กล้วยน้ำว้า ผลไม้พื้นบ้านที่อยู่คู่คนไทยมานานหลายชั่วอายุคน กล้วยน้ำว้าบดกับข้าวนิ่มๆ นับเป็นอาหารเสริมชั้นยอดสำหรับเด็กอายุหกเดือน นอกจากการดื่มนมแม่
กล้วยน้ำว้า ผลไม้ไทยที่มีคุณค่าทางอาหารล้นเหลือ สารอาหารที่พบมีทั้งน้ำตาล เบตาแคโรทีน วิตามินซี โปแตสเซียม แมกนีเซียม ทองแดง ฟอสฟอรัส โฟเลต ใยอาหาร และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระโพลีฟีนอล และแทนนิน อีกด้วย
คนไทยทานกล้วยน้ำว้าได้ทั้งผลดิบ ผลห่าม ผลสุก และผลงอม หรือนำมาปรุงเป็นเมนูอาหารคาวหวาน เช่น ผลดิบนำมาทำเป็นส้มตำกล้วย ผลห่ามนำมาทำเป็นกล้วยบวดชี กล้วยทอด ผลสุกนำมาบดกับข้าวเป็นอาหารเสริมให้เด็กทาน
กล้วยน้ำว้าห่ามหรือจวนสุกนั้นมีโปแตสเซียมในปริมาณสูง โปแตสเซียม มีหน้าที่ช่วยการทำงานของระบบต่างๆในร่างกายเป็นปกติ เช่น ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ควบคุมสมดุลของอิเล็กโกรไลต์และสมดุลของกรด-เบสในร่างกาย ควบคุมโรคความดันสูง ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
โปแตสเซียมเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ ปริมาณที่แนะนำให้บริโภคประจำวันสำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไป อยู่ที่ 3,500 มิลลิกรัม
เพื่อเป็นการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภค วันนี้มันมากับอาหาร ได้นำกล้วยน้ำว้าห่าม ผลขนาดใหญ่ที่เปลือกภายนอกสีเหลืองแต่มีสีเขียวประปราย สามารถทานได้สดๆ รสชาติไม่หวานจัด ที่ซื้อจากตลาดจำนวน 5 ตัวอย่าง มาวิเคราะห์ปริมาณโปแตสเซียม
ผลวิเคราะห์พบว่า ในกล้วยน้ำว้าห่าม 1 ผล เฉพาะส่วนที่ทานได้ประมาณ 53 กรัม มีโปแตสเซียมอยู่ในช่วง 170.73–206.38 มิลลิกรัม
เห็นข้อมูลอย่างนี้แล้ว ท่านที่ต้องการโปแตสเซียม ขอแนะให้หันมาทานกล้วยน้ำว้าห่ามแหล่งอาหารธรรมชาติจะดีกว่า หรือท่านที่ท้องเสียอาจเลือกทานกล้วยน้ำว้าห่ามเพื่อชดเชยโปแตสเซียมให้แก่ร่างกาย.
...