เดี๋ยวนี้แทบไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก 'ต้มเล้ง' หรือต้มกระดูกสันหลังที่ติดเนื้อหน่อยๆ นำมาเคี่ยว ปรุงรส มะนาว น้ำปลา พริกขี้หนูโรยเยอะๆ ตามชอบนะ แซ่บซี้ดขั้นสุดค่ะคุณ.... ว่าแต่จะมีสักกี่คนที่รู้จักต้มแซ่บเล้ง ว่ามีที่มาจากไหน ใช้กระดูกส่วนไหนมาทำ วันนี้ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จะพาไปทำความรู้จักประวัติความเป็นมาของ 'ต้มเล้ง' ที่ฮิตกันในปัจจุบัน
ที่มา..เล้งต้มแซ่บ
ต้มแซ่บเล้ง ทำมาจากส่วนไหน?
'เอียเล้ง' คือกระดูกสันหลัง กระดูกชิ้นนี้จะถูกเลาะเนื้อส่วนเต็มๆ ออกไป เหลือเพียงเนื้อติดกระดูกบ้างเล็กน้อยเท่านั้น คือส่วนนี้เอาไปทำอะไรก็คงไม่ได้เนื้อสักเท่าไหร่ เค้าเลยเก็บส่วนนี้ไว้ทำน้ำซุปจ้า
...
ทำไมเรียกเล้ง?
ชื่อ เล้ง ถูกเรียกมานานแล้ว แต่เพิ่งมานิยมก็ตอนที่มีร้านฮิตทำต้มเล้งแซ่บขายกันทั่วสารทิศทุกมุมเมือง ที่มาคำเรียก ก็ชื่อเค้านั่นแหละ ‘เอียเล้ง’ แต่ตัดใช้คำสั้นๆ เรียกว่าเล้ง เล้ง เล้ง แค่เนี้ยง่ายๆ ติดปากแล้ว
เมื่อก่อนราคาถูกมาก ก.ไก่ล้านตัว
จริงๆ ถูกมาก กิโลกรัมละ 25 บาท ถูกนำมาเคี่ยวเป็นน้ำก๋วยเตี๋ยว รสชาติหอมหวานทีเด็ด เดี๋ยวนี้พอหลายร้านมาเปิดก็ได้นำเล้งมาเป็นพระเอก ปัจจุบันกระดูกเล้งก็อยู่ที่กิโลกรัมละ 50-60 บาท หูยยยย...ราคาขึ้นสูงเชียว
รู้จักเพียงคนเฉพาะกลุ่ม
ย้อนไปเมื่อก่อน กระดูกเล้ง จะเป็นเพียงแค่ตัวประกอบของร้านก๋วยเตี๋ยวเท่านั้น ที่ถูกน้ำมาต้มให้น้ำมีรสชาติหวาน หอม กลมกล่อม ของกระดูกสันหลัง พอขายก๋วยเตี๋ยวหมดในแต่ละวัน เล้งพวกนี้ก็จะถูกโยน หรือแกะเลาะเนื้อให้กับน้องหมาข้างทาง
แต่เล้งแพร่หลายในกลุ่มคนที่รู้จักเฉพาะกลุ่ม (สำหรับเมื่อก่อนนะ) เอาจริงๆ มันมีมานานมากแล้ว เพราะบางคนทานก๋วยเตี๋ยวเป็นประจำก็มักจะขอแม่ค้าแยกใส่ถ้วยน้ำซุป เพราะเกรงว่าแม่ค้าจะเหลือทิ้งในตอนท้าย ก็เลยขอมาเลาะเนื้อ ทานไปพร้อมกับก๋วยเตี๋ยวนั่นเอง
ปัจจุบัน 'เล้ง' เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารที่คนชื่นชอบ
พอเล้งกลายมาเป็นพระเอกเต็มตัว คนเริ่มหันมาทำขายเด่นๆ เพียงตัวเดียว ก็กลายเป็นกระดูกสันหลังส่วนที่มีเนื้อน้อย มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาทันที และเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้นด้วยนั่นเอง
กระดูกสันหลัง มีคอลลาเจนเยอะ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ยิ่งทานเล้งยิ่งสวยหล่อไม่เบา เพราะในไขกระดูกมีคอลลาเจนอยู่มาก สังเกตง่ายๆ หากผิวของเราเหี่ยวย่น มีริ้วรอยนั่นแหละ คอลลาเจนในผิวเราลดลงแล้ว เมื่อเราทานกระดูก หรือต้มเล้งเข้าไปก็จะช่วยให้เรามีผิวใสเด้ง แถมยังดูอ่อนกว่าวัยอีกด้วย
เราเชื่อว่าเดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ทำเล้งขายผุดเป็นดอกเห็ด แต่จะให้อร่อยถูกปากก็แล้วแต่รสปากของคุณๆ เอง.