินได้หรือไม่?
ขนมจีน 1 จับ จะให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี ซึ่งถือว่าให้พลังงานต่ำกว่าเส้นก๋วยเตี๋ยวจำพวกเส้นบะหมี่ เส้นเล็ก หรือเส้นใหญ่ ดังนั้น หากใครที่กลัวอ้วนหรือกังวลเรื่องแคลอรี เพียงแค่เน้นใส่วัตถุดิบที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แคลอรีต่ำ และกินยำขนมจีนในปริมาณที่เหมาะสมก็อิ่ม อร่อยได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องกลัวอ้วน
สุดท้ายนี้ หากใครที่ชื่นชอบยำขนมจีน หรืออยากลองทำยำขนมจีนรสแซ่บ สำหรับทำกินเองที่บ้านหรือจะทำขาย สามารถนำสูตร หรือวิธีทำยำขนมจีนในข้างต้น มาลองปรับทำตามกันได้ตามความชอบและความเหมาะสม