โซเดียม เป็นสารอาหารชนิดหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย เพราะมีหน้าที่ควบคุมความสมดุลของเหลวในร่างกาย รักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ ช่วยการทำงานของประสาทและกล้ามเนื้อ โซเดียมที่เราได้รับจากอาหารเป็นประจำ คือ โซเดียมที่อยู่ในเกลือ น้ำปลา ซอสปรุงรส ที่ให้รสเค็ม
โดยทั่วไปร่างกายต้องการโซเดียมประมาณ 1,500 มิลลิกรัม/วัน และปริมาณโซเดียมสูงสุดที่ได้รับเข้าสู่ร่างกายแล้วไม่เป็นอันตราย คือ ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน หรือเท่ากับเกลือประมาณ 1 ช้อนชา พระเอกในเรื่องราวของคอลัมน์วันนี้ เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากขนมขาไก่ ที่มีรสเค็มกลมกล่อม ที่เด็กๆ และผู้ใหญ่บางท่านชอบทาน บางคนทานเล่นกันจนเพลิน จนลืมไปว่ารสเค็มกลมกล่อมนั้น มีโซเดียมผสมอยู่ในปริมาณไม่มากก็น้อย ถ้าในหนึ่งวันเราทานอาหารอื่นๆที่ปรุงด้วยเกลือ น้ำปลา ซอสปรุงรส เครื่องปรุงรสชนิดต่างๆ และขนมขาไก่ที่มีรสเค็มเข้าไปมากๆ ก็อาจทำให้เรารับปริมาณโซเดียมเกินความต้องการของร่างกาย
ถ้าเกินบ่อยๆ แล้วร่างกายขับออกไม่หมด ก็จะสะสมจนทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหัวใจและหลอดเลือด การป้องกันไม่ให้เกิดโรคดังกล่าว คือ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ มีรสเค็มน้อย หรือไม่เค็มเลย โดยวิธีเลือกซื้ออาหารที่มีปริมาณโซเดียมน้อยและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพง่ายๆ คือ ให้สังเกตบนฉลากผลิตภัณฑ์ว่ามีสัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ” หรือไม่ ถ้ามี ก็แสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีปริมาณโซเดียม รวมทั้งน้ำตาล และไขมัน อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดไว้ให้ตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์นั้นได้เลย เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะสม ที่สำคัญจะไม่นำไปสู่การเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น ความดันสูง เบาหวาน หัวใจขาดเลือด และโรคไต อีกด้วย
...
วันนี้สถาบันอาหารได้สุ่มตัวอย่างขนมขาไก่ที่วางขายในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 5 ตัวอย่าง เพื่อนำมาวิเคราะห์ปริมาณโซเดียม ผลปรากฏว่าพบโซเดียมในขนมขาไก่อยู่ในช่วง 378-1,620 มิลลิกรัมต่อหนึ่งบรรจุภัณฑ์ เห็นผลวิเคราะห์อย่างนี้แล้ว ขอแนะว่าทานกันได้แต่ไม่ควรทานให้บ่อยนัก และใน 1 วัน ไม่ควรทานเกิน 1 ถุง เพื่อความปลอดภัยและความแข็งแรงของร่างกาย.
ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย