“พระพุทธโสธร” หรือที่คนทั่วไปเรียกกันแบบติดปากว่า “หลวงพ่อโสธร” จากรุ่นสู่รุ่น... คนไม่น้อยเชื่อศรัทธาเป็นอย่างยิ่งว่าหลวงพ่อท่านศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนักโดยเฉพาะเรื่องการบนบานศาลกล่าว ขอพรสิ่งใดก็มักจะสมหวังดังปรารถนา

วิธีขอพรให้ตั้งสมาธิ ท่องนะโม 3 จบ ท่องคาถาบูชาหลวงพ่อ...บอกชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดอธิษฐานโดยละเอียดแบบตรงๆ 1 ข้อเท่านั้น

หากใครไม่สะดวกเดินทางมาที่วัดหลวงพ่อก็สามารถจุดธูป 3 ดอกไหว้กลางแจ้งได้

อีกศรัทธาความเชื่อที่สำคัญและก็ถือได้ว่าโด่งดังมากนั่นก็คือ การขอพรเรื่อง...“ลูก”

กล่าวกันว่าใครอยากมีลูกเร็วทันใช้ต้องไปไหว้สักการะ ขอพรกับ หลวงพ่อโสธร ว่ากันว่า หลวงพ่อท่านมีความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยเฉพาะบ้านไหนมีบุตรยาก...ไปไหว้ที่นี่แล้วก็มักจะสมหวัง

วิธีการไหว้ที่นิยมกันก็คือ ไหว้ด้วยพวงมาลัย ไข่ต้ม หรือบนบานด้วยการร่ายรำ

เอาล่ะ...คู่รักหลายๆคู่หลังแต่งงานแล้ว ถ้าหากตั้งใจวางแผนครอบครัว...วางแผนที่จะมีบุตรธิดา การงานราบรื่น การเงินเข้มแข็งก่อร่าง สร้างตัวและครอบครัวให้มั่นคงก็มาขอพรกันได้

...

คาถาบูชา “หลวงพ่อโสธร” อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่ว่ากันว่าสามารถสวดอยู่ที่บ้านก็ได้เพียงแต่ขอให้สวดเป็นประจำเพื่อความแคล้วคลาดปลอดภัยอยู่ร่มเย็นเป็นสุข มีเมตตา มหานิยมซื้อง่ายขายคล่อง

ท่องนะโม 3 จบ...นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา ทรงสมุทร ยะ ทรงอากาศ พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูภัยพาลวินาศสันติ นะกาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต ธา กาโร ศรีศากกะยะมุนี โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ เมตตรัยโย ชิวหาทีเต ปัญจะพุทธา นะมามิหัง พุทธะบูชา มะหาเตชะวันโต ธัมมะบูชา มะหาปัญโญ สังฆะบูชา มะหาโภคะวะโห อะระหังพุทโธ อิติปิโสภะคะวา นะมามิหัง

OOOO

“หลวงพ่อโสธร” เป็นหนึ่งในตำนานพระพุทธศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของไทย มีประวัติยาวนานจนไม่ทราบว่าใครคือผู้สร้าง แต่ความงดงามและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธรกลายเป็นที่เล่าขานกันต่อมาหลายยุคสมัย กระทั่งปัจจุบันก็ยังเป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้านตลอดมา

กรมศิลปากรได้ศึกษา “พระพุทธโสธร” อย่างละเอียด พบว่าวัสดุที่ใช้สร้างเป็นหินทราย หลวงพ่อโสธรที่ปรากฏในปัจจุบันเป็นปูนปั้นลงรักปิดทอง พระวรกายแบบเทวรูป พระพักตร์แบบศิลปะล้านนา พระเกตุมาลาแบบปลี ข้อพระกรข้างขวามีกำไลรัดตรึง พระจีวรแนบเนื้อ กว้าง 3 ศอก 5 นิ้ว

และมีพระพุทธรูปอื่นๆอีก 13 องค์ ประดิษ ฐานพระพุทธรูปบนฐานชุกชี โดยมีหลวงพ่อโสธร อยู่ตรงกลาง พลิกแฟ้มประวัติ “วัดหลวงพ่อโสธร” หรือ “วัดโสธรวรารามวรวิหาร” เว็บไซต์องค์การบริหารส่วนตำบลสนามจันทร์ จังหวัดฉะเชิงเทรา อธิบายไว้ว่า แต่เดิมชื่อว่าวัดหงส์ เนื่องจากมีเสาหงส์สูง ปลายเสาเป็นรูปหงส์ คาดว่าสร้างจากฝีมือช่างชาวมอญ ภายหลังเสาหัก

...

ส่วนที่เป็นตัวหงส์ตกลงมาชาวบ้านจึงนำผ้าไปผูกไว้ ผู้พบเห็นจึงเรียกว่า “วัดเสาธง” เมื่อผ่านแดดผ่านฝนหลายสมัยเสานี้ได้หักลงมาอีก ชาวบ้านจึงพากันเรียกว่า “วัดเสาธงทอน” ตามลักษณะของเสาที่หักลงมาเป็นสองท่อน...

และจากหนังสือโสธรวรารามวรวิหาร เล่าประวัติวัดหลวงพ่อโสธรในรัชสมัยรัชกาลที่ 5

คำว่า “โสทร” สะกดด้วย ท ทหาร และใน พ.ศ.2458 สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสเสด็จตรวจราชการคณะสงฆ์ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ทรงวินิจฉัยว่า ผู้ให้ชื่อวัดนี้ว่า “วัดโสธร” นั้น ไม่ใช่เป็นคนไม่มีความรู้ เพราะชื่อนี้เป็นชื่อที่ไพเราะ ทั้งแปลก็ได้ความหมายดีด้วย

OOOO

“วัดหลวงพ่อโสธร” มีประวัติยาวนานกว่า 250 ปี...“หลวงพ่อโสธร” หรือ “พระพุทธโสธร” เป็นพระพุทธปฏิมากรปางสมาธิ ประทับอยู่เหนือรัตนบัลลังก์ 4 ชั้น ปูลาดด้วยผ้าทิพย์

...

ในอดีตเล่าขานกันว่ามีพระพุทธรูปลอยน้ำมาพร้อมกัน 3 องค์ องค์แรกคือ “หลวงพ่อวัดบ้านแหลม” มีชาวบ้านอัญเชิญขึ้นที่วัดบ้านแหลม จังหวัดสมุทรปราการ องค์ที่สองคือ “หลวงพ่อโตบางพลี” ซึ่งมีชาวบ้านอัญเชิญขึ้นที่วัดบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เช่นกัน

องค์สุดท้ายลอยมาไกลถึงเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา ผุดขึ้นที่หน้าวัดหงส์ หรือวัดเสาธงทอน ชาวบ้านให้ชื่อว่า “หลวงพ่อโสทร” เพราะมีความหมายว่าเป็นพี่น้องร่วมอุทรกับองค์พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ที่ลอยน้ำมาพร้อมกัน วันที่อัญเชิญหลวงพ่อโสทรขึ้นมาจากแม่น้ำ ตรงกับวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 5 ราว พ.ศ.2313

ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงสถาปนากรุงธนบุรี

รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสเมืองฉะเชิงเทรา ในปี พ.ศ. 2451 และได้ทอดพระเนตรหลวงพ่อวัดโสธร และได้มีพระราชดำรัสถึงหลวงพ่อว่า ...“องค์ที่สำคัญว่า เป็นหมอดีนั้น คือองค์ที่อยู่ตรงกลาง ดูรูปตักและเอวงาม ทำนองเดียวกับพระพุทธรูปเทวปฏิมากร (วัดพระเชตุพน) แต่ตอนบน กลายเป็นฝีมือผู้ที่ไปปั้นว่าลอยน้ำมา ก็เป็นความจริง เพราะเป็นศิลา คงทำไม่ได้ในที่นี้”

...

วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2458 รัชกาลที่ 9 พระราชทานยก “วัดโสธร” ขึ้นเป็นพระอาราม หลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร นามว่า “วัดโสธรวรารามวรวิหาร”...ไหว้หลวงพ่อโสธร ผู้ที่มาขอพรมักขอเรื่องโชคลาภ ธุรกิจ การรักษาพยาบาลและอื่นๆ นอกจากนี้แล้วผู้คนไม่น้อยยังมีความเชื่อในเรื่องความฝัน บวกการทำนายเลข

จึงมักขอพรหาเลขที่เกี่ยวข้องกับวันเกิดหลวงพ่อโสธร รวมถึงขนาดหน้าตัก ความสูงของพระพุทธรูปไปเสี่ยงโชค อย่างไรก็ดีหากบนบานศาลกล่าวแล้วสัมฤทธิผล ผู้มาสักการะมักแก้บนด้วยไข่ต้มหรือรำถวาย ซึ่งพบเห็นตะกร้าไข่ต้มและนางรำอยู่ในพื้นที่วัดเป็นจำนวนมาก

และมักเตือนกันต่อๆกันด้วยว่าห้ามขอบนให้ไม่ผ่านการเกณฑ์ทหาร เพราะว่าใครที่มาขอให้จับได้ใบดำ มักได้ใบแดงอยู่เสมอไป รวมถึงการขอลูกที่อาจจะไม่ประสบผลสำเร็จ

“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.

รัก–ยม

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหนือฟ้าใต้บาดาล” เพิ่มเติม