Smart Watch (สมาร์ทวอตช์) ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะเป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่มาพร้อมฟีเจอร์การใช้งานติดตามสุขภาพได้ ไม่ว่าจะเป็น การนับก้าวเดิน การวัดค่าออกซิเจนในเลือด การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ตรวจจับการนอนหลับ รวมไปถึงตรวจวัดระดับความเครียดได้ด้วย สามารถใส่ได้ทุกเพศทุกวัย
นอกจากนี้ Smart Watch (สมาร์ทวอตช์) ยังมีดีไซน์สวยและฟีเจอร์การใช้งานที่ทันสมัย บทความนี้ไทยรัฐช็อปปิ้งจึงได้คัดเลือก Smart Watch (สมาร์ทวอตช์) ราคาไม่เกิน 2,000 บาท มีฟีเจอร์การใช้งานครบ เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ติดตามได้ที่นี่
Smart Watch (สมาร์ทวอตช์) ราคาไม่เกิน 2,000 บาท รุ่นไหนดี ฟีเจอร์ครบ ใส่ออกกำลังกายได้
1. สมาร์ทวอตช์ Redmi Smart Band 2
สมาร์ทวอตช์คุณภาพดีในราคาย่อมเยาจาก Redmi รุ่นนี้ ดีไซน์เครื่องบางเฉียบและมีน้ำหนักเบา หน้าจอ TFT กว้าง 1.47 นิ้ว ช่วยให้เห็นรายละเอียดต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น มีโหมดออกกำลังกายมากถึง 30 โหมด มีระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ระบบวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด รวมไปถึงตรวจสอบคุณภาพการนอนได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังกันน้ำได้ลึกสูงสุดที่ 50 เมตร แบตเตอรี่ขนาด 210mAh ใช้งานทั่วไปได้ยาวนานถึง 14 วัน
...
Redmi Smart Band 2 รองรับการใช้งานทั้ง iOS และ Android
2. สมาร์ทวอตช์ Xiaomi Redmi Watch 3
นาฬิกาสมาร์ทวอตช์ Xiaomi Redmi Watch 3 โดดเด่นด้วยตัวเรือนสี่เหลี่ยมผืนผ้า ดีไซน์ทันสมัย หน้าจอเป็น LED ขนาดใหญ่พิเศษ 1.83 นิ้ว แสดงภาพได้คมชัด สีสดใส มาพร้อมโหมดออกกำลังกายมากถึง 100 โหมด มีเซนเซอร์วัดออกซิเจนในเลือดแบบออปติคัล คอยตรวจจับค่าความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด มีระบบเฝ้าติดตามอัตราการเต้นของหัวใจทุกวันตลอด 24 ชม. รวมไปถึงระบบตรวจสอบคุณภาพการนอน ที่สำคัญยังรองรับการสนทนาผ่าน Bluetooth®️ แบตเตอรี่สามารถใช้งานทั่วไปยาวนานสูงสุดถึง 12 วัน
Xiaomi Redmi Watch 3 รองรับการใช้งานทั้ง iOS และ Android
3. สมาร์ทวอตช์ Amazfit Bip 3
สมาร์ทวอตช์ Amazfit Bip 3 มาพร้อมหน้าจอใหญ่ขนาด 1.69 นิ้ว ภาพสีคมชัด เห็นได้ชัดแม้อยู่กลางแจ้ง มีโหมดออกกำลังกายให้เลือกมากกว่า 60 โหมด มีระบบตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือด ระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดค่าความเครียด การนอนหลับ และยังมีระบบช่วยติดตามประจำเดือนของผู้หญิงด้วย
Amazfit Bip 3 ยังเป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่ช่วยกระตุ้นให้เราเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ มีระบบเตือนเมื่อนั่งนานจนเกินไป และยังมีระบบติดตามการเดินและนับก้าวด้วย
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนข้อความ แจ้งเตือนสายโทรเข้า ใช้เป็นรีโมตถ่ายรูปจาก Smartphone และยังมีฟังก์ชัน Easy Find Smartphone ด้วย
Amazfit Bip 3 รองรับการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน Zepp ทั้ง iOS และ Android
...
4. สมาร์ทวอตช์ Amazfit Bip 3 Pro
Amazfit Bip 3 Pro สมาร์ทวอตช์รุ่นคุ้มค่าอีกรุ่นหนึ่ง ตัวเรือนภายนอกมีความคล้ายกับ Amazfit Bip 3 หน้าจอสัมผัสสี TFT-LCD ขนาด 1.69 นิ้ว คลุมด้วยกระจกนิรภัยและการเคลือบป้องกันลายนิ้วมือ มีโหมดออกกำลังกายให้เลือกมากถึง 60 โหมด นอกจากนี้ยังมีระบบประมวลสุขภาพ PAI และยังมีระบบตรวจสอบระดับความเครียด ถ้าหากมีระดับความเครียดมากเกินไป สามารถผ่อนคลายความเครียดด้วยระบบฝึกการหายใจผ่านนาฬิกาได้ แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 14 วัน
Amazfit Bip 3 รองรับการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน Zepp ทั้ง iOS และ Android
5. สมาร์ทวอตช์ realme Watch S
...
สมาร์ทวอตช์รุ่นนี้เกินงบประมาณที่ตั้งไว้เล็กน้อย แต่นับว่ามีสเปกและฟังก์ชันการใช้งานที่น่าสนใจ ตัวเรือนเป็นทรงกลม หน้าจอ AMOLED รองรับระบบสัมผัส กระจกหน้าจอเป็น Corning Gorilla Glass มีความแข็งแรง ทนทาน นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยน Watch Face ได้มากถึง 100 แบบไม่ซ้ำกัน ในเรื่องสุขภาพมีระบบเซนเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคอล สามารถตรวจจับความเคลื่อนไหว นับก้าว ติดตามการนอนและยังช่วยคำนวณแคลอรีได้ด้วย
realme Watch S รองรับการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน realme Link ทั้ง iOS และ Android
6. สมาร์ทวอตช์ HUAWEI Band 8
HUAWEI Band 8 หน้าจอของรุ่นนี้เป็น AMOLED รองรับระบบทัชสกรีน มีสีสันสดใส ถูกออกแบบมาให้มีความเพรียว บางเป็นพิเศษ โดยมีน้ำหนักเบาเพียง 14 กรัม ทำให้สวมใส่สบายโดยไม่รู้สึกหนักข้อมือ นอกจากนี้ยังมีระบบติดตามสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบ TruSleep ช่วยติดตามและแนะนำการนอนให้มีคุณภาพมากขึ้น TruSeen ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และ TruRelax ตรวจวัดระดับความเครียด มีโหมดออกกำลังกายมากถึง 100 โหมด และยังสามารถออกแบบการวิ่งโดย AI ผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI Health ได้อีกด้วย
...
HUAWEI Band 8 รองรับการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI Health ทั้ง iOS และ Android
7. สมาร์ทวอตช์ Maimo SmartWatch 2.5D
สมาร์ทวอตช์ Maimo รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอสัมผัส TFT-LCD ขนาด 1.69 นิ้ว ทัชลื่นเห็นการแจ้งเตือนต่างๆ ได้อย่างชัดเจน โหมดสุขภาพมีเซนเซอร์คอยตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ระบบวัดค่าออกซิเจนในเลือด มีโหมดการออกกำลังกาย 13 โหมด และมีโหมดวิ่งแข่งกับ AI มาให้ด้วย ซึ่งปรับปรุงและวางแผนการวิ่งของเราให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Maimo SmartWatch ใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่รองรับตั้งแต่ Android 6.0 ขึ้นไป และ iOS 9.0 ขึ้นไป ถ้าหากเชื่อมต่อระบบ iOS จะไม่รองรับการแจ้งเตือนแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น Line, Facebook, WeChat แต่ยังคงแจ้งเตือนสายโทรเข้าและ SMS ได้ตามปกติ
Maimo SmartWatch 2.5D รองรับการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน Maimo Fit ทั้ง iOS และ Android
8. สมาร์ทวอตช์ IMILAB W01
IMILAB W01 มีหน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 1.69 นิ้ว ใช้งานกลางแจ้งก็เห็นชัดทุกการแจ้งเตือน มีหน้าปัดให้เลือกเปลี่ยนได้ไม่ซ้ำถึง 100 แบบ ตัวเรือนกันน้ำได้ที่ระดับ 3ATM หรือลงน้ำลึกได้ถึง 30 เมตร แบตเตอรี่ขนาด 220mAh ใช้งานได้นานสูงสุด 15 วัน
ในด้านสุขภาพมีโหมดออกกำลังกายมากถึง 70 โหมด มีระบบตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือด และตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง สามารถติดตามและวิเคราะห์การนอนหลับ พร้อมให้คำแนะนำได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันช่วยวิเคราะห์วันประจำเดือนมาและวันตกไข่อีกด้วย
IMILAB W01 รองรับการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน Glory Fit ทั้ง iOS และ Android
9. สมาร์ทวอตช์ AUKEY LS02
AUKEY LS02 สมาร์ทวอตช์ดีไซน์สวย มาพร้อมหน้าปัดทรงสี่เหลี่ยม รองรับระบบสัมผัส ขนาด 1.4 นิ้ว มีโหมดกีฬาและโหมดออกกำลังกาย 12 โหมด ตรวจจับความเคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำ ทั้งการนับก้าวเดิน การเผาผลาญแคลอรี เป็นต้น
นอกจากใช้เพื่อติดตามเรื่องสุขภาพได้แล้ว AUKEY LS02 ยังเป็นเหมือน Smart Remote สามารถสั่งงานกิจกรรมต่างๆ บนมือถือผ่านนาฬิกาได้ทันที นอกจากนี้ตัวเครื่องยังกันน้ำระดับ IP68 และใช้งานทั่วไปได้สูงสุดถึง 20 วัน
AUKEY LS02 รองรับการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน AUKEY Fit App ทั้ง iOS และ Android
Smart Watch (สมาร์ทวอตช์) นาฬิกาอัจฉริยะที่ใส่ได้ทุกเพศทุกวัย ใส่เพื่อติดตามและดูแลสุขภาพเบื้องต้น ทั้งติดตามการเคลื่อนไหว นับจำนวนก้าวเดิน คำนวณการเผาผลาญแคลอรีได้ และในบางรุ่นยังช่วยกระตุ้นเตือนให้เราเคลื่อนไหวร่างกายระหว่างวันมากขึ้นได้ เป็นอีกไอเทมที่น่าสนใจสำหรับคนรักสุขภาพ ซึ่งสมาร์ทวอตช์ทั้ง 10 รุ่นข้างต้นที่ไทยรัฐช็อปปิ้งคัดเลือกมาให้ มีฟีเจอร์และการใช้งานทั่วไป ในราคาที่ไม่แพง หากต้องการเปรียบเทียบรุ่นอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถเข้าไปเลือกซื้อได้ทั้งใน Shopee และ Lazada
(ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบราคาอีกครั้งก่อนสั่งซื้อ)