เบื่อแล้วกับกีวีรูปแบบเดิมๆ รสชาติอมเปรี้ยว เปลือกก็หนา แถมยังมีขนสากๆ ถึงเราจะรู้ว่ามันอุดมไปด้วยวิตามินซี แต่ก็ทำใจชอบได้ลำบาก แต่ครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะเจ้ากีวีจิ๋วนี้... 

เจ้ากีวีจิ๋วที่ว่านี้มีชื่อเรียกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เบบี้กีวี มินิกีวี เบอร์รี่กีวี หรือกีวีองุ่น แต่อันที่จริงแล้วมีชื่อเรียกทางเทคนิคว่า 'Actinidia arguta หรือ Hardy Kiwi' ซึ่งเป็นกีวีอีกสายพันธุ์หนึ่ง มีลักษณะเป็นไม้เลื้อย นิยมปลูกกันมากในแถบเกาหลี รัสเซีย และจีนทางเหนือ หารับประทานได้ในช่วงปลายฤดูหนาวและต้นฤดูใบไม้ผลิ

หากพูดถึงลักษณะภายนอก กีวีที่ว่านี้จะไม่มีเปลือกหนาสีน้ำตาล แต่จะมีผิวเรียบสีเขียว หรือเขียวปนแดง มีขนาดเท่ากับลูกองุ่น ส่วนด้านในก็จะมีเนื้อสีเขียวและเมล็ดกีวีแบบลูกใหญ่เป๊ะ คุณสามารถล้างและรับประทานได้ทั้งลูก 

ส่วนรสชาติจะมีความหวานชุ่มฉ่ำกว่ากีวีปกติ (ยิ่งสุกก็ยิ่งหวานนุ่ม แต่ถ้าไม่ชอบรับประทานแบบนุ่มๆ...ตอนแข็งก็ยังหวาน) แถมยังมีคุณค่าทางสารอาหารมากกว่ากีวีทั่วไป เพราะอุดมไปด้วย วิตามิน C (ที่มากกว่าส้ม), วิตามิน A, วิตามิน E, วิตามิน B2, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม และไฟเบอร์อีกด้วย 

...

ในต่างประเทศเราจึงมักจะได้เห็นเจ้ากีวีจิ๋วนี้ตกแต่งอยู่บนเค้ก ทาร์ต และของหวานต่างๆ ในร้านเบเกอรี่ไฮโซ หรือไม่ก็แช่อยู่ในค็อกเทลแบบเก๋ๆ เพราะราคาของมันถึงจะไม่แพง แต่ก็ไม่ได้เรียกว่าถูก โดยเฉลี่ยแล้วในห้างสรรพสินค้ามักจะขายเป็นกล่อง ล่าสุดทีมงานไลฟ์สไตล์ไทยรัฐไปเจอเจ้ากีวีจิ๋วนี้ขายอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตในเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ราคากล่องละ 3.5 ยูโร หรือคือเป็นเงินไทยราว 140 บาท มีอยู่ประมาณ 15 ลูก

เราชิมให้แล้ว...เนื้อในมีรสชาติหวานชุ่มฉ่ำจริงๆ ถึงแม้เปลือกจะมีรสฝาดติดปลายลิ้นนิดหน่อย (แค่นิดเดียว) แต่โดยรวมแล้วเราขอสรุปว่า เราชอบมากเลยจ้า.