นอกจากประโยชน์จากการใช้สอยอย่างใส่ของใช้สำคัญแล้ว "กระเป๋า" สามารถเป็นได้ทั้งเครื่องประดับ และเครื่องบ่งบอกรสนิยมของคนบางกลุ่ม 

คงไม่มีผู้หญิงคนไหนบนโลกปฏิเสธการเป็นเจ้าของ "กระเป๋า" ดีๆ สักหนึ่งใบ แต่บนโลกนี้ไม่มีกระเป๋าที่ดีที่สุด เพราะกระเป๋าแต่ละแบบมีดีไซน์ต่างกัน รูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังความชอบของผู้ใช้ที่ไม่เหมือนกัน 

แต่ว่าวันนี้ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จะพาคุณไปชมกระเป๋าที่ "แพงที่สุดในโลก" แพงขนาดที่ว่าซื้อบ้านซื้อรถได้เลยล่ะจ้า เอ้า...ทำใจดีๆ แล้วไปดูกันเลย

อันดับที่ 3 Hermes Birkin Bag by Ginza Tanaka

ราคา 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 42 ล้านบาท 

อันดับที่ 3 ตกเป็นของแบรนด์ Hermes แบรนด์เครื่องหนังชั้นสูงจากประเทศฝรั่งเศส ออกแบบโดยชาวญี่ปุ่น ชื่อ Ginza Tanaka ตัวกระเป๋าทำจากแร่แพลตินัมฝังเพชรจำนวน 2,000 เม็ด และยังมีเพชรทรงลูกแพรอีก 8 กะรัต (ซึ่งเพชรทรงลูกแพรนี้สามารถถอดออกมาติดเป็นเข็มกลัดได้) อีกทั้งสายกระเป๋าก็ยังสามารถถอดมาเป็นสร้อยคอหรือสร้อยข้อมือเพชรได้ด้วย

...

อันดับที่ 2 Hermes Kelly Rose Gold

ราคา 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 60 ล้านบาท

กระเป๋าใบนี้ดูภายนอกอาจจะมีลักษณะคล้ายกับกระเป๋า Hermes หนังจระเข้ทั่วๆ ไป แต่อันที่จริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะกระเป๋าใบนี้ทำมากจากทองคำสีชมพูทั้งใบ รวมถึงประดับด้วยเพชรแท้อีก 1,160 เม็ด ที่สำคัญคือเป็นกระเป๋าแฮนด์เมด ทำด้วยมือทั้งใบด้วยนะ อีกอย่างคือ...ทั้งโลกมีแค่ 12 ใบเท่านั้น

อันดับที่ 1 Mouawad 1001 Nights Diamond Purse

ราคา 3.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 114 ล้านบาท

ขึ้นอันดับกระเป๋าที่แพงที่สุดในโลก แพงนำหน้ากระเป๋าแบรนด์หรูอย่าง Hermes ไปแล้วกับ Mouawad 1001 Nights Diamond ด้วยตัวกระเป๋าที่เป็นทองคำแท้ทั้งใบ แถมยังประดับด้วยเพชรแท้น้ำงาม 4,356 เม็ด, เพชรสีเหลืองอีก 105 เม็ด และเพชรสีชมพูอีก 56 เม็ด แถมยังใช้ช่างที่มีฝีมือร่วมกันทำถึง 10 ท่าน จึงไม่แปลกใจเลยที่กระเป๋าใบนี้จะมาอยู่ในตำแหน่งกระเป๋าที่แพงที่สุดในโลก   

อย่างไรก็ตาม เรายังคงมองว่า "กระเป๋า" ไม่ได้ถูกจำกัดว่าต้องมีราคาแพงเท่านั้น เพราะของแบบนี้ขึ้นอยู่กับความชอบและไลฟ์สไตล์การใช้งานของผู้ใช้ เพียงแค่สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมตามกาลเทศะก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ถือคติว่า...ใครชอบแล้วมีกำลังซื้อ เราก็ไม่ห้าม แต่ถ้าต้องเหนื่อยเลือดตากระเด็นเพื่อให้ได้มา...ก็ขอให้คุณทบทวนดูอีกทีว่าจำเป็นหรือไม่? เอ้า...ใครใคร่ซื้อ ก็ซื้อเลยจ้า.

   

ที่มา: financesonline