ผู้หญิงวัย 30 ขึ้นไป เป็นวัยทำงานที่กำลังอยู่ในช่วงสร้างเนื้อสร้างตัวมาระดับหนึ่ง มีตำแหน่งงานที่เริ่มดีขึ้น แต่ก็พ่วงมาด้วยความรับผิดชอบที่สูงขึ้น บ้างก็เครียดจากการทำงาน บ้างก็ไม่มีเวลาออกกำลังกาย บ้างก็ป่วยบ่อยเพราะนอนน้อย โหมใช้งานร่างกายหนักขนาดนี้ ต้องหมั่นดูแลสุขภาพหน่อยแล้ว

ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ชวนสาวๆ วัยทำงานมาดูแลสุขภาพด้วยการรับประทาน 'ข้าวไรซ์เบอร์รี่' ซุปเปอร์ฟู้ดที่มีคุณค่าทางอาหารสูง เป็นไอเทมที่คนรักสุขภาพยอมรับกันทั่วโลก

ส่วนจะมีประโยชน์ต่อสาวๆ วัย 30 เยอะแค่ไหน? มาดูกันค่ะ

1. ช่วยควบคุมน้ำหนัก

ข้าวไรซ์เบอร์รี่
มีสารแกมมาโอไรซานอล ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล ลดคอเลสเตอรอล
 เนื่องจากนิยมทานข้าวไรซ์เบอร์รี่แบบเป็นข้าวกล้อง (กะเทาะเปลือกออกโดยไม่ขัดสี) นั่นแปลว่า เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เมื่อกินเข้าไปแล้วร่างกายจะย่อยเป็นน้ำตาลได้ช้า จึงทำให้อิ่มนาน ไม่หิวเร็ว ลดการกินจุบจิบได้

2. มีไฟเบอร์สูง

ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีใยอาหารสูงจากเปลือกหุ้มเมล็ดข้าว นอกจากทำให้อิ่มนานขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ระบบขับถ่ายของสาวๆ ดีขึ้นด้วย ใครที่ท้องผูกเป็นประจำ แค่กินข้าวไรซ์เบอร์รี่ ก็จะช่วยให้ขัดลำไส้ได้ดี ระบบขับถ่ายดีขึ้นจนเห็นได้ชัด

...

3. หน้าท้องแบนราบ

พอเรามีระบบขับถ่ายที่ดีขึ้น ขับถ่ายเป็นเวลามากขึ้น ก็จะช่วยให้ไม่มีของเสียหรืออุจจาระตกค้างในลำไส้ มีส่วนช่วยให้สาวๆ หน้าท้องแบนราบกว่าที่เคย 

4. ดีท็อกซ์ของเสีย


อย่างที่บอกไปว่าข้าวชนิดนี้มีไฟเบอร์สูง จึงช่วยให้ขับถ่ายดี และยังเป็นการดีท็อกซ์ของเสีย เคลียร์สารพิษออกจากร่างกายได้ด้วย 
เนื่องจากไฟเบอร์ที่เราได้รับจากข้าว จะกลายเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ ซึ่งพอแบคทีเรียเหล่านี้แข็งแรงก็จะช่วยให้การทำงานในระบบลำไส้ดีขึ้นไปด้วย

5. มีวิตามินอีสูง

เนื่องจากข้าวไรซ์เบอร์รี่มีวิตามินอีและสังกะสี จึงช่วยคืนความอ่อนเยาว์
ให้สาววัย 30 กลับมาหน้าเด็กอีกครั้ง ช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเด้งเต่งตึง ช่วยลดริ้วรอย
ได้อย่างเห็นผล 

6. โฟเลตสูง

สำหรับผู้หญิงวัย 30 ขึ้นไปที่กำลังจะเป็นคุณแม่ ช่วงที่ตั้งครรภ์นี้ควรหันมากินข้าวไรซ์เบอร์รี่บ่อยๆ เพราะมีสารโฟเลตสูง ช่วยลดความเสี่ยงปากแหว่งเพดานโหว่ของลูกน้อย และป้องกันครรภ์เป็นพิษ
 มีส่วนช่วยสร้าง DNA (สารตั้งต้นการสร้างเซลล์ต่างๆ) ของลูกในครรภ์ได้ดี

7. สารสีม่วง ชะลอความแก่

สังเกตได้ว่าข้าวไรซ์เบอร์รี่มีสีม่วงเข้ม ซึ่งเป็นรงควัตถุสีม่วงเข้มที่พบในข้าวไรซ์เบอร์รี่ เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มันคือสาร "แอนโทไซยานิน" (Anthocyanin) สามารถละลายน้ำได้ดี และจัดอยู่ในกลุ่มของฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) หรือสาร "ต้านอนุมูลอิสระ" ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวหมองคล้ำ ป้องกันแดด
 โดยมีการวิจัยระบุว่า สารต้านอนุมูลอิสระที่พบในข้าวไรซ์เบอร์รี่ มีสูงกว่าในผลไม้ทั่วไปและชาเขียวเกือบ 100 เท่า

8. ร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยบ่อย

เนื่องจากการรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นประจำ ช่วยให้ของเสียต่างๆ ในร่างกายถูกขับออกมาได้หมดจด ขัดลำไส้ให้สะอาดและทำงานได้ดี ส่งผลต่อการดูดซึมวิตามินต่างๆ ได้ดีมากขึ้น พอเรารับวิตามินได้ดีขึ้น จะช่วยให้ผิวพรรณสดใส มีน้ำมีนวล เปล่งปลั่ง และระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายก็ดีขึ้นด้วย จึงทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย

...

9. บำรุงเม็ดเลือด ป้องกันโลหิตจาง

ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีสารช่วยบำรุงให้หัวใจแข็งแรง ช่วยฟื้นฟูเซลล์และกระตุ้นการผลิตเซลล์ใหม่ในร่างกาย มีสารอาหารจำเป็นสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ป้องกันการเป็นโรคโลหิตจาง ป้องกันมะเร็งบางชนิด และลดภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย